เหวงสมชื่อ เตรียมยื่นร่างแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 309 อ้างรัฐประหาร 19 ก.ย.49 เป็นกบฏ ไม่สมควรมีมาตรานี้ แถทำเพื่อป้องกันรัฐประหาร สุดท้ายหน้าจ๋อยพรรคบอกยังไม่ควรยื่น ไม่อยากเป็นประเด็นทางการเมือง อีกด้านเตรียมบุกอัยการสูงสุดถามเรื่องถอดยศ “อภิสิทธิ์”
วันนี้ (14 ต.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย เมื่อเวลา 14.00 น.นพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงการยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 309 ทั้งฉบับ ว่า ตนได้ทำหนังสือชี้แจงเหตุผลของการยื่นร่างรัฐธรรมนูญนี้ โดยหนังสือสรุปสั้นๆ คือ เห็นว่าการทำรัฐประหารเป็นกบฎ แม้จะชนะก็ถือว่าเป็นกบฎ เพราะตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 113 ระบุว่า มาตรา 113 ผู้ใดใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลัง ประทุษร้าย เพื่อ 1.ล้มล้างหรือเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ 2.ล้มล้างอำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร หรืออำนาจตุลาการแห่ง รัฐธรรมนูญ หรือให้ใช้อำนาจดังกล่าวแล้วไม่ได้ หรือ 3.แบ่งแยกราชอาณาจักรหรือยึดอำนาจปกครองในส่วนหนึ่งส่วนใด แห่งราชอาณาจักร ผู้นั้นกระทำความผิดฐานเป็นกบฏ ต้องระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต
ดังนั้นคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) หรือคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย (คปค.) ก็คือกบฏ โดยประกาศฉบับที่ 3 ของ คปค.ตามที่คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ได้ทำการยึดอำนาจปกครองประเทศไว้เรียบร้อยแล้วนั้น เพื่อความสงบเรียบร้อยในการปกครองประเทศ คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข จึงให้ 1.รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2540 สิ้นสุดลง ก็คือล้มล้างรัฐธรรมนูญ 2.วุฒิสภา สภาผู้แทนราษฎร คณะรัฐมนตรี และศาลรัฐธรรมนูญ สิ้นสุดลงพร้อมกับรัฐธรรมนูญ ก็คือการล้มล้างอำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร และอำนาจตุลาการ
นพ.เหวง กล่าวว่า ดังนั้น คมช.หรือ คปค.จึงเป็นกบฏและปกป้องตัวเองโดยใช้รัฐธรรมนูญชั่วคราว ปี 2549 มาตรา 36 และ 37 หลังจากนั้นก็ใช้มาตรา 309 ที่ระบุว่า บรรดาการใดๆ ที่ได้รับรองไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2549 ว่าเป็นการชอบด้วยกฎหมายและรัฐธรรมนูญ รวมทั้งการกระทำที่เกี่ยวเนื่องกับกรณีดังกล่าวไม่ว่าก่อนหรือหลังวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้ ให้ถือว่าการนั้นและการกระทำนั้นชอบด้วยรัฐธรรมนูญนี้ เป็นการปกป้องการกบฏ ดังนั้นจึงไม่สมควรที่จะปล่อยให้รัฐธรรมนูญมีมาตราที่ปกป้องการกบฏ
นอกจากนี้พรรคเพื่อไทยได้หาเสียงไว้ว่า จะคืนความสุขให้คนไทย คืนประชาธิปไตยให้ประชาชน การยกเลิก มาตรา 309 เป็นหัวใจที่สำคัญที่สุดในการคืนประชาธิปไตยให้ประชาชน และที่ศาลรัฐธรรมนูญบอกว่าการแก้รัฐธรรมนูญหากจะยกร่างใหม่ต้องถามประชามติหรือไม่อย่างนั้นก็ให้แก้เป็นรายมาตรา ตนก็เห็นว่าการแก้มาตรา 309 เป็นการทำตามคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ และเป็นการป้องกันไม่ให้มีการรัฐประหารอีกต่อไป
นพ.เหวง กล่าวต่อว่า ตนจึงเรียนไปยังคณะกรรมการยุทธศาสตร์ ซึ่งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ก็เห็นชอบในหลักการณ์ แต่หากจะทำในนามของพรรคคณะกรรมการยุทธศาสตร์เห็นว่าควรรอต่อไปอีกนิด ตนจึงเรียนว่าจะยื่นเป็นการส่วนตัวเพราะ ส.ส. ในพรรคก็แนะนำว่าตนควรยื่นในนามส่วนตัว ทางคณะกรรมการยุทธศาสตร์ก็ไม่ขัดข้อง ดังนั้นพรุ่งนี้ (15 ตุลาคม) เวลาประมาณ 09.30 น.ตนจะยื่นต่อนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา
ต่อมาเวลา 15.10 น.นพ.เหวง แถลงว่า พรรคพิจารณาแล้วเห็นว่ายังไม่ควรยื่น เพราะควรรอให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 190 และมาตรา 68 ผ่านไปก่อน ตนจึงขอเลื่อนการยื่นให้ยกเลิกมาตรา 309 ออกไปก่อน แต่ไม่ได้ยกเลิก ทั้งนี้เพื่อไม่ให้เกิดประเด็นทางการเมืองเพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 2 มาตรา ก็มีประเด็นมากพออยู่แล้ว
นพ.เหวง ยังแถลงอีกว่า ในวันที่ 17 ต.ค.ตนพร้อมเพื่อน ส.ส.จะเดินทางไปศาลปกครองเพื่อทวงถามความคืบหน้าคำร้องที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ฟ้อง พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต อดีต รมว.กลาโหม กรณีที่มีคำสั่งให้ถอดยศนายอภิสิทธิ์ว่าคดีมีความคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว เนื่องจากผ่านมาเป็นเวลานานแล้ว นอกจากนี้ ในวันดังกล่าวจะเดินทางไปยื่นหนังสือถามศาลรัฐธรรมนูญด้วยว่า ศาลปกครองมีอำนาจพิจารณากรณีดังกล่าวหรือไม่ และควรจะเร่งดำเนินการให้เป็นที่ยุติหรือไม่ เพราะศาลรัฐธรรมนูญได้ออกมาชี้แจงกรณีการวินิจฉัยสถานภาพการเป็น ส.ส.ของนายอภิสิทธ์ว่า ต้องรอคำพิพากษาของศาลอื่นเสียก่อน