xs
xsm
sm
md
lg

“ตุลย์” ชงคำตัดสินศาลอุทธรณ์ ต่อ ป.ป.ช.มัด “ดำรงค์” ฮุบป่าจริง ชี้ฟ้องหมิ่นจบแล้ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

 บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา บริษัท เอเอสทีวี ผู้จัดการ จำกัด
บก.อาวุโสสื่อผู้จัดการ นำคำสั่งศาลอุทธรณ์ยื่น ป.ป.ช.มัดตัวอดีตอธิบดีกรมอุทยานฯ ฮุบป่าเชียงรายจริง แจง ฟ้องหมิ่นสื่อผ่าน 2 ศาล โดยเฉพาะศาลอุทธรณ์ชี้ชัดทำตามหน้าที่ “ดำรงค์” เอี่ยวทุจริตจริง แต่เรื่องค้างอยู่ใน ป.ป.ช.5 ปี หวั่นเงียบแบบคดี ขรก.ระดับสูงรายอื่น ย้ำเชื่อมันกระบวนการยุติธรรม ส่วนคดีหมิ่นยกฟ้อง 2 ศาลถือว่าจบ



วันนี้ (11 ต.ค.) นายตุลย์ ศิริกุลพิพัฒน์ บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา บริษัท เอเอสทีวีผู้จัดการ จำกัด ได้เข้ายื่นคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่ระบุว่า นายดำรงค์  พิเดช อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ หัวหน้าพรรคทวงคืนผืนป่าแห่งประเทศไทย เกี่ยวข้องกับการทุจริตต่อหน้าที่ สมัยเป็นป่าไม้จังหวัดเชียงราย กรณีการปล่อยให้มีการรุกป่าดอยแม่สลองหลายพันไร่  โดยเฉพาะตัวนายดำรงค์ มีการนำเอาพื้นที่ป่า 47 ไร่ ตั้งศูนย์ลิ้นจี่  ซึ่งการยื่นครั้งนี้ เพื่อให้ ป.ป.ช.นำคำพิพากษาดังกล่าวไปประกอบสำนวนที่ก่อนหน้านี้ตำรวจได้สรุปส่งให้ ป.ป.ช.ดำเนินการเอาผิดกับนายดำรงค์

นายตุลย์ กล่าวต่อว่า การที่ นายดำรงค์ เอาพื้นที่ป่าไปตั้งศูนย์ลิ้นจี่ เคยมีคนนำเรื่องนี้มาร้องต่อ ป.ป.ช.  ครั้งนั้นเมื่อนายดำรงค์ทราบ ก็มีการเปลี่ยนเอาชื่อของคนอื่นมาสวมสิทธิ์เป็นเจ้าของ ทำให้ต่อมาอัยการสั่งไม่ฟ้อง และแม้มีการเปลี่ยนศูนย์ลิ้นจี่ไปปลูกพืชอย่างอื่น แล้วใช้ชื่อคนอื่นเป็นเจ้าของ แต่เกษตรกรที่ทำกินอยู่โดยรอบก็ยืนยันว่า สวนดังกล่าวเป็นของ “นายหัวเอี้ยง” หรือของนายดำรงค์  หลังจากนั้นไม่นานตำรวจได้มีการสอบสวนและมีหลักฐานใหม่ว่า นายดำรงค์ มีการทุจริต จึงได้ส่งเรื่องมาให้ ป.ป.ช.ดำเนินการในฐานที่นายดำรงค์ เป็นข้าราชการระดับ 8 แต่จนถึงขณะนี้ ป.ป.ช.ก็ยังไม่มีการชี้มูลใดๆ ออกมา

“เรื่องนี้ทางเอเอสทีวีได้ขุดคุ้ยและนำเสนอเป็นข่าว และสกู๊ปข่าว ถูกนายดำรงค์กับพวกฟ้องในข้อหาหมิ่นประมาท  ทั้งในศาลอาญาใต้ ศาลจังหวัดเชียงราย และศาลอาญารัชดา ซึ่งแม้ศาลชั้นต้นจะสั่งลงโทษเอเอสทีวี  แต่ศาลอุทธรณ์ได้ยกฟ้องทั้งหมด  แต่คำพิพากษาที่สำคัญคือของศาลอาญารัชดา เพราะหลังตำรวจส่งสำนวนความผิดให้ ป.ป.ช.พิจารณา นายดำรงก็ฟ้องเอเอสทีวีอีก ซึ่งศาลชั้นต้นปี 55 ยกฟ้อง โดยให้เหตุผลว่า เอเอสทีวีเสนอข่าวตามความเป็นจริง เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ และนายดำรงค์เกี่ยวข้องกับการทุจริตจริง  และเมื่อวันที่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์ก็ได้พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ว่าเอเอสทีวีผู้จัดการได้ทำหน้าที่สื่อเสนอความจริง จึงไม่มีความผิด นอกจากนี้ในคำพิพากษายังระบุประเด็นความผิดของนายดำรงค์ เป็นข้อๆ หลายประเด็น  ซึ่งผมเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาของ ป.ป.ช.ในคดีดังกล่าว จึงได้นำคำพิพากษามายื่นให้กับ ป.ป.ช.รวมทั้งเกรงว่าที่ผ่านมา หากเป็นการร้องข้าราชการระดับ 8 เมื่อมาถึง ป.ป.ช.หลายคดีมักจะเงียบหาย หรือขาดอายุความ ซึ่งไม่อยากให้เกิดขึ้นกับคดีนี้ เพราะจะเป็นการปล่อยให้คนชั่วลอยนวล” นายตุลย์ กล่าวและว่า ในคดีหมิ่นประมาทตามหลักกฎหมายแล้ว หากศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง จะถือว่าคดีถึงที่สุดแล้ว จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ ป.ป.ช.ควรเร่งพิจารณาชี้มูลความผิดนายดำรงค์

นายตุลย์ ยังให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวเว็บไซต์ ว่า เรื่องดังกล่าวอยู่ที่ ป.ป.ช.มา 5 ปีแล้ว ยังไม่มีความคืบหน้า ขณะที่ผ่านมาทั้งศาลชั้นต้น โดยเฉพาะศาลอุทธรณ์ ที่มีคำตัดสินชัดเจน โดยจุดมุ่งหมายของเราที่มายื่น ป.ป.ช.ครั้งนี้ คือเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม


กำลังโหลดความคิดเห็น