โฆษก พท.โต้ “มัลลิกา” นำภาพนายกฯสวมเสื้อแดงร่วมม็อบแดง จนมีเหตุล้มประชุมอาเซียน ไม่เหมาะร่วมวงผู้นำ อ้างไร้สาระ โวเจริญสัมพันธ์ ตปท.เยี่ยม เย้ย อิจฉา ขุดมุกยุค ปชป.ชอบทะเลาะเพื่อนบ้าน แถรถไฟความเร็วสูงหนองคาย แผนอนาคต ชม กปท.ยอมกลับสวนลุมฯเรื่องดี ย้ำหวังล้มรัฐไม่ประมาทกลับมาอีกรอบ กล้าพูดเพื่อภาพลักษณ์ อย่าชุมนุมช่วงนายกฯจีนเยือน เผย “เหลิม” สบายดี
วันนี้ (10 ต.ค.) ที่รัฐสภา นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงการที่ น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นำภาพ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่เคยสวมชุดแดงร่วมการชุมนุมกับคนเสื้อแดงจนเป็นเหตุให้การประชุมผู้นำอาเซียนในปี 2552 ที่พัทยาล้มไม่เป็นท่า พร้อมกับนำภาพปัจจุบันที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไปประชุมอาเซียนมาเปรียบเทียบกัน แสดงให้เห็นว่านายกฯไม่มีความเหมาะสมในการเข้าร่วมประชุมอาเซียนในครั้งนี้ ว่า สิ่งที่ น.ส.มัลลิกา นำเรื่องนี้มาพูดเพื่อหวังโจมตี และทำลายความน่าเชื่อถือของนายกรัฐมนตรี ตนมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระอย่างมาก เพราะภาพลักษณ์การทำงานตลอดระยะเวลา 2 ปี ของนายกฯเป็นการเจริญสัมพันธ์ไมตรีกับต่างชาติ ซึ่งมีผลงานเป็นที่ประจักษ์
“แทนที่ผู้หญิงด้วยกันจะให้ความชื่นชม แต่กลับให้สัมภาษณ์เหมือนกับอิจฉานายกฯ เพราะหากเปรียบเทียบกับสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี มีความสัมพันธ์กับต่างประเทศราวฟ้ากับเหว ที่ชอบทะเลาะกับประเทศเพื่อนบ้าน ทำคนไทยตามแนวชายแดนต้องอพยพไปยังประเทศเพื่อนบ้าน การที่สมาชิกพรรค ปชป.นำภาพนายกฯมาเสนอ เพราะหวังแค่ดิสเครดิต และมุ่งจับผิดแบบไร้สาระ เหมือนพวกเล่นเกมโชว์” นายพร้อมพงศ์กล่าว
ส่วนกรณีที่ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษก ปชป.กล่าวโจมตีพรรคเพื่อไทยว่าทำโรดโชว์อนาคตไทยเข้มแข็ง 2020 โดยระบุว่า รถไฟฟ้าความเร็วสูงจะผ่านที่จังหวัดหนองคายเป็นเรื่องโกหกนั้น นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเป็นโครงการที่รัฐบาลตั้งใจนำโอกาสไปให้กับประชาชนทุกภาค โดยเป็นแผนโครงการในอนาคตที่จะเชื่อมโยงระบบขนส่งไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยตนขอท้าไปยังนายอภิสิทธิ์ว่า หากยังเห็นรถไฟความเร็วสูงไปจังหวัดหนองคาย ว่ารัฐบาลทำได้จริงหรือไม่ก็ขอให้สมาชิกพรรคปชป.อย่าคัดค้านโครงการดังกล่าว
โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการที่กลุ่มกองทัพประชาชนโค่นล้มระบอบทักษิณ (กปท.) ยอมถอนการชุมนุมบริเวณทำเนียบรัฐบาลกลับไปยังสวนลุมพินี 1 วัน ที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง โดยเห็นแก่ภาพลักษณ์ของประเทศในการเป็นเจ้าบ้านต้องรับนายกรัฐมนตรีของประเทศจีนที่เดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ว่า เป็นสิ่งที่ดี ที่กลุ่มผู้ชุมนุมยอมถอนการชุมนุม แต่ตนเชื่อว่าม็อบกลุ่มดังกล่าวไม่ใช่ม็อบปกติ เพราะมีเป้าหมายหลักในการล้มรัฐบาลเพื่อไม่ให้รัฐบาลชุดนี้สามารถบริหารประเทศต่อไปได้ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลก็ไม่ประมาท และเตรียมการตั้งรับกับกลุ่มม็อบที่อาจกลับมาชุมนุมอีกครั้ง แม้ พ.ร.บ.ความมั่นคงจะประกาศใช้ถึงวันที่ 18 ตุลาคมก็ตาม ซึ่งหากมีการชุมนุมอีกครั้งก็เป็นหน้าที่ของฝ่ายความมั่นคงที่จะประเมินสถานการณ์ว่าจะขยายระยะเวลาประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงต่อไปอีกหรือไม่ นอกจากนี้ขอเรียกร้องว่า ระหว่างที่นายกรัฐมนตรีจีนเดินทางมายังประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 11-13 ตุลาคมนี้ ไม่อยากให้มีการชุมนุม หรือเกิดเหตุความวุ่นวายใดๆ เนื่องจากเชื่อว่าจะต้องมีผู้ติดตามนายกรัฐมนตรีจีนที่เป็นภาคเอกชนร่วมคณะมาด้วย และภาพเหล่านี้อาจถูกเผยแพร่ไปทั่วโลก และเป็นภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อการลงทุนของประเทศไทย ซึ่งหากเกิดความเสียหายขึ้นก็หาผู้รับผิดชอบไม่ได้ด้วย
นายพร้อมพงศ์ ยังกล่าวว่า ข่าวลือการเสียชีวิตของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน คงเป็นเพียงการปล่อยข่าวหวังผลทางการเมือง สร้างความสับสน ยืนยันว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง เพราะได้เดินทางไปเยี่ยม ร.ต.อ.เฉลิม ด้วยตัวเอง ท่านยังแข็งแรงดี ยิ้มแย้มแจ่มใส และยังบอกว่า “เดี๋ยวอาก็กลับบ้านแล้ว” ซึ่งหลังจากมีกระแสข่าวเรื่องนี้ออกมา ตนก็ยังได้โทรศัพท์ไปถามคนใกล้ชิดของ ร.ต.อ.เฉลิม ก็ยืนยันว่า ไม่มีปัญหาอะไร ร.ต.อ.เฉลิม จะเดินทางกลับบ้านในเวลา 18.00 น.วันที่ 10 ต.ค.