กมธ.พิจารณากู้ 2 ล้านล้าน เลือก “ส.ว.ธวัช” นั่ง ปธ.พร้อมตั้งรอง ปธ.และปธ.ที่ปรึกษา ปธ.กมธ.ขอเพิ่มกรอบการทำงานอีก 30 วัน เหตุเชิญหลายหน่วยงานแจง ต้องรอบคอบ ปัดประวิงเวลา ชี้ ยื่นศาลพิจารณา ถือว่าเป็นสิทธิ นัดถกอีกครั้ง 11 ต.ค.มี 10 หน่วยงานแจง ส่งรายงาน กมธ.ให้ ปธ.วุฒิ 12 พ.ย.ลงมติเห็นชอบ 18 พ.ย.
วันนี้ (9 ต.ค.) ที่ประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ วุฒิสภา วงเงิน 2 ล้านล้านบาท ได้มีมติเลือกให้ นายธวัช บวรวนิชยกูร ส.ว.สรรหา เป็นประธานคณะ กมธ.และให้ นายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ ส.ว.ราชบุรี น.ส.วิชุดา รัตนเพียร ส.ว.สรรหา และ นายสมชาติ พรรณพัฒน์ ส.ว.นครปฐม เป็นรองประธานคณะ กมธ.นอกจากนี้ได้แต่งตั้งให้ นายพิเชต สุนทรพิพิธ ส.ว.สรรหา เป็นประธานที่ปรึกษาคณะ กมธ.
นายธวัช กล่าวว่า ทั้งนี้คณะ กมธ.ได้พิจารณาภาพรวมของร่าง พ.ร.บ.แล้วมีความจำเป็นที่จะต้องขอให้ที่ประชุมวุฒิสภาขยายกรอบเวลาการทำงานของคณะ กมธ.ออกไปอีก 30 วันจากเดิมที่จะสิ้นสุดลงในวันที่ 21 ต.ค.เนื่องจากต้องเชิญส่วนราชการถึง 18 หน่วยงานมาชี้แจง และให้ข้อสังเกตกับคณะ กมธ.ทำให้กรอบระยะเวลาเดิมจึงไม่เพียงพอต่อการทำงานของคณะ กมธ.
“การขอขยายกรอบเวลาออกไปไม่ได้เป็นการประวิงเวลา แต่ต้องเพิ่มเวลา เพราะต้องการให้การทำงานเกิดความรอบคอบเพราะมีเนื้อหาที่ต้องร่วมกันพิจารณาเป็นจำนวนมาก ส่วนกรรมาธิการบางคนที่ได้แสดงเจตนารมณ์จะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ภายหลังผ่านขั้นตอนของรัฐสภานั้นคิดว่าเป็นสิทธิที่สามารถกระทำได้ตามรัฐธรรมนูญและจะไม่ส่งผลต่อการทำงานของคณะ กมธ.” นายธวัช กล่าว
ประธานคณะ กมธ.กล่าวอีกว่า ทั้งนี้คณะ กมธ.จะนัดประชุมอีกครั้งในวันที่ 11 ต.ค.ระหว่างเวลา 10.00-16.00 น.โดยได้เชิญส่วนราชการถึง 10 หน่วยงานเข้ามาชี้แจง ประกอบด้วย 1.สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา 2.สำนักงบประมาณ 3.สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ 4.กรมบัญชีกลาง 5.สำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร 6.สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ 7.สำนักปลัดกระทรวงการคลัง 8.สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ 9.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และ 10.ธนาคารแห่งประเทศไทย
นายธวัช กล่าวว่า ทั้งนี้คณะ กมธ.ได้จัดทำเอกสารกำหนดการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.โดยมีสาระสำคัญ คือ ในวันที่ 7 พ.ย.จะเป็นการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ของคณะ กมธ.เป็นวันสุดท้าย และจะส่งรายงานของคณะ กมธ.ให้กับ นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภาในวันที่ 12 พ.ย.เพื่อนัดประชุมวุฒิสภาลงมติเป็นรายมาตราในวาระที่ 2 และให้ความเห็นชอบในวันที่ 18 พ.ย.ต่อไป