ศาล รธน.มีมติไม่รับคำร้อง วิปค้าน-40 ส.ว.ให้ศาลวินิจฉัยตาม ม.154 แก้ที่มา ส.ว.ขัด รธน.ชี้ คำร้องไม่เข้าเกณฑ์ตาม ม.154 แจงมติ 5 ต่อ 4 เลือก “จรูญ” นั่งปธ.ศาล รธน. เผยยังไม่มีวาระแก้ไขที่มา ส.ว. และม. 68
วันนี้ (9 ต.ค.) ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้องที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร และประธานวุฒิสภา ส่งความเห็นของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน กับคณะ และนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา กับคณะ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 154 วรรคหนึ่ง (1) ว่าร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับที่มา ส.ว.มีความขัดแย้งต่อรัฐธรรมนูญ หรือตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้
เนื่องจากเห็นว่ารัฐธรรมนูญได้บัญญัติเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญไว้เป็นการเฉพาะในหมวด 15 มาตรา 291 โดยบัญญัติหลักเกณฑ์ และวิธีการตาม (1) ถึง (7) ว่าให้ต้องทำเป็นญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ และเสนอเป็นร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม ไม่ใช่ทำเป็นร่างพระราชบัญญัติ อีกทั้งมาตรา 291(7) ได้บัญญัติให้นำบทบัญญัติที่เกี่ยวกับการตราพระราชบัญญัติเฉพาะมาตรา 150 และมาตรา 151 มาใช้บังคับโดยอนุโลม ไม่ได้บัญญัติให้นำมาตรา 154 ซึ่งเป็นบทบัญญัติว่าด้วยการควบคุมการตราพระราชบัญญัติมิให้ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญโดยให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นองค์วินิจฉัย มาใช้บังคับ ดังนั้นเมื่อพิจารณาบทบัญญัติดังกล่าวประกอบกันแล้วกรณีตามคำร้องนี้จึงไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 154 วรรคหนึ่ง (1) ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะรับไว้วินิจฉัยได้
อย่างไรก็ตามสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญยังได้ชี้แจงผลการเลือกประธานศาลรัฐธรรมนูญคนใหม่ ที่มีการประชุมไปเมื่อวันที่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมาว่าที่ประชุมได้เลือกนายจรูญ อินทจาร เป็นประธานศาลรัฐธรรมนูญด้วยมติ 5 ต่อ 4
ผู้สื่อข่าวรายงานจากศาลรัฐธรรมนูญ ว่า การประชุมของคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้ ไม่มีวาระการพิจารณาคำร้องเกี่ยวกับร่างแก้ไขเพิ่มรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับที่มาของ ส.ว. ทั้ง 4 คำร้องรวมเป็น 1 สำนวน ซึ่งยังอยู่ระหว่างรอให้ผู้ถูกร้องทั้ง 312 คน ทำคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาส่งกลับมายังศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน เพื่อจะได้รวมเข้าสำนวนเพื่อประกอบการพิจารณาต่อไป รวมทั้งคำร้องเกี่ยวกับการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญมาตรา 68 และ มาตรา 237 ว่าอาจเป็นการล้มล้างการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย ทั้ง 6 คำร้องรวมเป็น 1 สำนวน เนื่องจากยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบเอกสาร หลักฐานและรายงานที่คณะกรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 68 และมาตรา 237 ส่งมาให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาเพื่อนำมาประกอบสำนวนก่อนหน้านี้
