นายกฯ เปิดสัมมนานโยบายบริหารราชการ สตช. งบฯ 57 ผบ.ตร.รายงาน ทำงานทะลุเป้า ลดอาชญากรรม ยาเสพติด “ปู” ให้นโยบาย ย้ำต้องไม่มีการซื้อขายตำแหน่ง โตได้ด้วยความสามารถ ปราศจากทุจริตทุกรูปแบบ ปรับวิธีการสอบสวน ยึดหลักนิติธรรม ลดความเหลื่อมล้ำไม่ดำเนินคดีแบบเน้นเชิงปริมาณ หนุนสวัสดิการเสริมขวัญกำลังใจ ปรับปรุงบริการโรงพักแบบวันสต็อปเซอร์วิส รองรับ AEC ยิ้มรับสื่อจี้ “นช.แม้ว” ส่งซิกปรับ ครม. ปัดแจง
วันนี้ (3 ต.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานพิธีเปิดการสัมมนามอบนโยบายการบริหารราชการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ 2557 ให้กับข้าราชการระดับผู้บังคับการขึ้นไป จำนวน 250 นาย โดยมีพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงห์แก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และผูับังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ใหัการตัอนรับ โดยน.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ประกอบพิธีถวายพานพุ่มสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 4 และขึ้นแท่นรับความเคารพจากกองเกียรติยศ ของนักเรียนนายร้อยตำรวจหญิง พรัอมตรวจแถวกองเกียรติยศ
ผบ.ตร.กล่าวรายงานว่า การทำงานที่ผ่านมาบรรลุเป้าหมาย สามารถควบคุมลดความรุนแรงอาชญากรรรม ลดปัญหายาเสพติด การรักรักษาความเรียบร้อยการชุมนุม ปรับปรุงสวัสดิการ วิสัยทัศน์เป็นตำรวจมืออาชีพเพื่อประชาชน เพื่อนำนโยบายสู่การปฎิบัติด้วยความเรียบร้อย
จากนั้นนายกฯ กล่าวมอบนโยบายว่า สตช.ถือเป็นหน่วยงานหลักในการดูแลชีวิตทรัพย์สินและความสงบเรียบร้อยของสังคม จึงอยากเห็นแนวนโยบายสอดคล้องสภาวะสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปตามกระแสโลกาภิวัตน์ และทราบทาง สตช.ได้ปรับแนวทางต่างๆ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันรวมถึงนโยบายรัฐบาล แนวทางการบริหารบุคลากรเห็นด้วยกับการสร้างขวัญกำลังใจผู้ปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ เพื่อส่งผลให้การดูแลประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนรูปแบบการบริหารงานปี 57 ทราบว่าแผนงาน สตช.มีการบูรณาการร่วมกับยุทธศาสตร์จังหวัดไปแล้ว รัฐบาลเน้นพื้นที่เป็นศูนย์กลาง ผู้บังคับการจังหวัดก็จะมีส่วนสำคัญในการบูรณาการร่วมกับทางจังหวัด และขอขอบคุณที่เอาตัวชี้วัดของจังหวัดมาบูรณาการร่วมกับแผนงาน และอยากเห็นการจัดสรรงบประมาณปี 58 มีการบูรณาการร่วมกันมากขึ้น เสริมสร้างในพื้นที่ให้มีความเข้มแข็ง เพราะคนในพื้นที่จะรู้ปัญหาได้ดีกว่า เอานโยบายไปขับเคลื่อนอย่างเป็นระบบ
“ขอย้ำการเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมายให้และอำนวยความยุติธรรม โดยหลักนิติธรรม รักษาสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน ให้เกิดความเป็นธรรมทุกฝ่าย ลดความเหลื่อมล้ำสังคม เพื่อการเข้าถึงกฎหมายอย่างเป็นธรรม ปรับระบบวิธีการสอบสวนไม่เน้นเชิงปริมาณ แต่ลดอาชญกรรมยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง อยากเห็น สตช.ปราศจากการทุจริตคอรัปชั่นทุกรูปแแบบ ตรวจสอบได้ ต้องไม่มีการซื้อขายตำแหน่งในองค์กรนี้ ต้องเติบโตตามความสามารถ ตามภารกิจ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจเจ้าหน้าที่” นายกฯ กล่าว
นายกฯ กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในเชิงบุคลากร อุปกรณ์ต้องเพียงพอต่อการปฏิบัติภารกิจ เพื่อเสริมสร้างขวัญกำลังใจและเป็นภูมิคุ้มกันให้ประชาชน เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหา ขณะเดียวกัน อยากเห็นการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดโดยใช้วิธีการป้องกันและปราบปราม แก้ไขปัญหาสังคม เพราะเร่งรัดคดีเป็นเรื่องปลายทาง ส่วนปัญหายาเสพติดที่ก่อให้เกิดปัยหาอาชญกรรมและเศรษฐกิจ ต้องเสริมภูมิคุิมกันประชาชน ป้องกันตั้งแต่ต้นทาง เร่งแก้ ปัญหาหนี้นอกระบบ มาเฟีย อยากให้ปัญหาเก่าหมดไปและอย่าให้มีปัญหาใหม่เกิดขึ้นในพื้นที่ หรือแม้แต่การค้ามนุษย์ การลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฏหมาย การขนของหนีภาษี การตัดไม้ทำลายป่า การบุกรุก อยากเห็นการบูรณาการในพื้นที่ร่วมกัน ขณะที่ปัญหาอาชญกรรมข้ามชาติส่งผลกระทบภาพลักษณ์ประเทศ ควรนำเทคโนโลยีมาแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน ถ้าแก้ปัญหาเหล่านี้ก็จะลดปัญหาสังคม และรัฐบาลยังได้ตั้งศูนย์ OSCC หรือศูนย์สังคม โดยกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นเจ้าภาพ รวมกับ สตช.
ส่วนเรื่องของการท่องเที่ยว บุคลากรต้องเพียงพอเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวให้ปลอดภัย ควบคุมการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อสร้างมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยว นำเทคโนโลยีกำลังพลเข้ามาเพื่อให้การท่องเที่ยวเป็นที่ปลอดภัยและประทับใจ หากปัญหาเกิดขึ้นเพียงเรื่องเดียวก็ส่งผลกระทบแล้ว และไทยกำลังก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียนอยากเห็น สตช.บูรณาการพัฒนาโรงพัก และการปฏิบัติงานของสถานีตำรวจ ให้บริการแบบวันสต็อปเซอร์วิสมากขึ้น การอบรมบุคลากรต้องเน้นรับเรื่องราวหลายอย่างพร้อมๆ กัน เพื่ออำนวยความสะดวก เพื่อการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็วพัฒนาระบบจราจรที่มีประสิทธิภาพ เพราะการเข้าสู่ประช่คมอาเซียนจะต้องมีการเปิดด่านเชื่อมโยงต่างๆ มากขึ้น จะทำอย่างไรเพื่อให้การดูแลความสงบรองรับกับคนจำนวนมากที่จะเข้ามา พัฒนาระบบอุปกรณ์ให้กับเจ้าหน้าที่ที่จะอำนวยความสะดวกเจ้าหน้าที่ทำงานง่ายขึ้น
นายกฯ กล่าวว่า การดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของการชุมนุมประท้วง ต้องขอขอบคุณที่เปิดกว้างในการแสดงคิดภายใต้ระบอบประชาธิปไตย แต่ก็ต้องอยู่ในกรอบของกฎหมาย และขอบคุณที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างละมุนละม่อม สันติวิธี ตามหลักสากล การชุมนุมอาจมีปัญหาหลายอย่าง อยากให้มีการประสานทางจังหวัเใกล้ชิดยิ่งขึ้น เพื่อการแก้ไขปัยหาได้ทันถ่วงที
ทั้งนี้ การสร้างขวัญกำลังใจ สวัสดิการ ที่จะเพิ่มขีดควาสามารถทุกระดับ โดยเฉพาะผู้บังคับบัญชาระดับสูง เพื่อให้เกิดความรู้เท่าทันสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ให้เกิดการทำงานที่เป็นทีม มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ให้โอกาสในการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ให้เกิดความเข้าใจในการทำงานร่วมกัน มีภาวะการเป็นผู้นำ มีมติทั้งภาคทฤษฎีและการปฏิบัติ เพื่อปรับปรุงพัฒนาองค์กรชัดเจนมากขึ้น ภูมิใจศักดิ์ศรีการเป็นตำรวจไทย สร้างขวัญกำลังใจ ตนยินดีรับฟังข้อเสนออย่างต่อเนื่องเพื่อปรับปรุงการทำงานร่วมกัน ในนามรัฐบาลขอขอบคุณทุกท่านที่ทำงานร่วมกันมาอย่างดีตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ที่ทุ่มเททำงานให้กับประชาชนเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นและปลอดภัย
ผู้สื่อข่าวรายงานภายหลังจากเสร็จสิ้นพิธีการระหว่างที่นายกฯ จะเดินทางกลับไปยังรัฐสภานั้น ผู้สื่อข่าวได้พยายามสัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ส่งซิกให้ปรับคณะรัฐมนตรีภายในเดือนตุลาคม โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ปฏิเสธที่จะตอบคำถามสื่อมวลชน เพียงแต่ยิ้มและเดินไปขึ้นรถทันที