xs
xsm
sm
md
lg

“อุเทน” แนะรัฐใช้ 2 คลองระบายน้ำบางปะกง ยันหนุนแก้แต่ไม่ใช่แบบตาบอดคลำช้าง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ข้อความจากเว็บไซต์เฟซบุ๊ก Utain Shartpinyo
อดีต ปธ.กก.ผันน้ำ แนะรัฐเร่งระบายน้ำบางปะกงลงคลองแสนแสบ-ประเวศน์บุรีรมย์ ซัด 2 ประตูระบายน้ำตัวกั้นลงอุโมงค์พระราม 9 ย้ำรีบเอาออกเร็วที่สุด เซ็งไม่มีใครฟังมัวแต่ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ลั่นไม่ได้ค้านไปทุกเรื่อง หนุนแก้ปัญหาน้ำแต่ไม่ใช่แบบตาบอดคลำช้าง เชื่อรัฐรับฟังทุกฝ่ายจะได้คะแนนนิยมคืน

วานนี้ (1 ต.ค.) นายอุเทน ชาติภิญโญ อดีตที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีด้านการบริหารจัดการน้ำ ได้เขียนข้อความผ่านเว็บไซต์เฟซบุ๊กส่วนตัว Utain Shartpinyo เพี่อแสดงความคิดเห็นและเสนอแนะแนวทางแก้ปัญหาสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดปราจีนบุรีขณะนี้ว่า ตนขอแนะวิธีแก้ปัญหาด้วยการนำน้ำระบายผ่านจากบางปะกง เข้ามา กทม.ผ่านคลอง 2 คลอง คือ คลองแสนแสบ และคลองประเวศน์บุรีรมย์ โดยเปิดประตูระบายน้ำที่ตั้งอยู่กลางคลองทั้งสอง คือ ประตูระบายน้ำหนองจอก และประตูประเวศน์ 100% ตนเคยเสนอให้ทุบทิ้งทั้งสองประตูเมื่อคราวน้ำท่วมปี 54แต่ ไม่มีใครกล้าสั่ง ประตูทั้งสองนี้กลายเป็นบานกั้นน้ำทำให้น้ำไหลลงอุโมงค์สูบน้ำพระราม 9 เป็นไปได้ไม่ดีช้ามาก เป็นเหตุให้น้ำไหลลงอุโมงค์ไม่ทันการสูบ

นายอุเทนระบุว่า ประตูทั้งสองนี้ในอดีตมีไว้เพื่อกั้นน้ำไม่ให้ไหลลงมาเข้า กทม.เมื่อมีน้ำหลากในกรุงเทพฯ เช่นกันยามหน้าแล้ง กรมชลประทานจะเปิดประตูเพื่อระบายน้ำจากบางปะกงให้ไหลเข้า กทม. ดังนั้น ขณะนี้ กทม.ได้ใช้งบสร้างประตูระบายน้ำเป็นอุโมงค์ยักษ์ แล้วทำไมไม่กล้าใช้คลองแสนแสบ-ประเวศน์บุรีรมย์ช่วยระบายน้ำ ในเมื่อการระบายน้ำจากแม่น้ำปราจีนฯ ไปบางปะกงเพื่อลงสู่อ่าวไทย สภาพกายภาพของเส้นทางน้ำตลอดแนวไม่ดี เล็กและคดเคี้ยวมาก ไหลไม่สะดวก อีกทางหนึ่ง คือ ใช้ประตูระบายน้ำบริเวณริมถนนสุขุมวิทสายเก่า ตั้งแต่ตำหรุ บางปลา เจริญราษฎร์ ฯลฯ สามารถช่วยสูบน้ำระบายออกอ่าวไทยได้อีกทางหนึ่ง

“ขอเตือนว่า สิ่งสำคัญในการแก้ปัญหาน้ำท่วมน้ำหลากใน กทม. คือ การนำน้ำออกจากแผ่นดินโดยเร็วที่สุด ซึ่งจุดที่จะเอาน้ำออกไปจากแผ่นดินที่สั้นและง่าย เสียค่าใช้จ่าย/ลงทุนน้อย คือการนำน้ำออกแถวสุขุมวิทสายเก่า ตั้งแต่สุดแนวกั้นน้ำพระราชดำริ ตั้งแต่ตำหรุ ต่อไปตามแนวถนน จนถึงบางปะกง ซึ่งเป็นเขตรับผิดชอบของโครงการส่งน้ำ/บำรุงรักษาน้ำชลหารพิจิตร เคยบอกแล้วว่าใช้จุดต่างตรงนี้ 13 จุดระบายน้ำลงทะเลเลย ง่าย ถูก เร็ว เสียดายไม่มีใครฟังเลย มัวแต่จะใช้เงินแบบตำน้ำพริกละลายน้ำ” นายอุเทนระบุ

อย่างไรก็ตาม นายอุเทนยืนยันว่า ตนไม่ใช่คนประเภทค้านหรือเห็นต่างจากรัฐบาลไปเสียทุกเรื่อง และตนเห็นด้วยต่อการแก้ปัญหาน้ำแล้ง น้ำท่วมของรัฐบาล ที่ต้องเร่งรีบทำเพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชนอย่างถาวร แต่ไม่ใช่การแก้แบบที่รัฐบาลทำอยู่ในเวลานี้ ซึ่งเคยบอกแล้วว่า เป็นการกระทำของคนไม่ทราบ ไม่รู้ เป็นการกระทำแบบตาบอดคลำช้าง จนถึงการใช้งบที่มากมายเกินความจำเป็นด้วยการเขียนข้อกำหนดของงานอันประหลาด พิสดาร จึงเป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ แล้วเราประชาชนได้อะไร ถ้าไม่ใช่แค่เสียงบ เสียเงิน โดยไม่ได้ประโยชน์ที่ควรแก่การแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน

“หากรัฐบาลกล้าถอย กล้าแก้ TOR กล้าเปลี่ยนวิธีและรับฟังทุกฝ่ายมากกว่านี้ เชื่อว่าความนิยมจะกลับคืนมา ขอจงกล้ารับผิดชอบในแต่ละโครงการ ในแต่ละนโยบาย เช่น A1 เรื่องการสร้างอ่างเก็บน้ำ ก็บอกตรงๆ ว่าสร้างเขื่อน และผมขอยืนยันอีกว่าประเทศไทยยังจำเป็นต้องสร้างเขื่อนและต้องเป็นเขื่อนที่พร้อมผลิตกระแสไฟฟ้าด้วย แต่ต้องดู พิจารณาดีๆ ว่าต้องสร้างที่ใดซึ่งจะเกิดปัญหาผลกระทบน้อยที่สุดกับสาธารณสมบัติและสังคม ดังนั้นจึงไม่เห็นด้วยที่จะสร้างที่แม่วงก์ ควรย้ายจุดเปลี่ยนวิธีเก็บกักชะลอน้ำน่าจะดีกว่านะ” นายอุเทนระบุ


กำลังโหลดความคิดเห็น