“อุดมเดช” ยักไหล่ “คำนูณ” แฉพิรุธแก้ รธน. ลั่นอะไรจะใหญ่ไปกว่ามติรัฐสภาไม่ได้

อดีตประธานวิปรัฐบาลอ้างร่างแก้ รธน.ฉบับจริงไม่ตรงสำเนาไม่ใช่สาระสำคัญจนทำร่างตก ยันทำถูกต้อง ผ่าน 3 วาระ แถม กมธ.กลั่นกรองแล้ว ทำเป็นงง เพิ่งพูดหลังผ่านสภา ลั่นอะไรจะใหญ่ไปกว่ามติรัฐสภาไม่ได้ ด้าน ส.ว.กทม.ชี้ผิดตั้งแต่ต้น งงปล่อยผ่านไปได้ยังไง ขณะที่ “ส.ว.คำนูณ” ย้ำแสดงให้เห็นชำเรากฎหมายมิชอบ

วันนี้ (1 ต.ค.) นายอุดมเดช รัตนเสถียร ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มาของ ส.ว. กล่าวว่า จากกรณีที่นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา ได้ตั้งข้อสังเกตว่ามีการไปเพิ่มเติมเนื้อหาในหลักการของร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในหลายประเด็น เช่น การเปิดโอกาสให้ ส.ว.สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งได้ติดต่อกัน 2 วาระ ซึ่งไม่ตรงกับต้นฉบับเดิมที่ผู้เสนอได้ยื่นให้ประธานรัฐสภานั้นเห็นว่าเรื่องดังกล่าวไม่น่าจะเป็นสาระสำคัญที่จะมีผลให้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญตกไปได้

นายอุดมเดชกล่าวว่า ยืนยันว่ากระบวนการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ดำเนินการอย่างถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ และที่สำคัญร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญดังกล่าวได้ผ่านการพิจารณาและลงมติของรัฐสภาถึง 3 วาระและการกลั่นกรองในชั้นของคณะกรรมาธิการที่มีนายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย เป็นประธาน

“ส่วนตัวสงสัยว่าทำไมไม่มีการพูดถึงประเด็นนี้ตั้งแต่การอภิปรายในรัฐสภา แต่กลับมาพูดกันภายหลังจากรัฐสภาให้ความเห็นชอบไปแล้ว จึงอาจมองได้ว่าเป็นความพยายามเพื่อต้องการอย่างหนึ่งอย่างใดเกี่ยวกับการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งคิดว่าในเมื่อฝ่ายนิติบัญญัติมีมติไปแล้วถือว่าทุกอย่างสิ้นสุดแล้ว อะไรจะมาใหญ่ไปกว่ามติของรัฐสภาไม่ได้” นายอุดมเดชกล่าว

ด้าน น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม.กล่าวว่า ถือว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในกลุ่มที่มาของ ส.ว. ผิดมาตั้งแต่ต้น เพราะเชื่อว่ามีการนำไปแก้ไขในเวลาต่อมา หลังผู้เสนอร่างได้ยื่นร่างแก้ไขต่อประธานสภาฯ ไปแล้ว ซึ่งโดยปกติหากจะมีการแก้ไข ในชั้นพิจารณาในวาระ 1 ผู้เสนอร่างจะต้องขออนุญาตที่ต่อประชุมและนำไปแก้ไขใหม่ให้ถูกต้องและนำมาเสนอใหม่อีกครั้ง ตนจึงไม่ทราบว่าทำไมถึงปล่อยให้สิ่งที่ไม่ถูกต้องเลยผ่านไปได้อย่างไร หรืออาจกลัวว่า ส.ว.จะลงรับสมัครเลือกตั้งไม่ทันกำหนดในต้นปีหน้า

ขณะที่นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา ผู้เปิดประเด็นดังกล่าว กล่าวว่า สาเหตุที่ผู้เสนอร่างไม่ต้องการรอให้ไปแก้ไขในชั้น กมธ.วิสามัญฯ นั้น เป็นเพราะเกรงว่าจะไม่สามารถทำได้ เพราะขัดต่อหลักการของการเสนอร่างที่ไม่มีการนำเสนอแก้ไขในมาตรา 116 เอาไว้ คือ เปิดโอกาสให้วุฒิสภาลงสมัครรับเลือกตั้งรับเลือกตั้งต่อเนื่องได้ อย่างไรก็ตาม ตนขอย้ำว่าเรื่องดังกล่าวนี้จะเป็นประเด็นสำคัญรวมกับประเด็นอื่นๆ อีกมากในการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญถึงความไม่ชอบต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้