ผบ.ทบ.สั่งทุกค่ายทหารรับมือน้ำท่วม ยังไม่วางใจเกิดอุทกภัย ทัพเรือเตรียมติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำที่ลาดกระบัง-เพิ่มจำนวนเครื่องผลักดันน้ำในปราจีนบุรี ทัพฟ้ากำชับกองบินในพื้นที่ ออกช่วยเหลือประชาชนในทันทีหากเกิดเหตุน้ำท่วม
วันนี้ (26 ก.ย.) ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก (ททบ.5) เมื่อเวลา 14.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมว่า เท่าที่ได้รับรายงานทราบว่ามีน้ำท่วมทั้งหมด 27 จังหวัด ซึ่งน้ำลดลงไปแล้ว 2 จังหวัด เหลือ 25 จังหวัด ที่ผ่านมา ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพภาคได้จัดกำลังเข้าไปช่วยเหลือ และรายงานเข้ามาที่กองทัพบก จากนั้นเราก็ได้รายงานไปที่กองบัญชาการกองทัพไทย รวมถึงกระทรวงกลาโหมรับทราบแล้ว ในระหว่างบูรณาการการทำงาน ได้มีการประชุมร่วมกันทุกสัปดาห์กับศูนย์บรรเทาสาธารณภัยของรัฐบาลว่าได้แบ่งการช่วยเหลืออย่างไรเพื่อไม่ให้ซ้ำซ้อนกัน คาดว่าสถานการณ์จะไม่รุนแรงเหมือนปี 2554 แต่เรื่องน้ำท่วมและอุทกภัยยังไว้วางใจ และประมาทไม่ได้ ต้องเตรียมการไว้ให้พร้อม โดยได้สั่งการให้ทุกหน่วยของกองทัพสำรวจอาวุธยุทโธปกรณ์ ฝึกซ้อม และเตรียมการ เปิดช่องทางการติดต่อสื่อสารกับประชาชนในพื้นที่กับส่วนราชการ โดยทุกค่ายทหารสามารถออกปฏิบัติงานได้ทันทีตามการอนุมัติล่วงหน้าของกองทัพบกอยู่แล้ว
เมื่อวันที่ 26 ก.ย. น.อ.วิพันธุ์ ชมะโชติ รองเลขานุการกองทัพเรือ กล่าวถึงความคืบหน้าในการสนับสนุนคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ว่า จากการที่กองทัพเรือได้จัดส่งเครื่องผลักดันน้ำไปยัง จ.ปราจีนบุรี รวม 8 เครื่อง โดยติดตั้งบริเวณใต้สะพานหน้าเมือง ซึ่งเป็นจุดคอขวดที่ทำให้น้ำเคลื่อนตัวได้ช้า จำนวน 3 เครื่อง เมื่อน้ำผ่านจุดนี้ไปยัง อ.บ้านสร้าง กองทัพเรือได้ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำอีก 5 เครื่องไว้รองรับ เพื่อส่งน้ำออกสู่แม่น้ำบางประกงให้เร็วที่สุด แต่เนื่องจากมวลน้ำยังคงมีปริมาณมาก กองทัพเรือจึงเตรียมจัดส่งเครื่องผลักดันน้ำไปยัง จ.ปราจีนบุรี เพิ่มเติม ตามที่ได้รับการร้องขอ ส่วนการเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ในพื้นที่ กทม.กองทัพเรือเตรียมติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ จำนวน 33 เครื่อง ในพื้นที่ลาดกระบัง ตามที่ กบอ.ร้องขอ เพื่อให้สามารถใช้งานได้ทันทีที่ระดับน้ำสูงขึ้น
ด้านกองทัพอากาศ พล.อ.ต.มณฑล สัชฌุกร โฆษกกองทัพอากาศ กล่าวว่า ในส่วนการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยของกองทัพอากาศ ขณะนี้กองทัพอากาศโดย ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศได้สั่งการไปยังคณะทำงานบรรเทาสาธารณภัยของกองบินต่างๆ ที่อยู่ในพื้นที่ที่เกิดน้ำท่วมให้ออกทำการช่วยเหลือประชาชนในทันที โดยไม่ต้องรอการร้องขอ เพื่อให้สามารถบรรเทาความเดือดร้อนได้อย่างรวดเร็ว สำหรับการช่วยเหลือที่ผ่านมาได้ดำเนินการ ดังนี้เมื่อวันที่ 23 ก.ย.ได้จัด จนท.เดินทางไปยัง อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อสำรวจพื้นที่และติดตามสถานการณ์น้ำ และได้เตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ดังนี้ จัดเตรียมถุงยังชีพ จำนวน 500 ถุง จัดเตรียมกำลังพล จำนวน 200 คน จัดเตรียมเครื่องสูบน้ำหอยโข่ง จำนวน 36 เครื่อง จัดเตรียมเครื่องเรือ จำนวน 58 ลำ จัดเตรียมเครื่องปั่นไฟฟ้า จำนวน 6 เครื่อง จัดเตรียมเครื่องกรอกทรายและสายพานลำเลียง จำนวน 1 เครื่อง
พล.อ.ต.มณฑล กล่าวต่อว่า ในส่วนของกองบิน 1 จ.นครราชสีมา ได้จัดรถบรรทุกพร้อมกำลังพลไปช่วยเหลือประชาชนที่หมู่บ้านกฤษฎา ต.โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ในการขนย้ายของขึ้นที่สูงและได้นำกระสอบทรายทำคันกั้นน้ำในพื้นที่น้ำท่วมในเขต จ.นครราชสีมา ส่วนกองบิน 21 จ.อุบลราชธานี ได้จัดทหารกองประจำการออกช่วยเหลือ สภากาชาด จ.อุบลราชธานี บรรจุถุงยังชีพเพื่อมอบให้กับประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี สำหรับกองบิน 46 จ.พิษณุโลก ได้จัดทหารกองประจำการออกไปร่วมกับเทศบาลตำบลเนินกุ่ม ทำการซ่อมแซมพนังกั้นน้ำที่แตกที่บริเวณ หมู่ที่ 1 บ้านท่ายาง ต.เนินกุ่ม อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก นอกจากนั้นได้จัดเฮลิคอปเตอร์แบบที่ 6 ข/ค/ง (เบลล์ 412) จากกองบิน 2 จำนวน 2 เครื่อง บินสำรวจพื้นที่และนำถุงยังชีพไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ระหว่างวันที่ 25-27 ก.ย.ที่ อ.ศรีมหาโพธิ และตลาดเก่ากบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ที่บ้านกล้วย จ.ลพบุรี ที่ อ.โผงเผง จ.อ่างทอง และที่ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา