นายกฯ และ รมว.กห.โยน “กบอ.-ปลอดประสพ” เชิญพวกค้านแม่วงก์คุย อ้างรัฐยึดประโยชน์สูงสุดชาวบ้าน หวังมองทุกมิติ อ้างแผนต้องมีเขื่อน แล้วดูวิธีแก้ผลกระทบก่อนประเมินอีกรอบ เชื่อมีทางออก แย้มเดินสายดูน้ำท่วมเร็วๆ นี้ - โบ้ยรอคำวินิจฉัยศาลปกครองสูงสุดก่อนคืนเก้าอี้ “ถวิล”
วันนี้ (25 ก.ย.) ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 10.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีการคัดค้านก่อสร้างเขื่อนแม่วงก์ว่า ในส่วนของรัฐบาลยินดีรับฟังข้อคิดเห็น และข้อห่วงใยของพี่น้องประชาชน ได้มอบให้คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) เชิญตัวแทนมารับฟังและพูดคุยกัน โดยจุดยืนของ กบอ.และรัฐบาลจะยึดประโยชน์สูงสุดของประชาชน ซึ่งการพูดคุยกันจะเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์เพื่อสะท้อนปัญหาข้อเท็จจริง ทั้งนี้ เราคงต้องมองทั้งผู้ที่ได้รับผลกระทบบริเวณสร้างเขื่อน และผู้ได้รับผลกระทบในกรณีที่ไม่มีเขื่อน แล้วจะแก้ปัญหาอย่างไรคงต้องมองการแก้ปัญหาในองค์รวม ซึ่งเรามองโจทย์ใหญ่ในวัตถุประสงค์ของการบริหารจัดการน้ำ ต้องการปกป้องไม่ให้มวลน้ำจากพื้นที่ตอนบนไหลลงมาทำความเสียหาย ดังนั้นต้องดูวิธีการว่า จะทำอย่างไรในการบริหารจัดการน้ำนี้ เพื่อไม่ให้เกิดอุทกภัย ขณะเดียวกัน ถ้ากรณีที่จะมีการสร้างเขื่อนจะทำให้ธรรมชาติต่างๆ สูญเสียไปนั้นเราก็เข้าใจ และเชื่อว่าทุกคนรักและห่วงแหนธรรมชาติ
“อยากให้ กบอ.มองทุกมิติ เพราะการบริหารจัดการน้ำครั้งนี้ เราไม่ได้มองแค่การต้องสร้างเขื่อนอย่างเดียว จริงๆ แล้วต้องคุยเรื่องสิ่งแวดล้อมด้วยว่าจะทำอย่างไร ให้ธรรมชาตินั้นอยู่สร้างสมดุลทางธรรมชาติ และคำนึงถึงผู้ที่จะได้รับผลกระทบปลายทาง ฉะนั้น การพูดคุยกันหรือการลงไปรับฟังความคิดเห็นแล้วมาสรุปกัน โดยยึดหลักของประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง” นายกฯ กล่าว
เมื่อถามว่า นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน กบอ.บอกว่าตัดสินใจแล้วที่จะสร้างเขื่อนแม่วงก์ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า อันนี้คือวิธีการวางแผนบริหารจัดการน้ำที่ควรจะมีเขื่อน แต่แน่นอนในการปฏิบัติ รัฐบาลต้องรับฟัง ถ้าทำแล้วเกิดความเสียหายก็ต้องดูว่ากระทบตรงไหนบ้าง จะมีวิธีอื่นแก้หรือไม่ จะแก้ปัญหากันตรงไหน อยากให้มองครบทุกระบบ และมาประเมินกันอีกครั้ง เมื่อถามว่ารัฐบาลจะทำความเข้าใจกับผู้ที่คัดค้านอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า จะอนุญาตขอตัวแทน กบอ.ไปเป็นผู้รับฟังความคิดเห็น โดยเฉพาะเราจะสะท้อนตรงนี้ให้กับคณะกรรมการที่จะลงไปรับฟังความคิดเห็นเพื่อที่จะสรุปออกมา เวลานี้ได้มอบหมายให้ กบอ.และนายปลอดประสพไปพูดคุยกับตัวแทนผู้คัดค้าน จะได้รับฟังข้อเท็จจริงเพื่อช่วยกันแก้ไข ซึ่งเราอยากได้แนวทางถ้าเห็นว่ามีผลกระทบอยากให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาอย่างไร อันไหนทำได้เรายินดีทำอยู่แล้ว ซึ่งเราไม่อยากให้มีผลกระทบต่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง อะไรที่เป็นประโยชน์สูงสุด ควรจะตัดสินใจร่วมกันจะดีกว่า เพราะการบริหารจัดการน้ำไม่ได้กระทบแค่กลุ่มเดียว แต่จะกระทบภาพรวมทั้งหมด ดังนั้นต้องช่วยกันพูด ช่วยกันคิด สิ่งไหนคือสิ่งที่ดีที่สุด
เมื่อถามว่า ถ้าเป็นผลลบมากกว่ารัฐบาลยอมถอยหรือไม่ และจะไม่เป็นการเสียหน้ารัฐบาลใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลเชื่อว่ามีทางออก มันมีหลายทางเลือก ซึ่งในทางเทคนิคไม่แน่ใจ แต่ยังเชื่อว่าจะมีทางออกหลายๆ ทาง ดังนั้นอยากขอความกรุณาให้โอกาสฝ่ายเทคนิคได้เสนอทางออกหลายๆ ทาง ที่ไม่มีผลกระทบบ้าง อาจจะมีทางออกด้วย ซึ่งคงต้องพูดคุยกัน และดูว่าปัญหาเกิดอย่างไรบ้าง และจะแก้ปัญหากันอย่างไร เมื่อถามว่า ครม.จะอนุมัติแล้ว ถ้าจะไม่มีการก่อสร้างต้องนำกลับเข้าที่ประชุม ครม.ใหม่หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า จริงๆ แล้วต้องนำเข้าที่ประชุม ครม. อย่างไรก็ตาม เราต้องรับฟังข้อคิดเห็นก่อน ถ้ายังมีเสียงคัดค้านคงต้องรอ ตนยอมว่าเป็นโครงการที่จะดำเนินการ แต่ถ้ามีปัญหากระทบกับประชาชนหมู่มากก็ต้องคุยกัน ต้องรอ และขอความกรุณาเข้าใจร่วมกัน ถ้ารอตรงนี้จะเกิดอะไรขึ้นเราก็ต้องทำหน้าที่ชี้แจงทั้งหมด แล้วมาช่วยกันตัดสินใจว่าอะไรจะเป็นประโยชน์สูงสุด
เมื่อถามว่า ถ้าไม่สร้างเขื่อนแม่วงก์จะกระทบกับแผนบริหารจัดการน้ำมากแค่ไหน นายกฯ กล่าวย้ำว่า เราก็พยายามหาทางเทคนิคด้านอื่นๆ ดูว่ามีเทคนิคด้านอื่นๆที่จะตอบโจทย์หรือไม่ ถ้าไม่มีก็ต้องชี้แจงกันว่าจะทำอย่างไร รัฐบาลพยายามอยู่บนหลักพูดคุยกัน อันนี้เป็นจุดมุ่งหมายหลัก รัฐบาลคำนึงถึงผลกระทบของพี่น้องประชาชน ขณะเดียวกันก็ต้องคำนึงผลประโยชน์สูงสุดของประเทศโดยรวม อย่างไรก็ตาม ใน 1-2 วันนี้ ตนเตรียมลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำ ในพื้นที่ปริมณฑล
น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังกล่าวถึงกรณีศาลปกครองสูงสุดยืนตามคำสั่งศาลปกครองกลางให้คืนตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ให้กับนายถวิล เปลี่ยนศรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการประจำว่า เท่าที่รับฟังจะเป็นความเห็นของผู้พิพากษาศาลยังไม่ใช่เป็นคำวินิจฉัย คงต้องรอผลคำวินิจฉัยอย่างเป็นทางการออกมาก่อน
