xs
xsm
sm
md
lg

“ธีรัตถ์” ลั่นรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจแถลงนโยบาย-“วราเทพ” กำชับทุกกระทรวงฟังเสียงสะท้อน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายธีรัตถ์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (ภาพจากแฟ้ม)
โฆษกรัฐบาลแจงนายกฯ แถลงนโยบายล่าช้า ชี้เพราะสภาไม่ได้พิจารณารายงานจนปิดสมัยประชุม อีกทั้งแถลงในช่วงสามัญนิติบัญญัติไม่ได้ ลั่นรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ นายกฯ กำชับทุกกระทรวงเตรียมข้อมูลแจง ด้านหมวดเจี๊ยบเผย “วราเทพ” เรียกประชุม กำชับให้โฆษกทุกกระทรวง ติดตามฟังเสียงสะท้อนอย่างใกล้ชิด

วันนี้ (23 ก.ย.) นายธีรัตถ์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในวันอังคารที่ 24 และพุธที่ 25 ก.ย. 2556 นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะรัฐมนตรี จะแถลงผลการดำเนินการของคณะรัฐมนตรีตามแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ ต่อสภาผู้แทนราษฎร หลังจากได้ยื่นเรื่องดังกล่าวเข้าสู่สภาตั้งแต่วันที่ 23 พ.ย. 2555 โดยนับตั้งแต่รัฐบาลของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้ามาบริหารประเทศตั้งแต่สิงหาคม 2554 รัฐบาลได้มีการประกาศทั้งนโยบายในการขับเคลื่อนประเทศ และเมื่อครบกำหนดการบริหารประเทศปีที่ 1 (23 ส.ค. 2554 - 23 ส.ค. 2555) ได้มีการจัดทำรายงานแสดงผลการดำเนินงานตามแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ รวมทั้งปัญหาและอุปสรรคต่อรัฐสภาตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย หมวด 5 ว่าด้วยแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ มาตรา 75

นายธีรัตถ์ กล่าวว่า ทันทีที่การจัดทำรายงานเสร็จ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้มีส่งหนังสือลงวันที่ 23 พ.ย. 2555 ให้แก่เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และเลขาธิการวุฒิสภาเพื่อพิจารณาดำเนินการ แต่สภาผู้แทนราษฎรมิได้การพิจารณารายงานดังกล่าวจนปิดสมัยประชุมทั่วไปในปลายปี 2555 ต่อมาในสมัยประชุมสามัญนิติบัญญัติ สภาผู้แทนราษฎรก็มิได้บรรจุวาระการรายงานของคณะรัฐมนตรี เพราะไม่สามารถนำเรื่องนอกเหนือจากการพิจารณากฎหมายเข้ามาพิจารณาได้ เว้นแต่รัฐสภาจะมีมติให้พิจารณาด้วยคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ทั้งสองสภา

ทั้งนี้แม้ต่อมาในวันที่ 12 มี.ค. 2556 ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาจะมีมติให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณารายงานผลการดำเนินงานได้สมัยประชุมนิติบัญญัติ แต่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรก็ยังไม่ได้มีการรายงานดังกล่าวได้ทัน และเมื่อมีการเปิดประชุมสภาสมัยสามัญทั่วไประหว่าง 1 ส.ค. 2556 - 28 พ.ย. 2556 จึงได้มีการนำเรื่องผลการดำเนินงานของคณะรัฐมนตรีในปีที่ 1 เข้ามาพิจารณา โดยนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี จะร่วมแถลงผลงานต่อสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 24 และ 25 ก.ย.นี้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้มีการกำชับให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องทุกกระทรวงเตรียมข้อมูลในการตอบข้อซักถามจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอย่างละเอียด

“รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจในการรายงานผลการดำเนินงานต่อรัฐสภา เพราะเมื่อทางเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้ส่งเรื่องดังกล่าวเข้าสู่สภาแล้ว เป็นการตัดสินใจของสภาในการเลือกเรื่องที่จะเข้ามาพิจารณา ทั้งนี้การแสดงรายงานผลงานของรัฐบาลชุดก่อนหน้าปีที่หนึ่ง (30 ธ.ค. 2551 - 30 ธ.ค. 2552) ได้ส่งเรื่องเข้าสภาในวันที่ 4 พ.ค. 2553 แต่ก็ไม่ได้มีการพิจารณาเรื่องดังกล่าว จนกระทั่งเมื่อวันที่ 24 - 25 ก.พ. 2554 คณะรัฐมนตรีในสมัยนั้นถึงได้แถลงผลงานปีที่ 1 ต่อสภาผู้แทนราษฎร ทั้งนี้เมื่อครบรอบการบริหารราชการครบรอบปีที่ 2 ของนายกรัฐมนตรี ได้มีการสั่งการรวบรวมข้อมูลการบริหารราชการในปีที่สองแล้ว ซึ่งคาดว่าเล่มรายงานน่าจะเสร็จและเสนอต่อสภาได้ในช่วงปลายปีนี้” นายธีรัตถ์ กล่าว

ด้าน ร.ท หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ (23 ก.ย. 56) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เรียกประชุมทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และโฆษกกระทรวงทุกกระทรวง เพื่อติดตามความคืบหน้าในการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ประชาสัมพันธ์ของรัฐบาล ในช่วงครึ่งหลังของรัฐบาลตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ต้องการให้การประชาสัมพันธ์ของหน่วยงานรัฐเป็นไปอย่างมียุทธศาสตร์และทำงานร่วมกันอย่างเป็นบูรณาการ ทั้งนี้ นายวราเทพ กล่าวว่า หลังจากนี้ จะมีการจัดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการของทีมโฆษกรัฐบาล และทีมโฆษกกระทรวง เพื่อให้การทำงานร่วมกันมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

โดยมอบหมายให้ น.ส ศันสนีย์ นาคพงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งเคยมีประสบการณ์ด้านโฆษกและสื่อสารมวลชน ให้คำปรึกษาในการออกแบบยุทธศาสตร์ และกลไกในการทำงานประชาสัมพันธ์เชิงรุกของรัฐบาล และให้ทีมโฆษกรัฐบาล คอยประสานงาน ในส่วนของภารกิจเร่งด่วนเฉพาะหน้า นายวราเทพ ได้กำชับให้โฆษกกระทรวงทุกกระทรวง ติดตามฟังเสียงสะท้อนการแถลงผลงานของรัฐบาล 1 ปี ต่อสภาผู้แทนราษฎร อย่างใกล้ชิด หากพบว่ามีประเด็นที่หน่วยงานถูกพาดพิง และเวลาในการชี้แจงของรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง อาจจะน้อยเกินไป ทำให้ยังชี้แจงไม่เพียงพอ หรือหากหลังการแถลงผลงาน เกิดมีประเด็นโจมตีเพิ่มเติม ก็ขอให้ทีมโฆษกกระทรวง รวบรวมประเด็นที่ยังตกค้างและแจ้งให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องทราบ รวมทั้ง ช่วยชี้แจงต่อสื่อมวลชนอีกทางหนึ่ง


กำลังโหลดความคิดเห็น