xs
xsm
sm
md
lg

“จุรินทร์” ชี้ถกกู้ 2 ล้านล้านช้าเหตุฝ่ายรัฐประท้วงถี่ ซัด “แม้ว” นั่งเทียนจ้องล้มรัฐบาล 8 ตุลาฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

จุรินทร์ ลักษณ์วิศิษฎ์ (แฟ้มภาพ)
ประธานวิปฝ่ายค้าน ระบุเหตุร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านช้า เพราะฝ่ายรัฐบาลประท้วงถี่ เล็งยื่นศาล รธน.หลังผ่านความเห็นชอบจากสภา ในประเด็นเนื้อหาและกระบวนการพิจารณาในสภาฯ ขัด รธน. เฉ่ง “นช.แม้ว” นั่งเทียนอ้างมีขบวนการจ้องล้มรัฐบาล 8 ต.ค. เชื่อถ้าจะพังก็พังเพราะตัวเอง



นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณา ร่าง พ.ร.บ. ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของประเทศ พ.ศ. ..... (พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท) วาระ 2 ว่า สำหรับการอภิปรายจะไปเร็วหาก ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลไม่ประท้วง เพราะการประชุมสภาฯเมื่อวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา เสียเวลาไปกับการประท้วงโดยไม่จำเป็น โดยที่ฝ่ายค้านอภิปรายตามเนื้อหาและประเด็น

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตนยังไม่ได้หารือกับประธานวิปรัฐบาลว่าจะต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในวันนี้ (20 ก.ย.) หรือไม่ แต่ได้ตกลงกันไปในแต่ละวันว่าจะเริ่มที่เวลา 09.30-21.30 น. ตนยืนยันว่าฝ่ายค้านจะไม่ทำให้บรรยากาศการอภิปรายยืดเยื้อ จะพูดตามเนื้อผ้า และจะจบในวันนี้หรือไม่นั้นคงตอบไม่ได้ แต่ถ้าไม่ประท้วงจะไปได้เร็ว

นอกจากนี้ ในการอภิปรายวันนี้จะต้องทวงเอกสารรายละเอียดต่างๆ ในการอภิปรายให้ครบ เพราะบางหน่วยงาน อาทิ โครงการรถไฟความเร็วสูงมีเอกสารเพียงแค่ 1 หน้าครึ่ง ทั้งที่โครงการนี้มีมูลค่าใช้จ่าย 8 แสนล้านบาท จึงไม่พอที่เราจะพิจารณา และกรมการขนส่งทางบกมีเพียง 1-2 หน้าเท่านั้น ต่างจากหน่วยงานอื่นที่มีรายละเอียดอย่างชัดเจน เรื่องเอกสารถือเป็นสิ่งสำคัญ มี ส.ส.บางคนของพรรคประชาธิปัตย์ได้ไปตรวจสอบเอกสารที่หลังบัลลังก์ของประธานฯ แต่ปรากฏว่าไม่มี ทั้งนี้ เรื่องจำนวนผู้อภิปรายของฝ่ายค้านจะปรับลดจำนวนหรือไม่นั้น ถ้ามีส.ส.แจ้งความจำนงก็เป็นสิทธิ แต่ถ้าใครประสงค์ที่จะแปรญัตติก็ต้องให้เขาได้อภิปราย ให้เขาได้ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ

ประธานวิปรัฐบาลกล่าวว่า ส่วนเรื่องการยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวนั้น ขณะนี้เราจะรวบรวมข้อมูลในการอภิปรายว่ารัฐบาลมีคำตอบอย่างไร กระบวนการพิจารณาต่างๆ เป็นอย่างไร เพราะการยื่นศาลรัฐธรรมนูญประกอบด้วย 2 ส่วน คือ เนื้อหาของกฎหมายว่าขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ และกระบวนการพิจารณากฎหมายในสภาฯ ว่าขัดรัฐธรรมนูญด้วยหรือไม่ ถ้าจะยื่นก็ต้องดำเนินการหลังจากผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาก่อนที่จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ

ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่าการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวจะนำไปสู่การล้มรัฐบาลในวันที่ 8 ต.ค.นี้ ประธานวิปฝ่ายค้านกล่าวว่า เหมือนการนั่งเทียนใส่ความในสภาฯ เพราะในข้อเท็จจริงรัฐบาลจะอยู่ได้หรือไม่ได้นั้นขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการบริหารราชการแผ่นดิน 3 ข้อ คือ 1. ถ้ารัฐบาลไม่โกง 2. ไม่สร้างความแตกแยกให้กับบ้านเมืองด้วยวิธีเลือกปฏิบัติ และ 3. รัฐบาลไม่ทำผิดกฎหมาย ซึ่งถ้าไม่ทำทั้ง 3 ข้อนี้คิดว่าไม่มีใครล้มรัฐบาลได้ แต่รัฐบาลนี้ทำทั้ง 3 ข้อ ดังนั้น จุดนี้จะทำให้รัฐบาลมีปัญหาด้วยตัวเอง แต่การมาอาละวาดใส่อีกฝ่ายนั้นไม่ถูกต้อง และการที่บอกว่าคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะชี้มูลเรื่องโครงการรับจำนำข้าวในวันที่ 8 หรือ 9 ต.ค.นั้น ตนก็ยังสงสัยว่าทราบได้อย่างไร หรือเข้าไปแทรกแซงการทำงานของ ป.ป.ช.ถึงได้ทราบว่าจะตัดสินในวันดังกล่าว ตนคิดว่าสังคมน่าจะติดตามในเรื่องนี้อย่างรู้เท่าทัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าข่าวที่ออกมานั้นมาจากคนในพรรคประชาธิปัตย์ ได้มีการตรวจสอบหรือไม่ ประธานวิปฝ่ายค้านกล่าวว่า ตนไม่ทราบ จะอ้างอย่างไรก็อ้างได้ แต่ตนยังไม่เคยได้ยินเรื่องนี้ทั้งที่ตัวเองเป็นกลไกหนึ่งของฝ่ายค้านในการทำหน้าที่ในสภาฯ

“การที่บอกว่าจะไปตั้งใจล้มรัฐบาลในวันที่ 8 ต.ค.เพราะไปดูดวงมาแล้วว่าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ผมคิดว่ามันไม่มีมูล ขอย้ำว่ารัฐบาลจะอยู่ได้หรือไม่ได้ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของรัฐบาล ทุกวันนี้ที่มีการยื่นศาลรัฐธรรมนูญ องค์กรอิสระให้พิจารณาวินิจฉัยเพราะรัฐบาลทำผิดกฎหมายทั้งที่เป็นผู้รักษากฎหมาย แต่เมื่อเริ่มต้นทำผิดกฎหมายเอง ถามว่าบ้านเมืองจะอยู่ได้อย่างไร เพราะสุดท้ายผลจะวกกลับมาที่รัฐบาลเองที่ทำให้ตัวเองอยู่ไม่ได้ และเมื่อกลไกเขาตัดสินว่าทำผิดกฎหมายและรัฐบาลจะต้องพ้นไปก็ต้องยอมรับการกระทำของตัวเอง ไม่ใช่จู่ๆ ใครจะมาตั้งวงล้มรัฐบาลได้”


กำลังโหลดความคิดเห็น