“จารุพงศ์” ยันจำเป็นต้องกู้เงิน 2 ล้านล้านเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม เพื่อไม่ให้เสียโอกาสในการเป็นศูนย์กลางขนส่งอาเซียนในอนาคต ย้ำมีระบบการตรวจสอบที่โปร่งใส
นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของประเทศ พ.ศ. ..... (พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท) วาระ 2 ว่า เมื่อมาบริหารประเทศรัฐบาลได้กำหนดเป็นนโยบายว่า เราจะเร่งสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศให้ดีที่สุด โดยเฉพาะเราจะเข้าสู่ AEC ในปลายปี 58 ซึ่งถ้าเราไม่ทำระบบการขนส่งที่มีประสิทธิภาพ เราจะไม่สามารถเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ได้ ซึ่งในวันนี้ประเทศจีน GDP เขาโตเป็นอันดับ 2 รองจากอเมริกา และมีการคาดการโดยฝ่ายเศรษฐกิจทั้งหลาย โดยมีการยอมรับว่าในอีก 10 ปีข้างหน้าประเทศจีนจะแซงเป็นที่ 1 ถ้าเราไม่สร้างระบบการขนส่งที่ดีพอ เราจะขาดโอกาส
“การขนส่ง 2 ล้านล้าน มุ่งไปที่ 80% ของการวางระบบรางคู่เพื่อขนส่งสินค้าให้มีประสิทธิภาพ เพราะประเทศไทยเรามีรางอยู่ทั้งหมด 3,800 กว่ากิโลเมตรแต่ว่ามีรางคู่แค่ 380 กว่ากิโลเมตรไม่ถึง 400 กิโลเมตร คือมีแค่ 10% ของระยะทางทั้งหมด จึงไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอในการที่จะทำให้การขนส่งสินค้านั้นรวดเร็ว นอกจากนี้ การกู้เงิน 2 ล้านล้านนั้นเป็นการกู้ภายในประเทศ และเป็นการกู้ที่อยู่ในวินัยการคลัง คือไม่เกินร้อยละ 40% หรือ 50% ของวงเงินงบประมาณ เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวว่าเราจะละเมิดวินัยการคลัง”
ผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจกระบวนการในการดำเนินการ และการตรวจสอบหรือไม่ นายจารุพงศ์กล่าวว่า กระบวนการที่จะเรียกหาคนมาลงทุนนั้น มีกฎเกณฑ์กติกาอยู่แล้ว และสามารถตรวจสอบได้อย่างโปร่งใส และถ้าไม่พอใจก็ว่าเป็นรายๆ และยังมีคณะกรรมการปราบปรามและทุจรติแห่งชาติตรวจสอบอยู่ แล้วจะไปกลัวโกงอะไร ส่วนการประชุมจะจบได้ภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้หรือไม่นั้น ตนไม่สามารถที่จะตอบแทนท่านประธานสภาได้ แต่ก็ขอร้องว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะใช้เล่ห์กลเพทุบาย และใช้สิ่งที่เห็นๆ เพื่อที่จะทำให้ภาพลักษณ์ของสภาต่ำทรามลง เราไม่อยากเห็นอย่างนั้น
