ม็อบการเมืองแล้วจะยังไง !?

เกาะกระแส

00 ทำท่ากลายเป็นบาดแผลขยายร้าวลึกให้กับคนในภาคใต้จนยากเยียวยาทุกทีแล้ว เหตุการณ์สลายการชุมนุมของชาวสวนยางพาราและปาล์มน้ำมันที่แยกควนหนองหงส์ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช โดยกำลังตำรวจปราบจลาจลนับพันนาย ครั้งแรกเริ่มตั้งแต่เช้าตรู่ วันที่ 16 ก.ย. และครั้งที่สองในตอนเที่ยงวันเดียวกัน หลังจากใช้กำลังสลายครั้งแรกไม่ได้ผล ชาวบ้านกลับมารวมตัวกันอีกและมีจำนวนมากกว่าเดิม แต่คราวนี้มีเหตุการณ์ "พิเศษ" นั่นคือลักษณะไม่ต่างจากการสร้างสถานการณ์โดยตำรวจ นั่นคือในชวงชุลมุนปรากฏว่ามี "ชายฉกรรจ์"นับสิบคน คลุมหน้าคลุมตาเที่ยวตะลุยเผารถตำรวจที่ใช้สำหรับขนย้ายผู้ต้องหารวมทั้งรถตำรวจประเภทอื่นที่นำมาจอดอยู่บริเวณนั้นเสียหายหายไปนับสิบคัน ซึ่งหากสังเกตให้ดีจะพบพิรุธได้ทันทีว่านี่คือการ "สร้างสถานการณ์" เพื่ออ้างความชอบธรรมและนำไปสู้การ"ปราบปรามอย่างรุนแรง"ครั้งใหญ่ตามมา

00 วิธีการที่รัฐนำมาใช้กับม็อบชาวสวนยางที่ควนหนองหงส์ ด้วยสารพัด"วิชามาร"ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง มีความพยายามแยกสลายด้วยการสร้างคงามแตกแยกหลายรอบ แต่ก็ทำไม่สำเร็จ แต่สิ่งที่รัฐบาลตอกย้ำอยู่ตลอดเวลาว่าพวกนี้ "เป็นม็อบการเมือง" คำถามก็คือหากเป็นม็อบการเมืองแล้วไม่เจรจาทำความเข้าใจช่วยเหลือหรืออย่างไร เพราะถ้าเป็นม็อบการเมืองก็คงเป็นการเมืองที่"ห่วยแตก"นั่นแหละ ถามว่าม็อบเสื้อแดงที่เที่ยวไปรังควาญคนอื่นแล้วอ้างเสพติดคำว่าประชาธิปไตยนั่นไม่ใช่ม็อบการเมืองของพรรคเพื่อไทยหรือ หรือว่าม็อบชาวนาที่เรียกร้องให้ขยายเวลารับจำนำข้าวรอบสองในฤดูปี 55/56 ไม่ใช่ม็อบการเมืองหรือ ปัญหามีอยู่ว่ามันเป็นการเมืองแบบ "ฐานเสียง"ของใครต่างหาก ประเภทไม่เลือกเราให้รอไปก่อน หรือใครหัวแข็งก็หาทางทำลายให้ฝ่อลงเรื่อยๆอย่างนั้นหรือ

00 น่าจับตาดูว่ารัฐบาลจะใช้กม.ความมั่นคงจัดการกับชาวบ้านที่ควรหนองหงส์หรือเปล่า จะส่งสัญญาณผ่านทางรองนายกฯฝ่ายความมั่นคง พล.ต.ประชา พรหมนอก ผบ.ตร.พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ที่ตามอาการแล้วกำลังจ้องรอจังหวะกันแบบไม่กระพริบตาทีเดียว เพียงแต่ว่าที่ผ่านมาสถานการณ์ยังไม่อำนวย ชาวบ้านยังปักหลักเหนี่ยวแน่นและพร้อมตอบโต้เจ้าหน้าที่ทุกรูปแบบ

00 ปรากฏการณ์ที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ภายใน้การชี้นิ้วสั่งการจาก ทักษิณ ชินวัตร จากกรณีจัดการกับผู้ชุมนุมชาวสวนยางภาคใต้เมื่อเปรียบเทียบกับเกษตรกรในภาคอื่น ช่างต่างกันลิบลับ "ไม่ใช่สองมาตรฐาน" แต่"ไร้มาตรฐาน"สิ้นดี เมื่อเปรียบเทียบกับเกษตรกรภาคอื่นที่เป็นฐานเสียงของตัวเอง เพราะนอกจากไม่ดูดำดูดีแล้ว ยังใช้วิธียุยงสร้างความแตกแยกในพื้นที่อยู่ตลอดเวลา รวมทั้งมีการตอกย้ำให้เห็นภาพว่า"เป็นม็อบการเมือง" นั่นคือม็อบฝ่ายตรงข้าม ไม่ต้องไปช่วยเหลือ และท้ายที่สุดก็คือสร้างสถานการณ์ เพื่อหวัง "ล้อมปราบ"อย่างโหดเหี้ยมตามมานั่นเอง อย่างไรก็ดีแม้ว่าในที่สุดรัฐบาลสั่งปราบปรามสลายชาวบ้านที่ควนหนองหงส์กระจัดกระจาย จนบาดเจ็บล้มตายกันไปมากมายสักเพียงใด แต่นั่นใช่ว่าทุกอย่างจะกลับมาเหมือนเดิม เพราะในเมื่อรัฐได้สร้างบาดแผลให้เกิดขึ้น มีเจตนาทำลายภาคใต้อย่างอำมหิตอย่างที่เห็นมันก็เกินเยียวยาแล้ว และนับจากนี้ไปก็จะมีแต่ความเกลียดชังตอบโต้ !!

00 สังเกตหรือไม่ว่าช่วงนี้ทำไมถึงได้เกิดเหตุรถไฟตกรางถี่ยิบผิดปกติ ล่าสุดขนาดอยู่ที่สถานีรถไฟหัวลำโพง ก็ยังตกรางจนได้ ดังนั้นไม่ต้องไปพูดถึงเหตุการณ์ตกรางที่อื่น หรือในเส้นทางภาคเหนือที่เริ่มปิดเส้นทางเพื่อทำการบูรณะกันขนานใหญ่เท่านั้น แต่คำถามในข้อพิรุธก็คือนี่เป็น "เจตนา"เพื่อบีบให้รีบอนุมัติเงินกู้ 2 ล้านล้านบาทมาพัฒนาระบบรางหรือเปล่า มันก็เริ่มมีคนตั้งข้อสังเกตกันมากขึ้น แต่อีกมุมหนึ่งถ้ารถไฟตกรางแบบนี้มันก็น่าจะมีคนรับผิดชอบด้วยการลาออกบ้างนะ อย่างน้อยก็ผู้ว่าการรถไฟฯ ประภัสร์ จงสงวน ควรจะสำเหนียกกันบ้าง หรือไม่ก็ รมว.คมนาคม ชัชชาติ สิทธิ์พันธุ์ ลองแสดงความกล้าหาญโชว์สปิริตให้เป็นตัวอย่างดูก็ได้ อ๋อ แหย่เล่นนะ เป็นไปไม่ได้หรอก ยิ่งเวลานี้กำลังจะได้เข้าด้ายเข้าเข็ม พรบ.เงินกู้ก้อนใหญ่กำลังจะเข้าสภา อ้อยกำลังเข้าปากช้างถอนตัวออกมาให้โง่เรอะ