รองเลขาฯ นายกฯ เผย “ปู” ห่วงม็อบยางอยากให้จบ ชี้ข้อเสนอ กก.100 บ.ไร้การวิเคราะห์ ไม่ตอบโจทย์ปัญหา อ้างรัฐยินดีทำหากเกษตรกรได้ประโยชน์ ไม่ใช่นายทุน รับนายกฯ ห่วงภาพรวมภาคใต้ ให้สรุปตัวเลขเสียหาย แจง ผบ.ตร.รายงานสถานการณ์ชุมนุมดีขึ้น เผยใช้คนละวิธีดูแลม็อบการเมือง ปัดงัด พ.ร.บ.มั่นคงฯ ชี้โรคแทรกหายจบง่าย โบ้ยมีกลุ่มพึงประสงค์อย่างอื่น
วันนี้ (5 ก.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีเป็นห่วงการชุมนุมของกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางที่ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลเข้าแก้ไขปัญหาราคายางตกต่ำ แต่ตัวเลขล่าสุดที่เสนอมา 100 บาทต่อกิโลกรัม เป็นตัวเลขที่ไม่ได้มีการวิเคราะห์ศึกษาอะไรเลย ไม่ได้ตอบโจทย์ความชัดเจนหรือไม่ชัดเจนของปัญหาราคายาง ดังนั้น การจะตอบโจทย์จริงๆ จะต้องรู้ว่าสิ่งที่รัฐทำไปใครได้ประโยชน์ ถ้าทำไปแล้วเกษตรกรได้ประโยชน์อย่างจริงจัง รัฐยินดี แต่ถ้าทำไปแล้วพ่อค้าคนกลางหรือองค์กรหนึ่งองค์กรใดที่เก็บสต๊อกยางไว้ตรงนี้เขาจะได้เต็มๆ เงินจำนวนมหาศาลแทนที่จะถึงมือเกษตรกรกลับไปอยู่ในมือพ่อค้านายทุนหมด ซึ่งในที่ประชุมหน่วยงานความมั่นคงและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องได้พูดถึงประเด็นนี้ ขณะที่กลุ่มผู้เรียกร้องเข้าใจในสิ่งที่รัฐคิด
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกรัฐมนตรีมีความกังวลสถานการณ์ชุมนุมอาจจะบานปลายหรือไม่ พล.ต.ต.ธวัชกล่าวว่า นายกฯในฐานะผู้นำ ห่วงใยเรื่องสถานการณ์ด้านการเกษตร โดยมองว่าการชุมนุมที่เกิดขึ้นความเสียหายภาคใต้ในภาพรวมมีอะไรบ้าง โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว อุตสาหกรรมและสินค้าเกษตรอื่นๆ เสียหาย ซึ่งเวลานี้นายกฯ ได้ให้ทุกภาคส่วนสรุปตัวเลขในภาพรวมความเสียหายมา
ส่วนสถานการณ์การชุมนุมล่าสุด พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. รายงานว่าสถานการณ์ดีขึ้น โดยทางตำรวจมีมาตรการติดตามการเคลื่อนไหวตลอดเวลา และมีแผนสกัดกั้นกลุ่มผู้ชุมนุมที่จะปิดถนนเพิ่มเติม แต่จะไม่ให้เกิดความรุนแรงหรือการปะทะกันเกิดขึ้น ซึ่งการเรียกร้องทางการเมืองและการเรียกร้องทางพืชเกษตรกรรม จะใช้คนละวิธีการในการดูแล ขณะที่นายกรัฐมนตรีอยากให้การชุมนุมยุติโดยเร็ว จึงได้เรียกประชุมฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม ทางหน่วยงานความมั่นคงไม่ได้เสนอแนวคิดใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงดูแลสถานการณ์ ตอนนี้ใช้กฎหมายปกติทั้งของตำรวจ มหาดไทย และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)
“การชุมนุมเกษตรกรชาวสวนยางในภาคใต้ยังมีโรคแทรก ถ้าโรคแทรกหายมันก็จบได้ เพราะเวลาลงไปคุยในพื้นที่และรับข้อเรียกร้อง ซึ่งการเจรจาค่อนข้างจะเรียบร้อยสุภาพ รับฟังซึ่งกันและกัน แต่พอออกจากจุดนี้ไปยังกลุ่มผู้ชุมนุมก็เป็นอีกรูปแบบหนึ่ง เนื่องจากมีคนบางกลุ่มบางพวกพึงประสงค์อย่างอื่น ไม่พอใจและขับเคลื่อนในสิ่งที่ไม่ควรจะขับเคลื่อน” พล.ต.ต.ธวัชกล่าว