ส.ส.กุ๊ยแดงเผยมีการนำปัญหายางมาใช้ยื้อแก้ รธน. ชี้เลิกตีรวน ควรไปคุยเวทีสภา รับเห็นใจ ปธ.รัฐสภา วอน ส.ส.ทำหน้าที่สร้างสรรค์ อย่าเน่าไม่กี่คนเหม็นทั้งสภา บี้ม็อบยางเลิกปิดถนนทุบหม้อข้าวจังหวัดตัวเอง ชี้รู้อยู่แก่ใจ กก. 120 เป็นไปไม่ได้ เชื่อแฝงเป้าทางการเมือง ย้อนยางยุค ปชป.ต่ำกว่านี้ไม่โวย หนุน “ปู” ตั้งโรงงานแปรรูปยางส่งออก แจง รมต.ไม่ลงใต้ เหตุมองเป็นม็อบการเมือง แนะขึ้น กทม.มาคุย
วันนี้ (4 ก.ย.) ที่รัฐสภา นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย แถลงว่า ขณะนี้การแก้ไขรัฐธรรมนูญมีความพยายามทำให้ล่าช้าออกไป ซึ่งมีการนำปัญหาการประท้วงในภาคใต้มาพูดกลบกระแส ซึ่งควรนำเรื่องดังกล่าวไปพูดในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันที่ 5 ก.ย.ที่จะมีการตั้งกระทู้ถามรัฐบาลในประเด็นดังกล่าว ตนจึงขอเรียกร้องให้เพื่อนสมาชิกอย่าเล่นเกมตีรวน และทำหน้าที่ให้สมกับเป็นผู้ทรงเกียรติ เพราะตนเองรู้สึกเห็นใจการทำหน้าที่ของประธานรัฐสภาทั้ง 2 คน เนื่องจากการทำหน้าที่ที่ถูกต้องอาจไม่ถูกใจใคร และโดนหาว่าไม่เป็นกลาง จึงอยากขอความาร่วมมือให้ ส.ส.ทำหน้าที่อย่างสร้างสรรค์ด้วยเหตุและผล ขณะเดียวกันก็อยากฝากไปถึงการทำแบบสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อรัฐสภา ควรถามให้ชัดเจนว่า ส.ส. หรือพรรคใด ที่ประชาชนเอือมระอา อย่าเหมาทั้งสภา ไม่ใช่ ส.ส.เน่าไม่กี่คนก็เหม็นไปทั้งสภาแบบนี้
นอกจากนี้ นายก่อแก้วยังกล่าวถึงม็อบยางพาราที่มีการประท้วงปิดถนนในหลายจุดเมื่อวันที่ 3 ก.ย. ก็มีการปิดเส้นทางทั้ง จ.ตรัง และจ.กระบี่ เพิ่ม ส่งผลกระทบต่อประชาชนและเศรษฐกิจในวงกว้าง จึงขอเรียกร้องไปยังผู้ชุมนุมให้ยุติการชุมนุม หรือยุติการปิดถนน เพราะการกระทำเช่นนี้เหมือนทุบหม้อข้าวจังหวัดตัวเอง ซึ่งการเรียกร้องราคายางพารา 120 บาทต่อกิโลกรัมนั้น เป็นข้อเรียกร้องที่ชุมนุมรู้อยู่แล้ว่ารัฐบาลทำไม่ได้ เพราะเป็นราคาสูงกว่าปัจจุบันถึง 50 เปอร์เซ็นต์ และราคานี้หากรัฐบาลทำตามชาวสวนยางก็รวยกันหมด จึงเชื่อว่าผู้ชุมนุมมีเป้าหมายทางการเมืองมากกว่า พร้อมทั้งตั้งข้อสังเกตว่า เมื่อปี 2552 ราคายางในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี อยู่ที่ 57 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งแตกต่างกับราคาในปัจจุบันที่สูงกว่า 20 บาท ทำไมถึงไม่ตำหนิรัฐบาลสมัยนั้นบ้าง แต่กลับมาชุมนุมอย่างเอาเป็นเอาตาย และมาตำหนิรัฐบาลว่าช่วยแต่ชาวนาไม่ช่วยชาวสวนยาง อย่างไรก็ตาม อยากเรียกร้องให้ชาวสวนยางยุติการชุมนุมและอย่าตกเป็นเครื่องมือของนักการเมือง
ทั้งนี้ นายก่อแก้วยังกล่าวสนับสนุนแนวคิดของนายกรัฐมนตรีที่จะตั้งโรงงานแปรรูปยางพาราสำหรับส่งออก โดยขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงการคลัง ไม่ให้เก็บภาษีส่งออกยางแปรรูป และไม่ควรเก็บเงินค่าธรรมเนียนเข้ากองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง
เมื่อถามว่า เหตุใดรัฐบาลไม่ลงพื้นที่หาประชาชน แต่กลับให้ชาวสวนยางมาหา นายก่อแก้วกล่าวว่า มองว่าเป็นม็อบการเมืองมากกว่าม็อบปากท้อง ซึ่งไม่รู้ว่าใครเป็นแกนนำที่แท้จริง จึงอยากให้กลุ่มชาวสวนยางหาข้อสรุปแล้วส่งตัวแทนมาพูดคุยกับรัฐบาล ส่วนการที่ใช้บุคคลระดับรองเลขาธิการนายกฯ แต่ไม่ใช้รัฐมนตรีลงพื้นที่แทนนั้น เนื่องจากว่ารัฐบาลมีข้อจำกัดในการดำเนินการเพราะข้อเรียกร้องนั้นสูงเกินกว่าที่รัฐมนตรีคนใดจะรับไปแก้ปัญหาได้ ต่อให้ใครลงไปก็ไม่อำนาจตัดสินเด็ดขาดเพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับหลายกระทรวง