“สุเทพ” นำทีม ส.ส.ปชป.ใต้โวย 2 ปีรัฐไม่เอาใจใส่แก้ราคายาง แถมสภาไม่ยอมให้จ้อกลับดันแก้ รธน.ต่อ จี้ใช้มาตรฐานปล่อยชุมนุมเหมือนแดง อย่าสลายม็อบ ขู่รุนแรงลงช่วยแน่ ลั่นต่อสู้ในสภาถึงที่สุดแล้วค่อยไป ยังกั๊กลุยเมื่อไหร่ขอหารือก่อน แต่ยันไม่ได้ชักใยประท้วง ขออย่ามองคนเป็นศัตรู “ถาวร” เผยส่ง “นิพิฏฐ์” ทวงของชาวบ้านหายช่วง ตร.ปะทะ ซัดลุยไม่ตามขั้นตอน แฉ “อารี” ปั่นกำนันผุดม็อบชน แถมซื้อตัวแกนนำ “ชินวรณ์” ชี้ให้ “สุภรณ์” คุยยิ่งบานปลาย
วันนี้ (27 ส.ค.) ที่รัฐสภา นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี นายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุงและกลุ่ม ส.ส.ภาคใต้ พรรคประชาธิปัตย์อีก 25 คน ร่วมกันแถลงข่าวถึงกรณีเกษตรกรชาวสวนยางและปาล์มน้ำมันภาคใต้ รวมตัวปิดถนนสายเอเชียทั้งขาขึ้นและขาล่อง บริเวณสี่แยกควนหนองหงส์ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช เรียกร้องให้รัฐบาลประกันราคา โดยรัฐบาลกล่าวอ้างเป็นม็อบการเมืองที่มี นักการเมืองอักษรย่อ ส.อยู่เบื้องหลังนั้น
นายสุเทพกล่าวว่า พวกเราคือนักการเมืองในพื้นที่ที่มีการปลูกยางพารา ได้พยายามเรียกร้องทุกวิถีทางให้รัฐบาลดูแลราคาของยางพารามากว่า 2 ปี แต่ก็ไม่ได้รับเอาใจใส่จากรัฐบาลอย่างจริงจัง ซึ่งเราก็ได้เรียกร้องให้รัฐสภาเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันพฤหัสบดีนี้ เพื่อหารือแก้ปัญหาเรื่องปากท้องให้กับประชาชน แต่ทางรัฐสภาก็ไม่ยอมกลับนำเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญมาพิจารณาต่อ
“นายกรัฐมนตรีอ้างว่าเสื้อแดงชุมนุมได้เพราะเป็นสิทธิตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ จึงขอให้นายกรัฐมนตรีใช้มาตรฐานเดียวกัน ขอให้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ให้มีการสลายการชุมนุมกับชาวสวนยาง ถ้ารัฐบาลตัดสินใจที่จะใช้ความรุนแรงกับประชาชน พวกผม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ก็พร้อมที่จะลงไปต่อสู้เพื่อช่วยเหลือประชาชนเหล่านั้น” นายสุเทพกล่าว
นายสุเทพกล่าวต่อว่า ตนจะต่อสู้ทางรัฐสภาให้ถึงที่สุด หากรัฐบาลยังไม่มีหิริโอตตัปปะ ตนก็พร้อมที่จะออกไปต่อสู้กับประชาชนทันที ตนขอพูดในนามของตัวเอง ไม่ได้พูดในนามของพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนกรณีว่าเมื่อไหร่ที่ตนจะร่วมต่อสู้กับประชาชนเต็มตัวนั้นต้องรอการหารือกับภาคประชาชนอีกครั้งหนึ่ง แต่ตนจะไม่ยอมให้รัฐบาลครอบงำประเทศอย่างแน่นอน
นายสุเทพยังกล่าวต่อว่า คนอย่างตนไม่ใช่นักการเมือง “ส.” ที่อยู่เบื้องหลังการชุมนุมของชาวสวนยางแน่นอน เพราะถ้าตนร่วมด้วยจะอยู่เบื้องหน้าร่วมกับประชาชนทันที เพราะฉะนั้น ถ้ารัฐบาลใช้ความรุนแรงการร่วมตัวของม็อบการเมืองและม็อบเกษตรกรอาจจะต้องร่วมมือกัน ทั้งนี้ ตนขอให้รัฐบาลอย่าใช้วิธีการเชือดไก่ให้ลิงดู อย่ามองพวกเขาเป็นศัตรู ขอให้แก้ปัญหาให้กับพวกเขาเพราะเขาต้องอดทนกับความเดือดร้อนมากกว่า 2 ปีแล้ว จนพวกเขาอยู่ไม่ได้ รัฐบาลอย่าเอาเรื่องของราคาตลาดโลกมาอ้าง เพราะประเทศไทยคือประเทศที่ส่งออกยางมากที่สุด ตนจึงขอให้นายกฯ ใช้สติปัญญาในการแก้ปัญหาด้วย
ด้านนายถาวร กล่าวว่า ประชาชนที่ชุมนุมอยู่ในขณะนี้ เป็นนักต่อสู้กับความไม่ถูกต้องและไม่เป็นธรรมมาตลอด ตอนนี้ผู้ที่ทำหน้าที่บริหารประเทศเปรียบเสมือนนายที่ปล่อยให้พวกเขายากจน จากการไม่แก้ไขปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรจนพวกเขาต้องลุกขึ้นมาต่อสู้ ซึ่งพวกตนก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรืออยู่เบื้องหลัง แต่ต้องการไปให้กำลังใจพวกเขาเท่านั้น การสลายการชุมนุมในวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา มีชาวบ้านบาดเจ็บและทรัพย์สินสูญหาย ซึ่งคาดว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจน่าจะยึดของเหล่านั้นไป ทางพรรคประชาธิปัตย์จึงมอบหมายให้นายนิพิฏฐ์ และทนายความของพรรคไปดำเนินการตามข้อกฎหมาย ซึ่งเมื่อคืนนี้บริเวณสถานีรถไฟชะอวดกับสถานีรถไฟบ้านตูน หมู่ 2 ต.บ้านตูน อ.ชะอวด ที่ถูกกลุ่มผู้ชุมนุมปิดเส้นทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังจะสลายการชุมนุมอีกครั้งหนึ่งจึงขอให้รัฐบาลอย่างใช้ความรุนแรงต่อประชาชนเป็นอันขาด เพราะถ้าไม่ฟังเราความเสียหายก็จะบานปลายออกไปอีก และเมื่อถึงวันนี้เหตุการณ์จะลุกลามใหญ่โตไปในทุกภาค
ด้านนายนิพิฏฐ์กล่าวว่า ถ้าพวกเราอยู่เบื้องหลังการชุมนุมที่เกิดขึ้น เราคงจะไม่รอให้ผ่านมา 2 ปี เพราะปัญหาเรื่องยางพารามีมานานกว่า 2 ปีจนประชาชนไม่สามารถอดทนได้อีก ที่เราลงไปในพื้นที่เพื่อที่จะให้กำลังใจและดูข้อเท็จจริงในการสลายการชุมนุมว่าเป็นไปตามขั้นตอนหรือไม่ ซึ่งตนสามารถยืนยันว่าการสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้เป็นไปตามขั้นตอน เพราะฉะนั้นตนขอเรียนไปยังรัฐบาลใน 2 เรื่องคือ 1. ในขณะนี้มานักการเมืองชื่ออารีย์ ที่ไปปลุกปั่นกำนันผู้ใหญ่บ้าน เพื่อนำชาวบ้านมาประท้วงการชุมนุมของเกษตกรในขณะนี้ ซึ่งพยายามสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้น และ 2. รัฐบาลอย่าพยายามที่จะซื้อตัวแกนนำบางคนเพื่อให้ยุติการชุมนุม ตนขอให้รัฐบาลยุติการกระทำดังกล่าว เพราะจะทำให้สถานการณ์ความขัดแย้งรุนแรงขึ้นและรัฐบาลจะไม่สามารถควบคุมได้
ด้านนายชินวรณ์กล่าวว่า ตนอยากจะให้ผู้ที่เกี่ยวข้องในรัฐบาลไปพูดคุยกับเกษตกร การส่งนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกฯ ไปเจรจานั้นเป็นการสร้างความขัดแย้ง ซึ่งรัฐบาลมองเรื่องปัญหาของประชาชนเป็นเกมการเมือง ตนจึงขอให้รัฐบาลมีความจริงใจในการแก้ปัญหา และอย่ามองเพียงแค่การสลายการชุมนุมเท่านั้น เพราะกลุ่มผู้ชุมนุมเป็นการชุมนุมโดยธรรมชาติและบริสุทธิ์ใจ รัฐบาลจะต้องแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรม
