สะเก็ดไฟ
ประกาศเดินหน้าลุยสุดซอย... ไม่มีเกียร์ถอยหลัง พรรคเพื่อไทย ปากกล้าขาสั่นไม่สนใจพรรคประชาธิปัตย์จะยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มาสมาชิกวุฒิสภาไม่ชอบขัดต่อมาตรา 68
ยืนยันจะลงมติโหวตวาระ 3 หลังทิ้งไว้ 15 วัน หรือวันที่ 27 ก.ย. เป็นต้นไป
แถมแอบด่าศาลรัฐธรรมนูญล่วงหน้า อย่ามาแส่แทรกแซงฝ่ายนิติบัญญัติย้ำว่ากระบวนการแก้ไขกฎหมายเป็นเรื่องของสภาและการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็เป็นเรื่องของรัฐสภา ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจระงับยับยั้งถ้ายื่นเรื่องไปแล้วมีคำสั่งให้ชะลอการลงมติวาระ 3ก็จะใช้เสียงข้างมากในรัฐสภายืนยันเดินหน้าต่อ
ท้าชนกันเต็มที่
ทั้งยังเชื่อว่า ส.ว.สายเลือกตั้งก็จะลุยตีโต้ศาลรัฐธรรมนูญด้วยเช่นกันเพราะไม่มีอะไรจะเสียแล้ว เดี๋ยวก็จะหมดวาระแล้วในเดือน มี.ค.ปีหน้า
วันนี้พรรคเพื่อไทยทั้งแกนนำ ลิ่วล้อออกมาพ่นน้ำลายสาดเสียเทเสียศาลรัฐธรรมนูญ ขู่จะปฏิรูปอำนาจศาล จะยุบทิ้งตามสูตรเพราะถือเป็นหอกข้างแคร่ที่สลัดไม่ออกพรรคประชาธิปัตย์ก็ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยในทุกประเด็น ในทุกข้อกฎหมายรับลูกส่งไม้แข็งขันกันดีจัง
เหมือนเป็นสูตรสำเร็จของพรรคประชาธิปัตย์ไปแล้วเมื่อพิจารณากฎหมายใดๆ เสร็จก็จะมี “ลูกตามน้ำ” ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญหรือองค์กรอิสระอื่นทุกทีไป จนคนนินทาหมาดูถูก ว่าเล่นเกมเตะถ่วงไปทุกเรื่องแม้แต่เรื่องความเจริญของประเทศ!!
บรรยากาศทางการเมืองวันนี้มันจึงน่าเบื่อหน่ายการเมืองบนกระดานเล่นกันเลอะเทอะ ถ่อย เถื่อน วนเวียนเหมือนพายเรือในอ่าง ประชาชนเห็นแล้วสังเวชใจ จะมีนักการเมืองไปทำสากกะเบืออะไรวะ!!
กระนั้นก็ดี วันนี้ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่มีท่าทีใดๆ ออกมาแต่เหมือนพรรคเพื่อไทยจะเดือดร้อนนอนไม่หลับ ตีตนไปก่อนไข้ ลุกลี้ลุกลนเป็นพิเศษไม่รู้ว่าเป็นเพราะเจตนาการแก้ไขประเด็นที่มาของส.ว.มันซ่อนเล่ห์เพทุบายอย่างที่มีคนตั้งข้อสังเกตหรือไม่
ว่ามันเป็นผลประโยชน์ต่างตอบแทนของ ส.ว.เลือกตั้งกับรัฐบาลพรรคเพื่อไทย
แก้เนื้อหาเอื้อ ส.ว.เลือกตั้งเต็มที่ สภาผัวเมีย สภาทาสสามารถกลับมาโดยพลันเต็มรูปแบบ หมดวาระเดือน มี.ค.ปีหน้าก็กลับมาลุยต่อได้ทันทีหนำซ้ำยังอาศัยลูกขลุกขลิกหั่นทิ้ง ส.ว.สรรหา ไประหว่างวาระ 2 เล่นเอามึนตึ้บตั้งกระบวนท่าไม่ทันเหมือนกัน
ฉะนั้นเรื่องจะต้องไปลงเอยในชั้นศาลรัฐธรรมนูญ
แต่พรรคเพื่อไทยประกาศแล้วไม่สนอำนาจศาลใครจะทำไมจะดันทุรังใช้เสียงข้างมากลากถูต่อไป ใครไม่พอใจก็ว่ามา!!
ความขัดแย้งที่มันดำรงอยู่ต่อเนื่องทุกวันนี้ก็เพราะความย่ามใจของเสียงข้างมากลักษณะนี้แหละแทบไม่ต้องทายเลยว่าการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท วันที่ 19-20 ก.ย.นี้ จะมีบรรยากาศอย่างไร มันก็จะเหมือนเดิมคล้ายกับการอภิปรายร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ
เพราะต่างฝ่ายต่างก็เดินบนจุดยืนของตัวเองแบบตั้งมั่นเดี๋ยวก็มีห้ำหั่นกันอีกแน่ การโห่ฮาขว้างปาจากความอัดอั้นของเสียงข้างน้อยเสียงข้างมากก็ลากไปอย่างอดทน ซ้ำยังแอบกวนเกือกฝ่ายตรงข้ามอยู่เนืองๆ
อย่างไรก็ตาม เรื่อง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท สุดท้ายก็ต้องถึงมือศาลรัฐธรรมนูญด่านสำคัญจริงๆ ของเผด็จการเสียงข้างมากไม่ใช่รัฐสภา แต่อยู่ที่องค์กรอิสระ