ครม.เห็นชอบ เอ็มโอยู ลิขสิทธิ์ไทย-เกาหลี อีกด้านผุดไอเดียจัดโซนนิงภาคกลาง ปลูกอ้อยแทนข้าวช่วงนอกฤดูกาล
วันนี้ (17 ก.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.มีมติเห็นชอบการลงนามบันทึกความเข้าใจเรื่องความร่วมมือด้านลิขสิทธิ์และสิทธิข้างเคียง ระหว่างกรมทรัพย์สินทางปัญญาและสำนักงานลิขสิทธิ์เกาหลี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการคุ้มครองลิขสิทธิ์ และการป้องปรามการละเมิดลิขสิทธิ์ ตลอดจนส่งเสริมอุตสาหกรรมวัฒนธรรม (cultural industries) ของทั้งสองประเทศผ่านการหารือแลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจระหว่างผู้เกี่ยวข้องโดยทั้งสองฝ่ายจะแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านนโยบายการคุ้มครองลิขสิทธิ์ การใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์จากลิขสิทธิ์ และสภาพการณ์ด้านลิขสิทธิ์ (copyright environment) รวมทั้งจะส่งเสริมความพยายามในการพัฒนานโยบาย และสภาพการณ์ที่ส่งเสริมลิขสิทธิ์ โดยทั้งสองหน่วยงานตกลงที่จะร่วมมือในการปรับปรุงนโยบายและสิ่งแวดล้อมด้านลิขสิทธิ์ให้มีคุณภาพสูงขึ้น และจะจัดให้มีการประชุมหารือระดับอธิบดี หรือระดับผู้บริหารขั้นสูง (Director General-level consultation meeting) เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านกฎหมาย นโยบาย และการป้องปรามการละเมิดลิขสิทธิ์ การประชุมระดับเจ้าหน้าที่ (Working-level meeting) และผลัดกันเป็นเจ้าภาพจัดเวที (forum)
ทั้งนี้ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลความเห็นด้านลิขสิทธิ์ทุกปีตามความเหมาะสมนอกจากนี้ทั้งสองฝ่ายจะส่งเสริมการแลกเปลี่ยนผู้เชี่ยวชาญ เจ้าหน้าที่ของรัฐจัดให้มีการฝึกอบรมบุคลากรของรัฐที่ปฏิบัติงานด้านลิขสิทธิ์ ตลอดจนจัดให้มีการเยี่ยมชมอุตสาหกรรมลิขสิทธิ์ระหว่างกัน เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมลิขสิทธิ์ของทั้งสองประเทศให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น และจะส่งเสริมความร่วมมือระหว่างหน่วยงานด้านการจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์ ซึ่งรวมถึงการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนข้อมูลการปฏิบัติงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมลิขสิทธิ์ทั้งนี้มีผลใช้บังคับทันทีที่ทั้งสองฝ่ายลงนามสมบูรณ์ มีระยะเวลา 3 ปี นับจากวันที่ลงนามและสามารถต่ออายุได้โดยอัตโนมัติ เว้นแต่จะมีผู้เข้าร่วมฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแจ้งความประสงค์ที่จะยกเลิกความร่วมมือฉบับนี้เป็นลายลักษณ์อักษรอย่างน้อย 6 เดือน ก่อนบันทึกความเข้าใจฯ จะมีกำหนดสิ้นสุด
ด้าน ร.ท.หญิง สุนิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้กำชับในเรื่องราคาอ้อย โดยขอให้กระทรวงอุตสาหกรรมมีการตามงานและเร่งทำโครงสร้างราคามา โดยจะมีการเร่งรัดให้มีการประชุมโซนนิง ในเรื่องของการปรับเปลี่ยนการปลูกข้าวนาปรังในช่วงนอกฤดูกาลมาปลูกอ้อย หรือพืชชนิดอื่นแทน หรือหากในช่วงน้ำท่วมก็ให้ทำประมง ก็จะทำให้มีรายได้มากขึ้นในทุกฤดูกาล โดยจะนำโมเดลนี้ไปทำในพื้นที่ภาคกลางก่อน ซึ่งเมื่อเกษตรกรภาคอื่นเห็นว่าทำแล้วทำให้มีรายได้ดีขึ้นก็จะทำตาม