“มาร์ค” เย้ย พท.ตีตนไปก่อนไข้ กดดันศาลไม่รับคำวินิจฉัยแก้ รธน.

“อภิสิทธิ์” ติงรัฐบาลต้องเคารพอำนาจแต่ละฝ่าย อย่าตีตนไปก่อนไข้ ไม่รับคำวินิจฉัยศาล รธน.ทั้งๆ ที่ยังไม่รู้จะยื่นตีความอย่างไร ผลจะออกมาแบบไหน ชี้ประธานวุฒิสภา กดดันศาลไม่ให้มายุ่งตีความแก้ รธน. เผยเตรียมย้ำจุดยื่นกับ “บรรหาร” เวทีปาหี่ปฏิรูปของรัฐบาลไม่ตอบโจทย์ ย้อนถามถ้าจริงใจทำไมไม่ทำตามข้อเสนอของหลายฝ่ายก่อนหน้านี้ ปัด ปชป.อยู่เบื้องหลังม็อบสวนยางใต้

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการที่พรรคเพื่อไทยระบุว่าหากศาลรัฐธรรมนูญลงมติว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประเด็นที่มา ส.ว.ขัดรัฐธรรมนูญ รัฐสภาอาจเดินหน้าลงมติวาระ 3 ว่า แต่ละฝ่ายต้องเคารพอำนาจแต่ละฝ่าย ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจเป็นผู้ชี้ ซึ่งขณะนี้ต้องเรียกว่าตีตนไปก่อนไข้ เพราะยังไม่ทราบว่าจะมีการฟ้องร้องหรือจะยื่นศาลรัฐธรรมนูญช่องทางไหน และศาลรัฐธรรมนูญเมื่อรับเรื่องแล้วจะพิจารณาอย่างไร แต่กลับมีการบอกว่าจะไม่สนใจศาล ซึ่งกรณีดังกล่าวจะนำไปสู่การเผชิญหน้าแน่นอน ส่วนจะต้องยื่นคำร้องก่อนครบการลงมติวาระ 2 ระยะเวลา 15 วัน หรือยื่นหลัง 15 วันนั้น ก็ต้องขึ้นอยู่กับช่องทาง โดยบางช่องทางต้องยื่นก่อน บางช่องทางยื่นภายหลัง แต่คิดว่าบางส่วนจะยื่นก่อนอย่างแน่นอน

ส่วนกรณีที่นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา และแกนนำวิปรัฐบาล ระบุว่าหากไม่ผ่านก็ต้องประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อยืนยันอำนาจรัฐสภาว่าศาลไม่มีอำนาจวินิจฉัยนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่าว่า เป็นสิ่งที่พูดหลายครั้งว่ามีคนพยายามสร้างความขัดแย้งตลอดเวลา และถือว่าเป็นวิธีกดดันศาล พยายามบอกว่าอย่ามายุ่ง ทั้งที่ยังไม่รู้ว่าเป็นเรื่องอะไรและจะพิจารณาตัดสินอย่างไร เชื่อว่ากรณีอย่างนี้จะทำต่อเนื่อง ซึ่งยืนยันว่าศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจวินิจฉัยร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องที่มา ส.ว. รวมทั้งร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท และร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม

ผู้สื่อข่าวถามถึงการที่นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา จะเข้าพบเพื่อพูดคุยแนวทางปฏิรูปการเมืองของรัฐบาลในบ่าย นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คงจะพูดคุยว่าทำไมตนมองว่ารูปแบบที่รัฐบาลดำเนินการอยู่ไม่ได้ตอบโจทย์ประเทศ ก็ต้องให้เกียรติและฟังนายบรรหารก่อน และตนจะให้เหตุผลกับนายบรรหาร ถ้าเห็นว่าเหตุผลตนถูกต้องและนำไปบอกกับรัฐบาลก็เป็นเรื่องดี แต่จุดยืนของพรรคชัดเจนว่าเราสนับสนุนเรื่องปรองดองเรื่องปฏิรูป ถ้าทำบนพื้นฐานความจริงใจ ซึ่งขณะนี้ก็มีภาคประชาชนที่ออกตัวประมาณ 45 องค์กรจะขับเคลื่อนเรื่องนี้

ทั้งนี้ เรายังไม่เข้าใจรัฐบาลว่าถ้าอยากทำเรื่องปฏิรูป ทำไมไม่ทำตามหลายเรื่องที่เคยมีการเสนอก่อนหน้านี้ และครั้งนี้จะมั่นใจได้อย่างไรว่าถ้ามีใครไปร่วมแล้วจะทำตาม ซึ่งมีบางคนที่ส่งเสียงมาจากแดนไกลบอกว่าสุดท้ายจะจบลงที่แก้รัฐธรรมนูญ ไม่ทราบว่าคือธงหรือไม่ รวมทั้งถ้าจะทำให้เกิดความปรองดอง ปัญหาก็ไม่ใช่หยุดอยู่ตรงนี้ เพราะรัฐบาลเดินหน้าเรื่องนิรโทษกรรม รื้อรัฐธรรมนูญ ดังนั้นไม่เข้าใจว่าจะมาคุยอะไรกัน นอกจากนี้รัฐบาลควรรับฟังความเห็นสภาปฏิรูปประเทศไทย และทุกฝ่ายด้วย

นายอภิสิทธิ์กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ระบุฝ่ายค้านอยู่เบื้องหลังม็อบชาวสวนยางพาราว่า ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์เข้าไปดูแลทุกข์สุขของประชาชน แต่ไม่ได้ยุยงให้เกิดปัญหา ถ้ารัฐบาลมีความตั้งใจในการที่จะพูดคุยกับชาวสวนยางจริงๆ โดยไม่มีอคติ ไม่เลือกปฏิบัติก็จะแก้ปัญหาได้ โดยไม่ควรสร้างประเด็นทางการเมืองแต่ควรไปแก้ปัญหาดีกว่า