ส.ส.ปชป.ไม่พอใจประธานรัฐสภา ถกแก้ รธน.ที่มา ส.ว.ชี้ทำผิดข้อบังคับการประชุม ชี้นัดประชุมเบียดบังการทำหน้าที่เกินความจำเป็น แทนที่กฎหมายสำคัญๆ ที่รัฐธรรมนูญบังคับไว้ก็ไม่ได้เข้าสู่สภา โต้กลับหลังลุกลี้ลุกลนอ่านมาตรา 7 บอก “โคตรใจเย็นแล้วนะ” ก่อนตัดบทหลังเถียงอยู่นานนับชั่วโมง
วันนี้ (9 ก.ย.) การประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เกี่ยวข้องกับที่สมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว.เริ่มขึ้นเมื่อเวลา 16.40 น.โดย นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม โดยก่อนที่จะเข้าสู่การพิจารณา ม.7 ว่าด้วยการดำรงตำแหน่งของ ส.ว.และการกำหนดการเลือกตั้ง หลังจากที่ ส.ว.หมดวาระลง ฝ่ายค้านได้ขอหารือเพื่ออภิปรายถึงการนัดประชุมร่วมรัฐสภาในสัปดาห์นี้ว่า นายสมศักดิ์ทำผิดต่อข้อบังคับการประชุม และไม่ควรเร่งรีบให้ประชุม ทั้งที่สมาชิกทั้งสองสภา มีหน้าที่ต้องทำสิ่งอื่นที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากกว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า การนัดประชุมเบียดบังการทำหน้าที่ ส.ว. และ ส.ส.เกินความจำเป็น ประชุมวันเสาร์ที่ 7 ก.ย.น่าไม่ชอบด้วยข้อบังคับ เพราะวันศุกร์ที่ 6 ก.ย.มีการลงมติโดยมิชอบและตนได้ทักท้วงไปแล้ว เนื่องจากมีผู้เสนอปิดอภิปราย ขณะที่สมาชิกรัฐสภาจำนวนมากยังใช้สิทธิ์อภิปรายไม่หมด ถือว่าไม่ชอบ แต่มีการเร่งรัดปิดอภิปรายและลงมติ จากนั้นสั่งพักการประชุม และนัดให้ประชุมใหม่เสาร์ที่ 7 ก.ย.เวลา 10 .00 น.ไม่ชอบตามข้อ 12 การนัดประชุมรัฐสภาต้องทำเป็นหนังสือเว้นแต่ได้บอกนัดในที่ประชุมแล้ว กรณีนี้ถือเป็นบอกนัดในที่ประชุม แต่วรรคสองบอกว่าให้นัดล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 3 วันไม่นับรวมวันส่งหนังสือ และวันประชุม แต่ประธานสภาเห็นสมควรจะนัดเร็วกว่านั้นก็ได้ หากเห็นว่าเป็นเรื่องเร่งด่วน แต่ต้องไม่น้อยกว่า 1 วัน แปลว่าหากนัดวันที่ 6 ก.ย.ต้องประชุมวันที่ 8 ก.ย.จึงถือไม่ชอบข้อบังคับข้อที่ 12 ขอให้บันทึกเป็นหลักฐาน
การนัดแก้รัฐธรรมนูญในสัปดาห์นี้ ถือเบียดบังการทำหน้าที่ ส.ส. ส.ว.เพราะ ส.ว.มีหนังสือนัดวันที่ 4 ก.ย.คือวันนี้ เวลา 10.00 น.และพรุ่งนี้ 11.00 น.แต่ประธานรัฐสภาได้ออกหนังสือนัดประชุมร่วมรัฐสภาวันนี้และพรุ่งนี้เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ แทนที่กฎหมายสำคัญๆ ที่รัฐธรรมนูญบังคับไว้ก็ไม่ได้เข้าสู่สภา เช่น เมื่อวันที่ 3 ก.ย.คณะรัฐมนตรีออกพระราชกำหนดขึ้นภาษีสินค้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รัฐธรรมนูญบอก ครม.ต้องส่งมาให้สภาเพื่อพิจารณาเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบชักช้าไม่ได้ แต่กลับมีการนัดประชุมแก้รัฐธรรมนูญ หรือกฎหมายการแต่งตั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินก็เช่นกัน
นายพรศักดิ์ เจริญประเสริฐ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า ประชาชนเป็นพันเรียกร้องให้เลือกตั้ง ส.ว.คนเดียวไปดูแลได้อย่างไรเขาอยากได้ 5 คน ไม่เร่งด่วนอย่างไร ไม่ได้เห็นแก่ ส.ว. เลือกตั้งแต่เห็นแก่ประชาชน ลากมา 2-3 วันแล้ว ประชาชนเขาบอกให้รีบ อยากให้ออกมาทันเดือน มี.ค.ขอให้ฟังเสียงประชาชนเรียกร้อง ไม่ใช่ฟังเสียงตรงนี้
นายสมศักดิ์ ยืนยันว่า การนัดประชุมเป็นไปตามข้อบังคับและตนใช้ตามอำนาจที่มี ไม่ใช่การลงมติเป็นการนับองค์ประชุม และที่บอกองค์ประชุมไม่ครบแล้วมาเรียกวันนี้ได้อย่างไร ตอบง่ายๆ หลังจากประธานขึ้นมาทำหน้าที่ประธานได้ประกาศจำนวนผู้ลงชื่อเข้าร่วมประชุม มีเกินกว่ากึ่งหนึ่ง ถือว่าเข้าระเบียบแล้ว ข้อบังคับถือเป็นปกติ แต่พอเริ่มมีการนับองค์ประชุม แต่ไม่ครบ ก็มีการนัดประชุมใหม่ ก็ปฏิบัติกันมานานแล้วถกเถียงกันทั้งวันคืนหาข้อสรุปไม่ได้ เสียเวลา ขอให้เข้าสู่วาระที่อนุญาตให้หารือเพราะให้เกียรติสมาชิก
จากนั้นนายสมศักดิ์ได้สั่งให้เลขานุการที่ประชุมเริ่มอ่านรายละเอียดของ ม.7 แต่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ยังคงตะโกนประท้วงอย่างต่อเนื่อง นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก ขอให้นายสมศักดิ์ต้องใจเย็นๆ ซึ่งนายสมศักดิ์โต้ว่า ตนโคตรใจเย็นแล้วนะ สรุปแล้วคำวินิจฉัยของประธานไม่ถูกต้องใช่หรือไม่ แต่ก็ยินยอมให้มีการอภิปรายต่อไป โดยขอให้หารือให้น้อย ถ้าอยากจะได้เวลาอภิปรายในสาระมากๆ
หลังจากให้โอกาสถกเถียงอยู่ร่วมชั่วโมงในที่สุด นายสมศักดิ์ได้ตัดบทให้เข้าสู่การพิจารณามาตรา 7