ประธาน กบอ.สวนอดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ไร้ข้อเท็จจริงทำสังคมสับสน โวยเสียหาย อ้างศาลปกครองพิพากษาคนละเรื่องฟังความเห็นแบบอีไอเอ ยันทำอยู่ ซัดจงใจหาเรื่อง จวกแทนที่จะสร้างปรองดองมายุให้ฟ้องร้อง ชูคลังกู้สมบูรณ์แล้ว อ้างเล่นบทพญาเม็งรายถวายเกียรติผู้นำ ไม่เกี่ยวเวลางาน สับทำตัวมีปัญหารัฐ ชี้นำสังคมผิด ไล่พวกต้านเขื่อนแม่วงก์ฟังผลสำรวจสิ่งแวดล้อม
วันนี้ (9 ก.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 11.30 น.นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) แถลงตอบโต้กรณีที่ นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ออกมาพาดพิงโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาทว่า สิ่งที่ นายวสันต์ พูดปราศจากข้อเท็จจริง ทำให้สังคมสับสน ยุให้มีการฟ้องร้องเป็นคคีความกัน และทำให้ตนเสียหาย การที่บอกว่ารัฐบาลไม่ยอมทำตามคำสั่งศาลปกครองที่ให้มีการรับฟังความคิดเห็นและทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) นั้น ตนไม่ทราบว่านายวสันต์ ไม่เข้าใจจริงๆ หรือตั้งใจจะทำให้สับสน เพราะสิ่งที่ศาลปกครองพิพากษาไปแล้วเป็นเรื่องของรัฐธรรมนูญมาตรา 57 วรรค 2 ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับอีไอเอ และเรื่องรับฟังความคิดเห็นในกรณีของอีไอเอตาม พ.ร.บ.สิ่งแวดล้อม แต่ นายวสันต์ พูดโดยเอาสองเรื่องมารวมกัน ทั้งนี้ การรับฟังความคิดเห็นประชาชนตามมาตรา 57 วรรค 2 รัฐธรรมนูญระบุให้ทำอย่างทั่วถึง รัฐบาลเองก็ทำอยู่ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 3-4 เดือน ฉะนั้น การที่พูดโดยนำสองเรื่องมารวมกัน ในฐานะที่ท่านเป็นอดีตประธานรัฐธรรมนูญน่าจะรู้ แต่ไม่ทราบว่าเจตนาว่าเอาสองเรื่องนี้มาผสมกันได้อย่างไร
นายปลอดประสพ กล่าวว่า การที่ระบุว่าศาลปกครองสั่งไปนานแล้วรัฐบาลทำอะไรอยู่นั้น ข้อเท็จจริงใน 1 ปีเศษที่ผ่านมา รัฐบาลประกาศอย่างชัดเจนในตารางการทำงานจนคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติ กบอ.เองทำงานช้ากว่าที่เสนอ ครม.ไว้เพียง 15 วันเท่านั้น ซึ่งตนถือว่าดีมาก เพราะได้ทำตามที่ประกาศต่อสาธารณชนเอาไว้ ตนคิดว่านายวสันต์ จงใจหาเรื่อง นอกจากนี้ การที่นายวสันต์ บอกว่าสงสารบริษัทอิตาเลียนไทย และเค.วอเตอร์ที่จะไม่ได้รับเงิน พร้อมทั้งยุธนาคารไม่ให้มีการจ่ายเงิน และยุกระทรวงการคลังให้ฟ้องแพ่งนั้น ตนคิดว่าท่านเป็นผู้ใหญ่ที่ต้องสร้างความปรองดองความสามัคคีและเป็นผู้รู้ทางกฎหมายน่าจะใช้ความรู้ของท่านแนะนำให้มีการพูดคุยทำความเข้าใจหาทางออก ไม่ใช่ยุให้เกิดการฟ้องร้องสองฝ่ายอย่างที่ทำอยู่
นายปลอดประสพ กล่าวว่า ขณะเดียวกัน เรื่องการกู้เป็นเรื่องของกระทรวงการคลัง เรื่องดังกล่าวได้มีการหารือกันทั้งคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานอัยการ สำนักกฎหมายของกระทรวงการคลังต่างยืนยันว่าการกู้เงินได้สมบูรณ์แล้ว ความจริงเงินก็ได้ใช้ไปแล้วส่วนหนึ่งประมาณ 10% หรือ 3 หมื่นล้านบาท โดยเป็นในส่วนของกระทรวงคมนาคม และอื่นๆ อีก ตนจึงเชื่อในคำแนะนำของฝ่ายกฎหมายรัฐบาลมาตลอด ส่วนเรื่องการพาดพิงการแสดงเป็นพญาเม็งรายของตน อยากเรียนให้ทราบว่าการแสดงดัวกล่าว เพราะตนเป็นรองนายกรัฐมนตรี ถวายพระเกียรติพญาเม็งรายในฐานะเป็นผู้ให้กำเนิดเชียงใหม่ ตนให้เกียรติผู้นำประเทศและรัฐมนตรีอีก 30 ประเทศในฐานะที่เป็นตนเป็นคนจัดงาน อีกทั้งตนทำได้ดี เพราะเคยเล่นละครมาก่อน และตอนซ้อมหรือตอนเล่นก็ทำตอนกลางคืน ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการทำงาน
“ผมอยากให้นายวสันต์ ทำใจให้กว้าง อย่าตำหนิกล่าวหาไปเรื่อยๆ พูดจาให้คนโกรธอย่างนี้คิดว่าไม่ถูกเรื่องอย่างยิ่ง สุดท้ายอยากเรียนว่าในหลายๆ ปีที่ผ่านมานายวสันต์ เองก็ได้ชื่อว่าเป็นบุคคลที่ดูเหมือนจะมีปัญหากับรัฐบาลตลอดเวลา วันนี้ท่านแสดงตัวออกมาแล้วชี้นำสังคมในทางที่ผิด ผมคิดว่าในเมื่อท่านทำงานเยอะ เหนื่อย แล้วออกมาเป็นประชาชนคนธรรมดา แล้วไปร่วมงานที่ผู้จัดมุ่งหวังที่จะได้รับฟังความรู้ประสบการณ์ด้านกฎหมายและคำชี้นำที่ทำให้ประเทศชาติเจริญก้าวหน้าและปรองดอง แต่ท่านดูเหมือนจะทำตรงข้าม จึงอยากขอร้องท่านเพราะยังเชื่อว่าในโอกาสต่อไปท่านยังคงมีโอกาสไปแสดงความเห็นในที่อื่นอีก ก็อย่าทำอย่างนี้เลย ทำอย่างนี้ไม่ได้อะไร จะเสียชื่อเอง” นายปลอดประสพ กล่าว
ประธาน กบอ.ยังกล่าวถึงการคัดค้านเรื่องการสร้างเขื่อนแม่วงก์ว่า สำหรับเขื่อนแม่วงก์วันนี้ถูกออกแบบใหม่ ซึ่งเป็นการปรับปรุงจากแบบเดิมที่เป็นไปเพื่อการชลประทานมาเป็นการป้องกันน้ำท่วมและการลดน้ำจากลุ่มน้ำแม่วงก์ที่จะผ่านแม่น้ำสะแกกรังลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาเหนือเขื่อนชัยนาท หากเราควบคุมปริมาณน้ำประมาณ 500-1,000 ล้านลูกบาศก์เมตร จะสามารถทำให้เขื่อนชัยนาททำงานได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น จะป้องกันทุ่งเจ้าพระยาไม่ให้ท่วมได้ นอกจากนี้ การสร้างยังเป็นการสร้างในอุทยานแห่งชาติ ไม่มีประชาชนอยู่อาศัย ไม่มีคนเดือดร้อน แต่จะมีการทำอีไอเอ และรายงานผลกระทบด้านสุขภาพ (เอชไอเอ) ฉะนั้น ทำมาเป็นอย่างไรทุกคนจะต้องเคารพ และการทำเอชไอเอและอีไอเอทำในรูปคณะกรรมการ ไม่มีใครไปชี้นำ
“การที่กลุ่มต่อต้านเขื่อนออกมาต่อต้านอีก ท่านจะเอาอะไร ท่านไม่เชื่อกฎระเบียบอะไรใครสักอย่าง เอาแต่ตัวท่าน ไม่ทำท่านก็เรียกร้องให้ทำอีไอเอ พอทำแล้วก็ไม่รับผล หาว่ามีการชี้นำ ผมว่ามันคงไม่ถูกมั้ง ท่านเห็นคนอื่นผิดหมด ไม่เชื่อใครสักคน”ประธาน กบอ.ระบุ
