xs
xsm
sm
md
lg

“ปู” ปัดตอบทำตามข้อเรียกร้องชาวสวนยางหรือไม่ กำชับ “ประชา” ดูแลม็อบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (แฟ้มภาพ)
“นายกฯ ยิ่งลักษณ์” กำชับ “ประชา” ดูแลม็อบสวนยางระหว่างเยือนต่างประเทศ ชิงหนีเจอสื่อถามจะดำเนินการตามข้อเรียกร้องของชาวสวนยางหรือไม่ ด้าน รมว.อุตฯ รับลูกรัฐบาล สั่งปล่อยสินเชื่อผู้ประกอบการแปรรูปยาง วงเงิน 1.5 หมื่นล้านบาท “นิวัฒน์ธำรง” โวจีนสั่งซื้อข้าว ยางพาราไทย เชื่อทำราคาพุ่ง

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงการชุมนุมของชาวสวนยางในจังหวัดภาคใต้ ว่า ระหว่างที่เดินทางไปต่างประเทศได้กำชับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องในการดูแลผู้ชุมนุมชาวสวนยางพารา โดยเฉพาะ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี ที่ทำหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรี อีกทั้งในขณะที่เดินทางไปต่างประเทศ ตนก็จะติดตามสถานการณ์ว่าเป็นอย่างไรบ้างด้วยความเป็นห่วง อย่างไรก็ตาม ทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องได้รับทราบภารกิจกันอยู่แล้ว เชื่อว่าทุกส่วนจะช่วยกันดูแลความสงบเรียบร้อยของประเทศ

ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลจะทำตามข้อเรียกร้อง 4 ข้อ ของเกษตรกรได้ทันเวลา 7 วันไม่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องยืนยันตามที่ นายกิตรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง และคณะกรรมการแก้ไขปัญหายางพารา ที่ได้ไปประชุมร่วมกับเกษตรกรตัวจริง เมื่อถามย้ำว่า จะดำเนินตามข้อเรียกร้องของเกษตรกรทันเวลาหรือไม่ นายกฯ ได้เดินออกจากวงสัมภาษณ์ และไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าว

นายประเสริฐ บุญชัยสุข รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า กระทรวงอุตสาหกรรม ได้สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปช่วยส่งเสริมโรงงานแปรรูปยางพารา เช่น กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ในการเร่งพัฒนาอุตสาหกรรมยางและผลิตภัณฑ์ยาง กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ในการตั้งโรงงานแปรรูปยางพารา การปรับเปลี่ยนเครื่องจักร รวมทั้งสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (สกท.) ในการชักจูงนักลงทุนมาตั้งโรงงานผลิตยางรถยนต์ ถุงมือยาง/ถุงยางอนามัยในประเทศไทย ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมกลางน้ำ และปลายน้ำ ซึ่งคาดว่าจะช่วยทำให้ราคายางมีเสถียรภาพ สามารถแก้ไขปัญหาความผันผวนของราคาได้ในระดับหนึ่ง

ทั้งนี้ อุตสาหกรรมยางกว่าร้อยละ 90 ของไทย เป็นอุตสาหกรรมต้นน้ำ ที่ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ภาคใต้ มีตลาดส่งออกหลักได้แก่ จีน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา มาเลเซีย เกาหลีใต้ และยุโรป และอีกร้อยละ 10 เป็นอุตสาหกรรมกลางน้ำ และอุตสาหกรรมปลายน้ำที่อยู่ในพื้นที่ภาคต่างๆ

นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ได้สั่งการเร่งรัดดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง หลังรัฐบาลอนุมัติสินเชื่อให้ผู้ประกอบการแปรรูปยางพารา ขยายการผลิต และปรับเปลี่ยนเครื่องจักรการผลิต วงเงิน 15,000 ล้านบาท ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2556-กันยายน 2558

ด้าน นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงความคืบหน้าที่สาธารณรัฐประชาชนจีนสั่งซื้อข้าวไทย จำนวน 1 ล้านตัน ว่า วันที่ 5 ก.ย.ที่ที่ผ่านได้เดินทางไปปักกิ่ง มณฑลจี๋หลิน มณฑลเฮย์หลงเจียง ซึ่งภารกิจที่ไปทำคือการไปเผยแพร่ข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา ผลไม้ของประเทศไทย โดยตนไปเปิดงานไทยแลนด์ วีค โรดโชว์ ที่ปักกิ่ง ซึ่งเป็นการแสดงสินค้าของไทยโดยเฉพาะเรื่องผลไม้ และอาหารไทยสำเร็จรูป ส่วนที่มณฑลจี๋หลิน และมณฑลเฮย์หลงเจียง จะเป็นเรื่องของการขายข้าว ยางพารา และแป้งมันสำปะหลัง ซึ่งตนไปเสนอใน 3 เรื่องคือ 1.เรื่องการค้าขาย 2.เรื่องการลงทุนสร้างโรงงานแปรรูปสินค้าเกษตรในประเทศไทย และ 3.ได้เชิญชวนให้เขาเป็นแหล่งเผยแพร่สินค้าไทย ไปยังประเทศรัสเซีย เกาหลีเหนือ และเกาหลีใต้ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี

นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวว่า ทั้งนี้ ทางรัฐวิสาหกิจจีนได้มีข้อตกลงว่าจะซื้อข้าวเจ้าขาวจากประเทศไทย จำนวน 1.2 ล้านตัน จะส่งภายใน 1 ปี แป้งมันสำปะหลัง จำนวน 3 แสนตัน ยางพารา จำนวน 2 แสนตัน โดยจะมีการทำสัญญาซื้อขายกันภายในเดือนนี้ รวมถึงเขาสนใจที่จะมาตั้งโรงงานแปรรูป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องยางพารา และเรื่องแป้งมันสำปะหลัง ทั้งนี้ เรายังได้เสนอเรื่องปาล์มน้ำมันไปด้วย ซึ่งเขาเองก็มีความสนใจที่จะทำ

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีการระบายยางพารา จำนวน 2 แสนตัน ไปจีนจะทำให้ราคายางพาราดีขึ้นหรือไม่ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ราคายางน่าจะดีขึ้น เป็นเรื่องธรรมดาของการค้าขายที่หากมีสต๊อกมากขึ้น ราคาสินค้าก็จะไม่สูง แต่ถ้ามีสต๊อกน้อยราคาก็จะสูง เมื่อถามว่า แนวโน้มของราคายางจะขึ้นสูงสุดได้เท่าไหร่ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับราคาตลาดโลก คือ ถ้าของที่จะขายมีน้อยราคาก็จะสูง เดี๋ยวนี้การค้าขายไม่ได้ดูเฉพาะบ้านเรา แต่จะต้องดูราคาตลาดโลกด้วย ฉะนั้นการที่เราส่งออกไปจำนวนมากเมื่อวัตถุดิบน้อยลงราคาก็น่าจะสูงขึ้น และราคาตลาดโลกก็จะสูงขึ้นด้วย

ส่วนโอกาสที่ราคายางพาราจะขึ้นถึง 100 บาทต่อ กก.นั้น นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่าจะขึ้นเท่าไหร่ แต่โดยหลักการทั่วไปทางเศรษฐศาสตร์ เมื่อวัตถุดิบน้อยลงราคาย่อมดีขึ้น ทั้งนี้ คิดว่าปริมาณยางพาราที่จะส่งออกมีเพียงพอ

นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวว่า สัปดาห์หน้าตนจะเดินทางไปประเทศรัสเซีย เพื่อไปพูดคุยในเรื่องสินค้าเกษตร เพราะสินค้าอื่นพวกบริษัทใหญ่เขาทำกันหมดแล้ว ซึ่งสินค้าเกษตรเราต้องกันช่วยเยอะๆ เพราะสินค้าเกษตรของเรามีคุณภาพดี ไม่ว่าจะเป็นข้าว ยางพารา แป้งมันสำปะหลัง ที่ราคาอาจจะสูงกว่าคนอื่นเราก็ต้องเอาคุณภาพไปขาย


กำลังโหลดความคิดเห็น