xs
xsm
sm
md
lg

ถามเสื้อแดงดูถูก “ม็อบสวนยาง” มีความเป็นคนอยู่หรือ? ปชป.เมิน “เตี้ยสุพรรณ” ดึงปาหี่ปฏิรูป

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ภาพจากแฟ้ม)
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ชี้รัฐบาลใช้เงินฟาดหัวชาวสวนยางเอื้อประโยชน์แค่เจ้าของสวน ไม่รวมชาวสวนที่กรีดยาง ซัด “เสื้อแดง” ดูถูกม็อบสวนยาง ถามยังมีความเป็นคนอยู่หรือเปล่า เมิน “เติ้ง” ชวนร่วมวงปาหี่ปฏิรูป ลั่นยังไงก็ไม่ร่วมวง จี้นำคำปาฐกถาของ “โทนี แบลร์” ไปปฏิบัติ ด้าน “แทนคุณ” ไล่นายกฯ-รมว.คึกษาฯ แก้การศึกษาหลังพบไทยรั้งท้ายอันดับ 8 อาเซียน

วันนี้ (4 ก.ย.) ที่รัฐสภา นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แสดงความกังวลเกี่ยวกับท่าทีของรัฐบาลที่ไม่มีแนวทางตอบสนองข้อเรียกร้องของเกษตรกรชาวสวนยาง แต่ในทางกลับกันยังใส่ร้ายว่าการชุมนุมมีการเมืองอยู่เบื้องหลังโดยโฆษกพรรคเพื่อไทย ถือเป็นความจงใจสร้างความแตกแยก ปฏิเสธการช่วยเหลือประชาชน อีกทั้งยังมีวิธีการที่เป็นสองมาตรฐานชัดเจนจากมติ ครม.เมื่อวานนี้ ที่อนุมัติงบจำนำข้าวรอบใหม่กว่า 270,000 ล้านบาท แต่ไม่มีการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับยางพาราในลักษณะเดียวกัน ซึ่งหากจำนำยางพาราในราคา 102 บาทต่อกิโลกรัม จะใช้งบประมาณทั้งหมดไม่เกิน 80,000 ล้านบาท และสามารถเก็บไว้ในสต๊อกโดยไม่เน่าเหมือนข้าว และมองว่ามติ ครม. ที่ให้จ่ายค่าสนับสนุนปัจจัยการผลิต 1,260 บาทต่อไร่ สำหรับผู้ปลูกยางไม่เกิน 10 ไร่จะมีผู้ที่ได้ประโยชน์น้อยมาก เพราะส่วนใหญ่ต้องปลูกเกิน 10 ไร่ จึงจะคุ้มทุน อีกทั้งจะเป็นการเอื้อประโยชน์เพียงเจ้าของสวนยาง ไม่รวมถึงชาวสวนที่กรีดยาง

ส่วนกรณีที่แกนนำเสื้อแดงออกมากล่าวหานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่าไม่เป็นลูกผู้ชายเอาปัญหาชาวสวนยางพารามาเป็นประเด็นการเมือง ขอยืนยันว่านายอภิสิทธิ์เป็นลูกผู้ชายเต็มขั้นไม่เคยยุยงให้ประชาชนภาคใต้เข้ากรุงเทพฯ แต่ถ้ายังกล่าวหาแบบนี้วันหนึ่งคนใต้ทนไม่ได้เข้ากรุงมาทวงถามแกนนำคนเสื้อแดงจะกล้าอยู่ตอบคำถามหรือไม่ เพราะคนที่เอาความเดือดร้อนของประชาชนมาเป็นเครื่องมือโจมตีคนอื่นคือพรรคเพื่อไทย ซึ่งต้องถามว่ายังมีความเป็นคนอยู่หรือเปล่า

“ยืนยันว่านายอภิสิทธิ์เป็นลูกผู้ชายเต็มขั้น ไม่เคยนำเรื่องความเดือดร้อนเป็นประเด็นการเมือง พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยเรียกร้องให้ชาวสวนยาง 14 จังหวัดภาคใต้มาปิด กทม. แต่หากยังพูดจาดูถูกประชาชนไม่หยุดก็ไม่แน่ใจว่าหากชาวสวนยางเกิดไม่พอใจขึ้นมาอาจจะเดินทางมา กทม. ก็เป็นได้แล้วรัฐบาลจะกล้าอยู่พบหน้าชาวสวนยางหรือไม่” นายชวนนท์กล่าว

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงการเสวนาผนึกกำลังสู่อนาคต เรียนรู้ร่วมกันจากประสบการณ์ ที่รัฐบาลเชิญนายโทนี แบลร์อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ นายมาร์ตี อาห์ติซารี อดีตประธานาธิบดีฟินแลนด์ ผู้ที่ได้รับรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ เมื่อปี 2551 และ พริสซิลลา เฮเนอร์ ที่ปรึกษาอาวุโสของ Centre for Humanitarian Dialogueหรือ HDC ผู้เชี่ยวชาญด้านความยุติธรรมในระยะเปลี่ยนผ่าน ว่าเป็นตัวอย่างชัดเจนให้เห็นว่าเงินของรัฐบาลซื้อทุกอย่างไม่ได้ เป็นบทเรียนสำคัญของรัฐบาลที่หวังจะใช้เวทีนี้เป็นจุดเชื่อมต่อไปยังสภาปฏิรูปฯเพื่อผ่านกฎหมายนิรโทษกรรม เพราะได้ผลอย่างตรงกันข้าม บนเวทีมีการพูดชัดเจนว่า “การนิรโทษกรรมไม่ใช่หนทางสู่การปรองดอง” จึงเป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องทบทวนว่าจะยังเดินหน้าเรื่องนิรโทษกรรมหรือไม่ เพราะขณะนี้เงียบสนิทกันทั้งรัฐบาล แสดงให้เห็นว่าไม่มีความจริงใจ อีกทั้งวิทยากรชาวต่างประเทศที่เชิญมาก็พูดชัดเจนว่า การปรองดองจะเร่งรัดไม่ได้ ดังนั้นจึงเชื่อว่ารัฐบาลจะหาบุคลากรกลุ่มใหม่ให้มาพูดตรงใจกับรัฐบาล ทั้งนี้ตนเห็นว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สามารถทำได้คือ การชะลอกฎหมายนิรโทษกรรม หรือถอนกฎหมายออกไป แต่ถ้าไม่ทำทั่วทั้งโลกจะประณามนางสาวยิ่งลักษณ์ว่าสร้างปาหี่การเมืองเพื่อล้างผิดให้พรรคพวกตัวเอง

ส่วนที่นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา จะเข้าพบแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ในวันที่ 16 กันยายนนี้นั้น นายชวนนท์กล่าวว่า นายบรรหารสามารถมาพบแกนนำพรรคได้อยู่แล้ว แต่พรรคมีจุดยืนชัดเจนว่าจะไม่เข้าร่วมสภาปฏิรูปฯ จึงไม่มีประโยชน์ที่นายบรรหารจะมาเจรจา เว้นแต่ว่าจะมีการถอนกฎหมายนิรโทษกรรมออกไปก่อน

นายชวนนท์กล่าวว่า มีข่าวว่ากรรมาธิการเสียงข้างมากจะถอยมาตรา 5 เรื่องคุณสมบัติผู้มีสิทธิสมัครเป็นสมาชิกวุฒิสภา โดยตัดเรืองสภาผัวเมียออก เป็นการสะท้อนชัดเจนว่าฮั้วกันระหว่าง ส.ส.กับ ส.ว.เลือกตั้งเพราะยังเก็บเรื่อง ส.ว.เลือกตั้งปัจจุบันลงสมัครได้ทันทียังอยู่ หากฟังเสียงข้างน้อยจริงต้องเอาออกทั้งหมดคือต้องไม่ให้ลงต่อเนื่องติดต่อกันด้วย จึงเป็นการแก้รัฐธรรมนูญที่สร้างปรากฏการณ์ผลัดกันเกาหลังจริงๆ เป็นผลประโยชน์ร่วมของ ส.ส.รัฐบาลกับ ส.ว.เลือกตั้ง ไม่ใช่เพื่อประชาชน

ด้านนายแทนคุณ จิตต์อิสระ ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า อยากให้รัฐบาลยึดถือคำพูดของ โทนี่แบลร์ อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ที่ว่าประชาธิปไตยไม่ใช่แค่การเลือกตั้งแต่ต้องจัดความคิดให้เสียงส่วนน้อยและเสียงส่วนใหญ่ได้ร่วมมือกัน แต่ที่ผ่านมาประธานในที่ประชุมรวบรัดตัดตอน ใช้อำนาจคุกคามข่มขู่ แทนที่จะรับฟังความเห็นที่แตกต่าง ทำให้สมาชิกรัฐสภาลำบากใจเป็นห่วงตำรวจรัฐสภาที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งของประธานรัฐสภา โดยเห็นว่าประชาชนที่ติดตามการประชุมร่วมรัฐสภามีความไม่สบายใจเพราะมีเหตุที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของรัฐสภา ทั้งนี้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์พยายามให้ใช้เวทีของรัฐสภาแก้ปัญหาปากท้อง โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านฯ ได้ขอให้นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เชิญ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มาร่วมประชุมสภาในวันพรุ่งนี้ที่จะมีการพิจารณาญัตติเรื่องราคายางพาราและสินค้าราคาแพง โดยรัฐบาลไม่ควรโยนบาปว่าเป็นม็อบการเมือง เพราะประเด็นที่ทำให้จุดติดเกิดจากชาวบ้านเดือดร้อนขณะที่นายกไม่มีความเข้าใจในการแก้ปัญหา ส่วนนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ก็เสียเครดิตกับโกหกสีขาวไปแล้ว จึงต้องหาคนที่มีความจริงใจมาแก้ปัญหาให้กับประชาชน

นอกจากนี้ ยังขอให้รัฐบาลทบทวนการช่วยเหลือคนจนเกี่ยวกับการอุดหนุนราคาแก๊สหุงต้มเพราะมีความยุ่งยากจนประชาชนเข้าไม่ถึง ไม่เข้าใจไม่สามารถทำตามขั้นตอนที่กระทรวงพลังงานกำหนดได้ เนื่องจากซับซ้อนเกินไปจึงอยากให้ทบทวนมาตรการในการเยียวยาประชาชนให้อยู่รอดได้ในภาวะแพงทั้งแผ่นดิน และมีช่องทางในการสอบถามช่วยเหลือประชาชนในเรื่องนี้ด้วย

นายแทนคุณยังแสดงความเป็นห่วงกรณีองค์กรระหว่างประเทศจัดลำดับการศึกษาในอาเซียนไทยอยู่อันดับ 8 อยากให้กระทรวงศึกษาธิการตื่นตัว กระตือรือร้นในการแก้ปัญหาสร้างการวิเคราะห์ คิด สังเคราะห์ แต่รัฐบาลนี้ไม่กระตุ้นให้เด็กใส่ใจการศึกษาอย่างเป็นรูปธรรม นอกจากใช้ประชานิยมแจกแท็บเล็ตให้กับเด็กป.1 ที่มีผลวิจัยแล้วว่าไม่เหมาะที่จะใช้เพราะจะทำให้สมาธิสั้น อีกทั้งยังมีการเปลี่ยน รมว.ศึกษาธิการแล้วถึง 4 คน จึงขอเรียกร้องให้นายกและรมว.ศึกษาธิการ เอาใจใส่กับการศึกษาในทุกมิติ เพราะขณะนี้เยาวชนติดอันดับสองตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรของเอเชีย นอกจากนี้กระทรวงศึกษาธิการยังบังคับให้บุคลากรรวมถึงนักเรียนไปอมรมทางพุทธศาสนากับวัดธรรมกาย ที่ชาวพุทธมีความคลางแคลงใจต่อบทบาทของวัดแห่งนี้ และยังมีคำถามว่ามีประโยชน์ทับซ้อนเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดี ก็มีความสัมพันธ์แนบแน่นกับวัดดังกล่าว ทั้งนี้ตนอยากให้รัฐบาลทบทวนเรื่องการกระจายการศึกษาอย่างทั่วถึงเป็นธรรมเหมือนที่พรรคประชาธิปัตย์ทำมากกว่าการทำประชานิยม ไม่เช่นนั้นจะส่งผลเสียในระยะยาว


กำลังโหลดความคิดเห็น