xs
xsm
sm
md
lg

ฤดูจัดแถวบิ๊กข้าราชการ พท.จัดทัพสู้ศึกใหญ่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
รายงานการเมือง

เป็นปกติของทุกปีเมื่อถึงช่วงเดือน ก.ย.ของทุกปี วงการ “ข้าราชการ” ระดับสูง วิ่งกันฝุ่นตลบอีกเช่นเคย เมื่อเทศกาลฤดูแต่งตั้งโยกย้ายประจำปีมาถึง

รัฐบาล “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี ถือจังหวะไทม์มิ่งนี้เปิดโอกาสให้ “เจ้ากระทรวง” เกลี่ยตำแหน่งให้รู้กันไปเลยว่า “ใคร” เด็ก “ใคร” และ “ใคร” มีฝีมือมากแค่ไหน

เนื่องจากในช่วงขวบ 2 ปีแรกของ รัฐบาลเข้ามา “จัดทัพ” เพื่อเกลี่ยตำแหน่งข้าราชการ ตอบแทน “การเมือง” เสียมากกว่า จึงปรากฏภาพ “บิ๊กข้าราชการ” ทำงานไม่เป็น บริหารงานไม่ได้เกิดขึ้นหลายกระทรวง หลายหน่วยงาน

เข้าสู่ช่วงครึ่งเทอม 2 ปีสุดท้ายก่อนครบวาระ 4 ปี การจัดทัพบรรดา “บิ๊กข้าราชการ” ใหม่ ก็เปลี่ยนจากตอบสนอง “การเมือง” มาเป็น “จัดทัพมือทำงาน” เพื่อวางกำลังเครือข่ายเชื่อม “คอนเน็คชั่น” มองยาวไปถึงการสู้ศึกเลือกตั้งกันล่วงหน้า

ยิ่งกระทรวงใดเป็นเหมือน “อู่ข้าวอู่น้ำ” แล้วไม่ต้องห่วง “บิ๊กข้าราชการ” ต้องเป็นมือทำงานที่ไว้ใจได้เท่านั้น เพื่อเตรียมการกักตุน “เสบียง” ไว้ เพื่อใช้จ่ายในยามจำเป็น

เมื่อไล่ดูมติ ครม.เกี่ยวกับการแต่งตั้งโยกย้ายในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา จะเห็นไลน์อัพที่ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์” วางเครือข่ายเชื่อมโยงกับ “นักการเมือง” ไว้มากมาย โดยเฉพาะที่ กระทรวงมหาดไทย เริ่มที่ “ศิริพงษ์ ห่านตระกูล” ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครอง

ชื่อของ “ศิริพงษ์” ได้รับการสนับสนุนจากคนในพรรคเพื่อไทยเป็นเต็งหนึ่งมาตลอดจนเข้าวิน และที่ผ่านทำงานร่วมกับ “คนเสื้อแดง” ในจังหวัดปทุมธานี ซึ่งถือเป็น “เมืองหลวง” ภาคกลางของคนเสื้อแดงได้เป็นอย่างดี

“ธานินทร์ สุภาแสน” ผู้ว่าฯจังหวัดเชียงใหม่ ถูกโยกไปเป็นผู้ว่าฯจังหวัดลำปาง แม้จะได้รับการผลักดันจาก “เจ๊แดง-เยาวภา วงศ์สวัสดิ์” ส.ส.เชียงใหม่ พี่สาวนายกฯ ให้มาเป็นพ่อเมืองที่บ้านเกิดของตระกูลชินวัตร แต่ปรากฏว่าในระยะหลัง “ธานินทร์” กลับทำงานไม่เข้าตา จึงมีการเสนอให้ปรับเปลี่ยน ซึ่งได้ “พงษ์ศักดิ์ วังเสมอ” ผู้ว่าฯจังหวัดเชียงราย มือไม้สายตรงพรรคเพื่อไทยมารับบท “พ่อเมืองบ้านเกิดนายกฯ” แทน

ส่วนในตำแหน่งสำคัญที่ยังมี “บิ๊กข้าราชการ” ขั้วตรงข้ามนั่งขวางทงอยู่ก็เขี่ยออกไปเกือบหมด อาทิ “ภาณุ อทัยรัตน์” รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เด้งไปเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง แม้เข้าใจได้ว่าตำแหน่งของ “ภาณุ” ถูกคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน หรือ ก.พ.ร. ขออัตราตำแหน่งคืน แต่สัญญาใจที่ให้ไว้ว่าจะตอบแทน “ภาณุ” ด้วยการมอบตำแหน่ง “ปลัดกระทรวงแรงงาน” ให้ก็เงียบหายเข้ากลีบเมฆ

ต่อมาที่ กระทรวงการคลัง ถือเป็นกระทรวงเกรดเอ ที่ถือ “เงิน” อยู่ในมือจำนวนมาก ทำไปทำมา “ราฆพ ศรีศุภอรรถ” ผู้ตรวจราชการกระทรวง มาดำรงตำแหน่ง “อธิบดีกรมศุลกากร”

ว่ากันว่า “ราฆพ” เป็น “คนสนิท” ของ “เบญจา หลุยเจริญ” รมช.คลัง ซึ่งในช่วงที่ “เบญจา” ต้องลงจากตำแหน่งประธานคณะกรรมการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เมื่อรับตำแหน่งรัฐมนตรี ก็เป็น “ราฆพ” ที่มาดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล แทน เพื่อรักษาฐานเอาไว้

ส่วน “สุทธิชัย สังขมณี” ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง เป็นอธิบดีกรมสรรพากร เขี่ย “สาธิต รังคสิริ” ซึ่งมีบ่วงคดีคืนภาษี 4.6 พันล้านบาท ไปเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง แทน

กระทรวงพลังงาน ชื่อของ “สุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ” ปลัดกระทรวงพลังงานคนใหม่ “สายตรง” ของ “เฮียเพ้ง-พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล” เพราะรู้กันดีว่าเจ้ากระทรวงเส้นก๋วยจั๊บขนาดไหน คงไม่มีใครมาแทรกแซงอิทธิฤทธิ์ของ “เฮียเพ้ง” ได้

ขณะที่ กระทรวงยุติธรรม พลิกโผแต่ไม่เหนือความคาดหมาย เมื่อ “พ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข” รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เป็นเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) หากยังจำกันได้ในช่วงต้นของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เป็น “ประเวศน์” คนนี้ที่เป็นคนรื้อคดีสลายการชุมนุมกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) มาทำสำนวนใหม่จนเป่าคดีระดับ “แกนนำ” จนหายเกลี้ยง

แต่มีพลิกล็อกนิดหน่อยตรงที่ ครม.ต่ออายุการดำรงตำแหน่งของ “สุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ” ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ (สขช.) ออกไปอีก 1 ปี ทั้งที่ผ่านมา “รัฐบาลปูแดง” ไม่เคยไว้ใจ “สุวพันธ์” เพราะเกรงว่ายังมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับ “พรรคสีฟ้า” อยู่

วงใน “หน่วยงานความมั่นคง” วิเคราะห์ว่าระยะหลัง “บิ๊กผิว-พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก” รองนายกรัฐมนตรี เรียกใช้บริการ “เบอร์หนึ่งข่าวกรอง” บ่อยครั้ง เพราะไม่เชื่อมั่นการทำงานของ “พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร” เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)

มาถึงการประชุม ครม.เมื่อวานนี้ก็ถึงคิว กระทรวงศึกษาธิการ ที่ “เดอะอ๋อย-จาตุรนต์ ฉายแสง” รมว.ศึกษาธิการ ได้ทีล้างบางยกใหญ่ “เด็กอ๋อย” ได้ดีกันพรึ่บพรับ จากปากคำ “เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช” รมช.ศึกษาฯ ยืนยันเองว่า “จาตุรนต์” ดูแลทั้งหมด

โดย “ผู้หญิง” ยึดหัวหาดผู้บริหารระดับปลัดไล่ตั้งแต่ “นางสุทธศรี วงษ์สมาน” ขยับจากรองเลขาธิการสภาการศึกษา ขึ้นเป็นปลัดกระทรวง ทั้งที่อยู่แค่ตำแหน่งระดับรองลขาฯ แต่ขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งได้อย่างรวดเร็ว ขณะที่ “นางจุไรรัตน์ แสงบุญนำ-นางผานิตย์ มีสุนทร” ผู้ตรวจราชการ ก็ลงจากหิ้งมาเป็นรองปลัด

ส่วนตำแหน่งอื่นที่ถูกจับตาคือ “พินิติ รตะนุกูล” ผู้ตรวจราชการ ออกมาเป็นรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา (กกอ.) โดย “พินิต” ถูกย้ายมาเป็นผู้ตรวจราชการในสมัย “สุชาติ ธาดาธำรงเวช” เป็น รมว.ศึกษาธิการ เนื่องจากทำงานไม่สนองนโยบาย ด้าน “พิษณุ ตุลสุข” รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ถูกเด้งมาเป็นผู้ตรวจราชการ ซึ่งถือเป็นการกลับมารับตำแหน่งผู้ตรวจราชการ เป็นรอบที่ 3

มาถึง กระทรวงคมนาคม ในที่สุด “สมชัย ศิริวัฒนโชค” อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ก็ได้ขึ้นเป็นปลัดกระทรวง แทน “พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี” ที่แซงคิวข้ามห้วยมาจาก “สมช.” ที่ “พล.ต.อ.วิเชียร” ต้องหลีกทางให้ “พล.ท.ภราดร” หลานนายเก่าของ “นช.แม้ว” เมื่อ 2 ปีก่อนนั่นเอง

ทั้งหมดคือการโยกย้าย “บิ๊กข้าราชการ” ที่มาพร้อมเส้นสายทางการเมือง เพื่อเตรียมการสู้ศึกของ “พรรคเพื่อไทย” หลังจากนี้ให้จับตาการโยกย้ายอีกหลายกระทรวงที่ใกล้เข้ามา

“บิ๊กข้าราชการ” คนไหนเข้าวิน ก็พออ่านทิศทางของ “เพื่อไทย” ได้ว่าจะใช้งานอย่างไร
กำลังโหลดความคิดเห็น