ASTVผู้จัดการรายวัน- "ทักษิณ"เลือก“ศิริพงษ์”นั่งอธิบดีปกครอง ”เจ๊แดง”สั่งเด้งผู้ว่าฯเชียงใหม่ไปลำปาง หึ่งเจ้าตัวเคลียร์ไม่สำเร็จวีซ่าหมด คาดผู้ว่าฯเชียงราย "เด็กยุทธตู้เย็น"เสียบแทน ฮือฮานายใหญ่เลือก“พินิจ”น้องเขยแลนด์แอนเฮาส์ คุมกรมที่ดิน ส่วนที่กระทรวงศึกษาฯ ดัน“สุทธศรี”นั่งปลัด ศธ. พร้อมรับโอน "ทศพร" จาก ก.พ.ร. มานั่งเลขาฯ คณะกรรมการการอุดมศึกษา
ในการประชุมคณะรัฐมนตรี วานนี้ ( 20 ส.ค.) นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย ได้เสนอบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ต่อที่ประชุมเป็นวาระจรที่ 4,5,6 โดยวาระจรที่ 4 เป็นการต่ออายุราชการของผู้ว่าราชการจังหวัดที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ 4 ปี จำนวน 3 ราย ดังนี้ นายวิทยา ผิวผ่อง ผวจ.พระนครศรีอยุธยา 2. นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผวจ.นนทบุรี 3. นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผวจ.กระบี่ โดยให้ทำหน้าที่ผู้ว่าราชการต่อไปอีก 1 ปี และสามารถที่จะต่อวาระได้อีก 1 ปีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
ขณะที่วาระจรที่ 5 เป็นการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการในตำแหน่ง “ผู้ว่าราชการจังหวัด- ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย-อธิบดี”เป็นจำนวน 17 ตำแหน่ง แบ่งเป็นอธิบดี 2 ตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัด 10 ตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย 5 ตำแหน่ง
ส่วนวาระจรที่ 6 เป็นการรับโอนข้าราชการจากศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) จำนวน 1 ราย คือ นายวิทยา พานิชพงศ์ รองเลขาธิการ ศอ.บต. ให้ดำรงตำแหน่ง ผวจ.ปัตตานี รวมจำนวนข้าราชการระดับสูงที่ได้รับการเสนอ “แต่งตั้ง-โยกย้าย-รับโอน” ในครั้งนี้จำนวน 21 ราย
โดยบัญชีแต่งตั้งโยกย้าย 17 ตำแหน่งมีดังนี้ 1. นายภาณุ อุทัยรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย 2. นายศิริพงษ์ ห่านตระกูล ผวจ.ปทุมธานี เป็นอธิบดีกรมการปกครอง 3. นายพินิจ หาญพาณิชย์ ผวจ.ลำพูน เป็นอธิบดีกรมที่ดิน 4. นายกำธร ถาวรสถิตย์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็น ผวจ.ชัยนาท 5. นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผวจ.ประจวบคีรีขันธุ์ 6. ว่าที่ร้อยตรี อาทิตย์ บุญญโสภัต ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผวจ.สมุทรสาคร 7. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผวจ.สระบุรี 8. นายสมพงศ์ อรุณโรจน์ปัญญา ผวจ.เลย เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย 9. นายธีระยุทธ เอี่ยมตระกูล ผวจ.ตรัง เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย 10. นายวิศว ศะศิสมิต ผวจ.อ่างทอง เป็น ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย
11. นางสุมิตรา ศรีสมบัติ ผวจ.สุโขทัย เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย 12. นายจักริน เปลี่ยนวงษ์ ผวจ.พิจิตร เป็น ผวจ.สุโขทัย 13. นายสุรชัย ขันอาสา ผวจ.จันทบุรี เป็นผวจ.พิจิตร 14. นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผวจ.ประจวบคีรีขันธุ์ เป็น ผวจ.ตรัง 15. นายอนุกูล ตังคณานุกูลชัย ผวจ.นครพนม เป็นผวจ.ฉะเชิงเทรา 16. นายระพี ผ่องบุพกิจ ผวจ.หนองบัวลำภู เป็น ผวจ.พิษณุโลก และ 17. นายธานินทร์ สุภาแสน ผวจ.เชียงใหม่ เป็น ผวจ.ลำปาง ทั้งนี้ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เป็นต้นไป
**น้องเขยแลนด์แอนด์เฮ้าส์เป็นอธิบดีกรมที่ดิน
สำหรับตำแหน่งสำคัญที่น่าสนใจ อย่างการแต่งตั้งโยกย้าย นายศิริพงษ์ ห่านตระกูล ผวจ.ปทุมธานี เป็นอธิบดีกรมการปกครอง พบว่า นายศิริพงษ์ เกษียณอายุราชการปี 58 พร้อมนายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นรุ่นน้องสิงห์ดำ ได้รับไฟเขียวจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้ขึ้นมาเป็นอธิบดีกรมการปกครองในช่วงโค้งสุดท้าย หลังก่อนหน้านี้ฝ่ายการเมืองมีการเสนอชื่อไปหลายคน เพื่อให้พ.ต.ท.ทักษิณพิจารณา เช่น นายสมศักดิ์ สุวรรณจริต ผวจ.ขอนแก่น นายวินัย บัวประดิษฐ์ ผวจ.นครราชสีมา แต่ไม่ได้รับการตอบรับจากพ.ต.ท.ทักษิณ โดยเคาะชื่อมาให้นายจารุพงศ์ เสนอชื่อนายศิริพงษ์ แบบแหกโค้งช่วงท้ายในที่สุด หลังก่อนหน้านี้นายศิริพงษ์ เคยถูกรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และพรรคภูมิใจไทย เด้งเข้ากรุผู้ตรวจฯ หลังเคยนั่งเป็น ผวจ.ปราจีนบุรี จึงถือว่าเป็นการคืนความชอบธรรมให้ นอกจากนี้ ยังเป็นการเข้ามาช่วยงานนายวิบูลย์ ในฐานะที่เป็นเบอร์สองของฝ่ายข้าราชการประจำ กระทรวงมหาดไทย
สำหรับนายพินิจ หาญพาณิชย์ ผวจ.ลำพูน ที่ได้เป็นอธิบดีกรมที่ดิน พบว่าเคยเป็น รอง ผวจ.เชียงราย เติบโตตั้งแต่เป็นนายอำเภอเมืองเชียงราย แล้วขึ้นเป็น ผวจ.ลำพูน สิงห์แดง เกษียณอายุปี 59 ที่สำคัญเป็นน้องเขย นายอนันต์ อัศวโภคิน ผู้ก่อตั้งบริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ บริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของไทย ที่สนิทกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นอย่างดี
ด้านนายภาณุ อุทัยรัตน์ อดีตเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ที่ถูกรัฐบาลเด้งจากเลขาธิการ ศอ.บต.ไปเข้ากรุที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี แล้วต่อมานายภาณุ ขอกับฝ่ายรัฐบาลโดยยอมลดขั้นตัวเองจากที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ที่เป็นระดับ 11 กลับมาเป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย แล้วมาแต่งตั้งรอบนี้ ถูกย้ายจากรองปลัดกระทรวงมหาดไทยไปเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ภายนอกอาจถูกมองว่าเป็นการเด้งเข้ากรุ แต่จริงๆ แล้วก็คือการที่รัฐบาลเอานายภาณุ ไปพักไว้เป็นผู้ตรวจฯชั่วคราว เพื่อรอแต่งตั้งในตำแหน่งใหญ่ขึ้นในรอบหน้าหลัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัญญาณบางอย่างเอาไว้ ด้วยเหตุว่าต้องการคืนความชอบธรรมให้กับนายภาณุ หลังที่ผ่านมาโดนย้ายจากเลขาธิการ ศอ.บต.ไปเป็นที่ปรึกษานายกฯแบบ นายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาธิการสมช. ที่ก็โดนเด้งเข้ากรุที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีเช่นกัน แต่นายภาณุ ไม่ได้ออกมาโวยวายอะไร ไม่มีการฟ้องร้องต่อศาลปกครอง ทำให้รัฐบาลพอใจอีกทั้งแกนนำรัฐบาลต้องการเอาใจผู้ใหญ่ในบ้านเมืองคนหนึ่ง ที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลซึ่งรู้กันดีว่าให้การสนับสนุนนายภาณุ ฝ่ายการเมืองจึงเตรียมจะดันนายภาณุไปกินตำแหน่งใหญ่ในอนาคต ก็คือปลัดกระทรวงแรงงาน ที่เป็นธรรมเนียมกระทรวงมหาดไทยว่า ใครเป็นบิ๊กมหาดไทยแล้วตำแหน่งตัน ขยับขึ้นเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย หรือตำแหน่งสำคัญไม่ได้ ก็จะใช้วิธีโยกไป ก.แรงงาน ซึ่งเคยมีมาแล้วกรณีการดัน นายอภัย จันทนะจุลกะ และ นายสมชาย ชุ่มรัตน์ จากกระทรวงมหาดไทย ไปเป็นปลัดกระทรวงแรงงาน ทั้งนี้นายภาณุ จะเกษียณอายุราชการในปี 2559
** "เจ๊แดง"สั่งเด้งผวจ.เชียงใหม่ไปลำปาง
รายชื่อแต่งตั้งรอบนี้ที่เรียกเสียงฮือฮาไม่น้อยก็คือการเด้ง นายธานินทร์ สุภาแสน ผวจ.เชียงใหม่ มาเป็น ผวจ.ลำปาง ที่ถือว่าเป็นการลดชั้น แม้นายธานินท์ จะเป็นเพื่อนกับนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ และส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย อีกทั้งนายธานินทร์ ยังสนิทกับส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทยทั้งจังหวัด แต่เหตุที่โดนย้ายเนื่องจากมีปัญหาขัดแย้งในการทำงานกับนางเยาวภา หลังก่อนหน้านี้โยกย้ายกลางปี นายธานินทร์ เคยจะโดนย้ายแล้วทีหนึ่ง แต่เคลียร์สำเร็จแต่รอบนี้วีซ่าหมด อดนั่งผวจ.เชียงใหม่ เพราะเคลียร์กับนางเยาวภาไม่ได้ และส.ส.เชียงใหม่ ช่วยไม่สำเร็จ แม้ส่วนตัวนายธานินทร์ จะรู้จักกับยิ่งลักษณ์ เพราะจบสิงห์ขาว รัฐศาสตร์ เชียงใหม่ด้วยกัน
ขณะที่ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ที่ได้ดีออกจากกรุเสียทีหลังลุ้นมานาน 4 คน คือ นายกำธร ถาวรสถิตย์ ที่ได้ไปเป็นผวจ.ชัยนาท -นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ไปเป็นผวจ.ประจวบคีรีขันธุ์ -ว่าที่ร้อยตรี อาทิตย์ บุญญโสภัต ได้เป็น ผวจ.สมุทรสาคร และ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ได้ไปเป็น ผวจ.สระบุรี พบว่านายนายนิสิต ว่าที่ร้อยตรี อาทิตย์ และนายสุทธิพงษ์ เป็นพวกสิงห์ดำ รัฐศาสตร์ จุฬาฯ จึงได้แรงหนุนจาก นายวิบูลย์ ปลัดก.มหาดไทย ดันออกจากรุไปเป็นผวจ.ยกแผง
อย่างไรก็ตามในการแต่งตั้งล็อตหน้า ต้องเสร็จสิ้นภายในเดือนกันยายน ที่จะมีตำแหน่งว่างเพราะระดับ 10 ในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เกษียณอายุราชการรวม 17 ตำแหน่ง ที่เป็น ผวจ. 14 ตำแหน่ง ผู้ตรวจฯ 3 ตำแหน่ง ที่จะมีการแต่งตั้งระดับ 9 คือ รองผวจ.-รองอธิบดี สอบเลื่อนขั้นมารับตำแหน่งระดับ 10 ต่อไป รวมถึงตำแหน่งที่ว่างอยู่ เพราะในการแต่งตั้งรอบนี้ยังไม่มีการแต่งตั้งคนไปแทนที่เช่น ผวจ.เชียงใหม่ หลังเด้งนายธานินทร์ ซึ่งตัวเต็งคือ นายพงษ์ศักดิ์ วังเสมอ ผวจ.เชียงราย สายตรงนายยงยุทธ ติยะไพรัช แกนนำเพื่อไทย
** ศธ.รับโอน"ทศพร"นั่งเลขา กกอ.
ที่ประชุมครม. ยังได้อนุมัติให้โอนย้าย นายวิทยา พานิชพงศ์ รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ให้ดำรงตำแหน่งผวจ.ปัตตานี และ อนุมัติต่อเวลาการดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จำนวน 2 ราย ดังนี้ 1. นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ให้ดำรงตำแหน่ง ผวจ.กระบี่ 2. นายวิเชียร พุฒิวิญญู ให้ดำรงตำแหน่ง ผวจ.นนทบุรี ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. เป็นต้นไป
นายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมครม. ว่า ที่ประชุมครม. มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เสนอแต่งตั้ง และโยกย้ายผู้บริหารระดับ 11 แทนผู้เกษียณอายุราชการ ดังนี้ 1. นายอภิชาติ จีระวุฒิ จากเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (เลขาธิการ กกอ.) เป็น เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) แทนนายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการ กพฐ. ,นางสุทธศรี วงษ์สมาน รองเลขาธิการคณะกรรมการสภาการศึกษา (สกศ.) เป็น ปลัดศธ. แทนนางพนิตา กำภู ณ อยุธยา ปลัด ศธ. และรับโอน นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ ( ก.พ.ร.) เป็น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) แทนนายอภิชาติ ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งวันที่ 1 ต.ค. เป็นต้นไป
นายจาตุรนต์ ยังกล่าวถึงกรณีการโอย นายทศพร มาเป็นเลขา กกอ.ว่า รัฐบาลโดย นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแล ก.พ.ร. ได้เสนอชื่อเข้ามา เพราะเห็นว่ามีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะทำงานด้านการอุดมศึกษา เคยเป็นผู้ช่วยอธิการบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเคยดำรงตำแหน่ง รองเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า ซึ่งทำหน้าที่จัดการศึกษาในสถาบันระดับสูง ซึ่งตนพิจารณาเห็นว่า นายทศพร เป็นเลขาธิการ ก.พ.ร. มานาน มีความรู้ความเชี่ยวชาญเรื่องการจัดระบบ เกี่ยวกับการบริหารราชการ รวมทั้งการบริหารงานบุคลคลด้วย น่าจะช่วยงานในหลายเรื่องที่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา กำลังดำเนินการอยู่ โดยเฉพาะเรื่องการดูแลข้าราชการ พนักงานมหาวิทยาลัย รวมถึงระบบที่กำลังสร้างขึ้นเพื่อดูแลอุดมศึกษาในภาพรวม จึงได้พิจารณารับโอนมาเป็น เลขาธิการ กกอ. และขยับ นายอภิชาติ ออกมา
ในการประชุมคณะรัฐมนตรี วานนี้ ( 20 ส.ค.) นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย ได้เสนอบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ต่อที่ประชุมเป็นวาระจรที่ 4,5,6 โดยวาระจรที่ 4 เป็นการต่ออายุราชการของผู้ว่าราชการจังหวัดที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ 4 ปี จำนวน 3 ราย ดังนี้ นายวิทยา ผิวผ่อง ผวจ.พระนครศรีอยุธยา 2. นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผวจ.นนทบุรี 3. นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผวจ.กระบี่ โดยให้ทำหน้าที่ผู้ว่าราชการต่อไปอีก 1 ปี และสามารถที่จะต่อวาระได้อีก 1 ปีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
ขณะที่วาระจรที่ 5 เป็นการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการในตำแหน่ง “ผู้ว่าราชการจังหวัด- ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย-อธิบดี”เป็นจำนวน 17 ตำแหน่ง แบ่งเป็นอธิบดี 2 ตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัด 10 ตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย 5 ตำแหน่ง
ส่วนวาระจรที่ 6 เป็นการรับโอนข้าราชการจากศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) จำนวน 1 ราย คือ นายวิทยา พานิชพงศ์ รองเลขาธิการ ศอ.บต. ให้ดำรงตำแหน่ง ผวจ.ปัตตานี รวมจำนวนข้าราชการระดับสูงที่ได้รับการเสนอ “แต่งตั้ง-โยกย้าย-รับโอน” ในครั้งนี้จำนวน 21 ราย
โดยบัญชีแต่งตั้งโยกย้าย 17 ตำแหน่งมีดังนี้ 1. นายภาณุ อุทัยรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย 2. นายศิริพงษ์ ห่านตระกูล ผวจ.ปทุมธานี เป็นอธิบดีกรมการปกครอง 3. นายพินิจ หาญพาณิชย์ ผวจ.ลำพูน เป็นอธิบดีกรมที่ดิน 4. นายกำธร ถาวรสถิตย์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็น ผวจ.ชัยนาท 5. นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผวจ.ประจวบคีรีขันธุ์ 6. ว่าที่ร้อยตรี อาทิตย์ บุญญโสภัต ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผวจ.สมุทรสาคร 7. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผวจ.สระบุรี 8. นายสมพงศ์ อรุณโรจน์ปัญญา ผวจ.เลย เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย 9. นายธีระยุทธ เอี่ยมตระกูล ผวจ.ตรัง เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย 10. นายวิศว ศะศิสมิต ผวจ.อ่างทอง เป็น ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย
11. นางสุมิตรา ศรีสมบัติ ผวจ.สุโขทัย เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย 12. นายจักริน เปลี่ยนวงษ์ ผวจ.พิจิตร เป็น ผวจ.สุโขทัย 13. นายสุรชัย ขันอาสา ผวจ.จันทบุรี เป็นผวจ.พิจิตร 14. นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผวจ.ประจวบคีรีขันธุ์ เป็น ผวจ.ตรัง 15. นายอนุกูล ตังคณานุกูลชัย ผวจ.นครพนม เป็นผวจ.ฉะเชิงเทรา 16. นายระพี ผ่องบุพกิจ ผวจ.หนองบัวลำภู เป็น ผวจ.พิษณุโลก และ 17. นายธานินทร์ สุภาแสน ผวจ.เชียงใหม่ เป็น ผวจ.ลำปาง ทั้งนี้ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เป็นต้นไป
**น้องเขยแลนด์แอนด์เฮ้าส์เป็นอธิบดีกรมที่ดิน
สำหรับตำแหน่งสำคัญที่น่าสนใจ อย่างการแต่งตั้งโยกย้าย นายศิริพงษ์ ห่านตระกูล ผวจ.ปทุมธานี เป็นอธิบดีกรมการปกครอง พบว่า นายศิริพงษ์ เกษียณอายุราชการปี 58 พร้อมนายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นรุ่นน้องสิงห์ดำ ได้รับไฟเขียวจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้ขึ้นมาเป็นอธิบดีกรมการปกครองในช่วงโค้งสุดท้าย หลังก่อนหน้านี้ฝ่ายการเมืองมีการเสนอชื่อไปหลายคน เพื่อให้พ.ต.ท.ทักษิณพิจารณา เช่น นายสมศักดิ์ สุวรรณจริต ผวจ.ขอนแก่น นายวินัย บัวประดิษฐ์ ผวจ.นครราชสีมา แต่ไม่ได้รับการตอบรับจากพ.ต.ท.ทักษิณ โดยเคาะชื่อมาให้นายจารุพงศ์ เสนอชื่อนายศิริพงษ์ แบบแหกโค้งช่วงท้ายในที่สุด หลังก่อนหน้านี้นายศิริพงษ์ เคยถูกรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และพรรคภูมิใจไทย เด้งเข้ากรุผู้ตรวจฯ หลังเคยนั่งเป็น ผวจ.ปราจีนบุรี จึงถือว่าเป็นการคืนความชอบธรรมให้ นอกจากนี้ ยังเป็นการเข้ามาช่วยงานนายวิบูลย์ ในฐานะที่เป็นเบอร์สองของฝ่ายข้าราชการประจำ กระทรวงมหาดไทย
สำหรับนายพินิจ หาญพาณิชย์ ผวจ.ลำพูน ที่ได้เป็นอธิบดีกรมที่ดิน พบว่าเคยเป็น รอง ผวจ.เชียงราย เติบโตตั้งแต่เป็นนายอำเภอเมืองเชียงราย แล้วขึ้นเป็น ผวจ.ลำพูน สิงห์แดง เกษียณอายุปี 59 ที่สำคัญเป็นน้องเขย นายอนันต์ อัศวโภคิน ผู้ก่อตั้งบริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ บริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของไทย ที่สนิทกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นอย่างดี
ด้านนายภาณุ อุทัยรัตน์ อดีตเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ที่ถูกรัฐบาลเด้งจากเลขาธิการ ศอ.บต.ไปเข้ากรุที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี แล้วต่อมานายภาณุ ขอกับฝ่ายรัฐบาลโดยยอมลดขั้นตัวเองจากที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ที่เป็นระดับ 11 กลับมาเป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย แล้วมาแต่งตั้งรอบนี้ ถูกย้ายจากรองปลัดกระทรวงมหาดไทยไปเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ภายนอกอาจถูกมองว่าเป็นการเด้งเข้ากรุ แต่จริงๆ แล้วก็คือการที่รัฐบาลเอานายภาณุ ไปพักไว้เป็นผู้ตรวจฯชั่วคราว เพื่อรอแต่งตั้งในตำแหน่งใหญ่ขึ้นในรอบหน้าหลัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัญญาณบางอย่างเอาไว้ ด้วยเหตุว่าต้องการคืนความชอบธรรมให้กับนายภาณุ หลังที่ผ่านมาโดนย้ายจากเลขาธิการ ศอ.บต.ไปเป็นที่ปรึกษานายกฯแบบ นายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาธิการสมช. ที่ก็โดนเด้งเข้ากรุที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีเช่นกัน แต่นายภาณุ ไม่ได้ออกมาโวยวายอะไร ไม่มีการฟ้องร้องต่อศาลปกครอง ทำให้รัฐบาลพอใจอีกทั้งแกนนำรัฐบาลต้องการเอาใจผู้ใหญ่ในบ้านเมืองคนหนึ่ง ที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลซึ่งรู้กันดีว่าให้การสนับสนุนนายภาณุ ฝ่ายการเมืองจึงเตรียมจะดันนายภาณุไปกินตำแหน่งใหญ่ในอนาคต ก็คือปลัดกระทรวงแรงงาน ที่เป็นธรรมเนียมกระทรวงมหาดไทยว่า ใครเป็นบิ๊กมหาดไทยแล้วตำแหน่งตัน ขยับขึ้นเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย หรือตำแหน่งสำคัญไม่ได้ ก็จะใช้วิธีโยกไป ก.แรงงาน ซึ่งเคยมีมาแล้วกรณีการดัน นายอภัย จันทนะจุลกะ และ นายสมชาย ชุ่มรัตน์ จากกระทรวงมหาดไทย ไปเป็นปลัดกระทรวงแรงงาน ทั้งนี้นายภาณุ จะเกษียณอายุราชการในปี 2559
** "เจ๊แดง"สั่งเด้งผวจ.เชียงใหม่ไปลำปาง
รายชื่อแต่งตั้งรอบนี้ที่เรียกเสียงฮือฮาไม่น้อยก็คือการเด้ง นายธานินทร์ สุภาแสน ผวจ.เชียงใหม่ มาเป็น ผวจ.ลำปาง ที่ถือว่าเป็นการลดชั้น แม้นายธานินท์ จะเป็นเพื่อนกับนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ และส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย อีกทั้งนายธานินทร์ ยังสนิทกับส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทยทั้งจังหวัด แต่เหตุที่โดนย้ายเนื่องจากมีปัญหาขัดแย้งในการทำงานกับนางเยาวภา หลังก่อนหน้านี้โยกย้ายกลางปี นายธานินทร์ เคยจะโดนย้ายแล้วทีหนึ่ง แต่เคลียร์สำเร็จแต่รอบนี้วีซ่าหมด อดนั่งผวจ.เชียงใหม่ เพราะเคลียร์กับนางเยาวภาไม่ได้ และส.ส.เชียงใหม่ ช่วยไม่สำเร็จ แม้ส่วนตัวนายธานินทร์ จะรู้จักกับยิ่งลักษณ์ เพราะจบสิงห์ขาว รัฐศาสตร์ เชียงใหม่ด้วยกัน
ขณะที่ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ที่ได้ดีออกจากกรุเสียทีหลังลุ้นมานาน 4 คน คือ นายกำธร ถาวรสถิตย์ ที่ได้ไปเป็นผวจ.ชัยนาท -นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ไปเป็นผวจ.ประจวบคีรีขันธุ์ -ว่าที่ร้อยตรี อาทิตย์ บุญญโสภัต ได้เป็น ผวจ.สมุทรสาคร และ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ได้ไปเป็น ผวจ.สระบุรี พบว่านายนายนิสิต ว่าที่ร้อยตรี อาทิตย์ และนายสุทธิพงษ์ เป็นพวกสิงห์ดำ รัฐศาสตร์ จุฬาฯ จึงได้แรงหนุนจาก นายวิบูลย์ ปลัดก.มหาดไทย ดันออกจากรุไปเป็นผวจ.ยกแผง
อย่างไรก็ตามในการแต่งตั้งล็อตหน้า ต้องเสร็จสิ้นภายในเดือนกันยายน ที่จะมีตำแหน่งว่างเพราะระดับ 10 ในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เกษียณอายุราชการรวม 17 ตำแหน่ง ที่เป็น ผวจ. 14 ตำแหน่ง ผู้ตรวจฯ 3 ตำแหน่ง ที่จะมีการแต่งตั้งระดับ 9 คือ รองผวจ.-รองอธิบดี สอบเลื่อนขั้นมารับตำแหน่งระดับ 10 ต่อไป รวมถึงตำแหน่งที่ว่างอยู่ เพราะในการแต่งตั้งรอบนี้ยังไม่มีการแต่งตั้งคนไปแทนที่เช่น ผวจ.เชียงใหม่ หลังเด้งนายธานินทร์ ซึ่งตัวเต็งคือ นายพงษ์ศักดิ์ วังเสมอ ผวจ.เชียงราย สายตรงนายยงยุทธ ติยะไพรัช แกนนำเพื่อไทย
** ศธ.รับโอน"ทศพร"นั่งเลขา กกอ.
ที่ประชุมครม. ยังได้อนุมัติให้โอนย้าย นายวิทยา พานิชพงศ์ รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ให้ดำรงตำแหน่งผวจ.ปัตตานี และ อนุมัติต่อเวลาการดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จำนวน 2 ราย ดังนี้ 1. นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ให้ดำรงตำแหน่ง ผวจ.กระบี่ 2. นายวิเชียร พุฒิวิญญู ให้ดำรงตำแหน่ง ผวจ.นนทบุรี ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. เป็นต้นไป
นายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมครม. ว่า ที่ประชุมครม. มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เสนอแต่งตั้ง และโยกย้ายผู้บริหารระดับ 11 แทนผู้เกษียณอายุราชการ ดังนี้ 1. นายอภิชาติ จีระวุฒิ จากเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (เลขาธิการ กกอ.) เป็น เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) แทนนายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการ กพฐ. ,นางสุทธศรี วงษ์สมาน รองเลขาธิการคณะกรรมการสภาการศึกษา (สกศ.) เป็น ปลัดศธ. แทนนางพนิตา กำภู ณ อยุธยา ปลัด ศธ. และรับโอน นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ ( ก.พ.ร.) เป็น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) แทนนายอภิชาติ ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งวันที่ 1 ต.ค. เป็นต้นไป
นายจาตุรนต์ ยังกล่าวถึงกรณีการโอย นายทศพร มาเป็นเลขา กกอ.ว่า รัฐบาลโดย นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแล ก.พ.ร. ได้เสนอชื่อเข้ามา เพราะเห็นว่ามีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะทำงานด้านการอุดมศึกษา เคยเป็นผู้ช่วยอธิการบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเคยดำรงตำแหน่ง รองเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า ซึ่งทำหน้าที่จัดการศึกษาในสถาบันระดับสูง ซึ่งตนพิจารณาเห็นว่า นายทศพร เป็นเลขาธิการ ก.พ.ร. มานาน มีความรู้ความเชี่ยวชาญเรื่องการจัดระบบ เกี่ยวกับการบริหารราชการ รวมทั้งการบริหารงานบุคลคลด้วย น่าจะช่วยงานในหลายเรื่องที่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา กำลังดำเนินการอยู่ โดยเฉพาะเรื่องการดูแลข้าราชการ พนักงานมหาวิทยาลัย รวมถึงระบบที่กำลังสร้างขึ้นเพื่อดูแลอุดมศึกษาในภาพรวม จึงได้พิจารณารับโอนมาเป็น เลขาธิการ กกอ. และขยับ นายอภิชาติ ออกมา