ก.แรงงาน เร่งส่งเสริม สถานประกอบการทั่วประเทศ จ้างผู้พิการตามกฎหมายกำหนด เผยทั่วประเทศยังมีความต้องการจ้างผู้พิการทำงาน 2 หมื่นคน
วันนี้ (4 ก.ย.) นพ.สมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน(รง.) กล่าวในการเป็นประธานเปิดงาน นัดพบแรงงานคนพิการ สร้างอาชีพสร้างเศรษฐกิจชีวิตมีสุข ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-5 กันยายนนี้ว่า การจัดงานครั้งนี้ถือเป็นกิจกรรมต้นแบบในการกระตุ้นให้ผู้ประกอบการให้ความสำคัญในการจ้างงานคนพิการ เพื่อให้มีรายได้เลี้ยงตนเอง และไม่กลายเป็นภาระแก่สังคม อีกทั้งการดึงผู้พิการออกมาร่วมกิจกรรมต่างๆนั้น ทำให้คนพิการกล้าออกมาเผชิญโลกภายนอก สร้างคุณค่าให้ตนเองมากขึ้น และยังมีแนวคิดที่จะส่งเสริมให้ประชาชนทั่วไปร่วมสนับสนุนการซื้อสินค้าที่ผลิตโดยคนพิการด้วย ทั้งนี้ งานครั้งนี้เปิดรับสมัครผู้พิการเข้าทำงาน 182 คน เช่น พนักงานแคชเชียร์ พนักงานรับโทรศัพท์ พนักงานฝ่ายบุคคล พนักงานฝ่ายเทคนิค ซึ่งล้วนเป็นงานที่คนพิการสามารถทำได้
“กระทรวงแรงงานจะเข้มงวดยิ่งขึ้นในการตรวจสอบสถานประกอบการว่ามีการจ้างงานตามสัดส่วนที่กฎกระทรวงแรงงานซึ่งออกตามมาตรา 33 ของพ.ร.บ.ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้พิการพ.ศ.2550 หรือไม่ โดยกฎกระทรวงตามมาตรา 33 กำหนดอัตราส่วนการจ้างพนักงานปกติ 100 คนต่อการจ้างผู้พิการ 1 คน ปัจจุบันสถานประกอบการทั่วประเทศจะต้องจ้างงานผู้พิการรวมทั้งหมด 47,000 คน และมีการจ้างงานไปแล้ว 27,000 คน ยังคงเหลือจำนวนผู้พิการที่ต้องจ้างงานอีกกว่า 20,000 คน หากผู้ประกอบการไม่สามารถจ้างงานผู้พิการได้ จะต้องปฏิบัติตามมาตรา 34 ส่งเงินเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ หรือมาตรา 35 การให้สัมปทาน สถานที่จำหน่ายสินค้าให้แก่ผู้พิการ” ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าว
นายเรืองเวช วิทวัสการเวช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายทรัพยากรบุคคล บริษัทเซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัมมีทั้งพนักงานทั้งหมดกว่า 3.5 หมื่นคนในจำนวนนี้มีพนักงานผู้พิการอยู่ 174 คน และจะต้องจ้างผู้พิการเข้าทำงานเพิ่มอีก 182 คนเพื่อให้เป็นไปตามสัดส่วนที่กฎหมายกำหนด จึงร่วมมือกับกระทรวงแรงงานจัดงานครั้งนี้ขึ้น เพื่อส่งเสริมให้ผู้พิการมีงานทำและมีคุณภาพชีวิตที่ดี
นายภัทรพงศ์ คำภีระ วัย 34 ปี ซึ่งเป็นผู้พิการสายตาเลือนราง กล่าวว่า การจัดงานแบบนี้เป็นสิ่งที่ดีเพราะเป็นการสร้างโอกาสให้ผู้พิการมีงานทำ จะได้มีรายได้เลี้ยงตนเองและครอบครัว ตนมาหางานทำในงานครั้งนี้โดยต้องการทำงานในตำแหน่ง โอเปอร์เรเตอร์ หรือพนักงานธุรการ แม้ตนมีวุฒิเพียงป.6 แต่ก็พอมีทักษะคอมพิวเตอร์และภาษาอังกฤษอยู่บ้าง จึงหวังว่าจะได้งานทำตามความสามารถที่มีอยู่
วันนี้ (4 ก.ย.) นพ.สมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน(รง.) กล่าวในการเป็นประธานเปิดงาน นัดพบแรงงานคนพิการ สร้างอาชีพสร้างเศรษฐกิจชีวิตมีสุข ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-5 กันยายนนี้ว่า การจัดงานครั้งนี้ถือเป็นกิจกรรมต้นแบบในการกระตุ้นให้ผู้ประกอบการให้ความสำคัญในการจ้างงานคนพิการ เพื่อให้มีรายได้เลี้ยงตนเอง และไม่กลายเป็นภาระแก่สังคม อีกทั้งการดึงผู้พิการออกมาร่วมกิจกรรมต่างๆนั้น ทำให้คนพิการกล้าออกมาเผชิญโลกภายนอก สร้างคุณค่าให้ตนเองมากขึ้น และยังมีแนวคิดที่จะส่งเสริมให้ประชาชนทั่วไปร่วมสนับสนุนการซื้อสินค้าที่ผลิตโดยคนพิการด้วย ทั้งนี้ งานครั้งนี้เปิดรับสมัครผู้พิการเข้าทำงาน 182 คน เช่น พนักงานแคชเชียร์ พนักงานรับโทรศัพท์ พนักงานฝ่ายบุคคล พนักงานฝ่ายเทคนิค ซึ่งล้วนเป็นงานที่คนพิการสามารถทำได้
“กระทรวงแรงงานจะเข้มงวดยิ่งขึ้นในการตรวจสอบสถานประกอบการว่ามีการจ้างงานตามสัดส่วนที่กฎกระทรวงแรงงานซึ่งออกตามมาตรา 33 ของพ.ร.บ.ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้พิการพ.ศ.2550 หรือไม่ โดยกฎกระทรวงตามมาตรา 33 กำหนดอัตราส่วนการจ้างพนักงานปกติ 100 คนต่อการจ้างผู้พิการ 1 คน ปัจจุบันสถานประกอบการทั่วประเทศจะต้องจ้างงานผู้พิการรวมทั้งหมด 47,000 คน และมีการจ้างงานไปแล้ว 27,000 คน ยังคงเหลือจำนวนผู้พิการที่ต้องจ้างงานอีกกว่า 20,000 คน หากผู้ประกอบการไม่สามารถจ้างงานผู้พิการได้ จะต้องปฏิบัติตามมาตรา 34 ส่งเงินเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ หรือมาตรา 35 การให้สัมปทาน สถานที่จำหน่ายสินค้าให้แก่ผู้พิการ” ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าว
นายเรืองเวช วิทวัสการเวช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายทรัพยากรบุคคล บริษัทเซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัมมีทั้งพนักงานทั้งหมดกว่า 3.5 หมื่นคนในจำนวนนี้มีพนักงานผู้พิการอยู่ 174 คน และจะต้องจ้างผู้พิการเข้าทำงานเพิ่มอีก 182 คนเพื่อให้เป็นไปตามสัดส่วนที่กฎหมายกำหนด จึงร่วมมือกับกระทรวงแรงงานจัดงานครั้งนี้ขึ้น เพื่อส่งเสริมให้ผู้พิการมีงานทำและมีคุณภาพชีวิตที่ดี
นายภัทรพงศ์ คำภีระ วัย 34 ปี ซึ่งเป็นผู้พิการสายตาเลือนราง กล่าวว่า การจัดงานแบบนี้เป็นสิ่งที่ดีเพราะเป็นการสร้างโอกาสให้ผู้พิการมีงานทำ จะได้มีรายได้เลี้ยงตนเองและครอบครัว ตนมาหางานทำในงานครั้งนี้โดยต้องการทำงานในตำแหน่ง โอเปอร์เรเตอร์ หรือพนักงานธุรการ แม้ตนมีวุฒิเพียงป.6 แต่ก็พอมีทักษะคอมพิวเตอร์และภาษาอังกฤษอยู่บ้าง จึงหวังว่าจะได้งานทำตามความสามารถที่มีอยู่