โฆษกเพื่อไทยเผยจ่อเพิ่มจำนวนผู้อภิปรายแก้คุณสมบัติ ส.ว.อีกเท่าตัว จี้ประธานสภาคุมเวลาฝ่ายค้าน ยันรัฐบาลจริงใจช่วยเกษตรกรชาวสวนยาง จ่อยื่นถอด ส.ส.ชุมพร หลังบุกศาลากลางขู่ จนท.หยุดปฏิบัติงาน ส่อผิดรัฐธรรมนูญ-อาญา จี้ผู้ใหญ่ตักเตือนลูกพรรค เหน็บ ปชป.ตัวถ่วงเวทีปฏิรูปประเทศไทย วอนทบทวนตัวเอง
วันนี้ (3 ก.ย.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ที่ประชุมพรรคเพื่อไทยได้หารือเรื่องการประชุมร่วมรัฐสภาในวันพรุ่งนี้ โดยได้กำชับ ส.ส.เข้าร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียงกัน และเตรียมพร้อมที่จะประชุมสภาต่อเนื่องตามที่ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภาจะมีการนัดหมายอีกครั้ง ทั้งนี้พรรคได้เน้นย้ำให้ที่ประชุมร่วมพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มา ส.ว.วาระ 2 ในมาตรา 5 โดยพรรคได้เตรียมผู้อภิปรายในประเด็นนี้มากขึ้นกว่าเดิมอีกเท่าตัว จากเดิมที่มีผู้อภิปรายในส่วนของพรรคเพียง 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น เพื่อจะได้เป็นการชี้แจงประชาชนว่ามีความจำเป็นอย่างไรที่ต้องแก้ไขคุณสมบัติของที่มา ส.ว.ทั้งนี้การอภิปรายที่ผ่านมารู้สึกเป็นห่วงการอภิปรายของฝ่ายค้านและกลุ่ม 40 ส.ว.ที่อภิปรายในประเด็นซ้ำซาก โดยขอให้ประธานรัฐสภาควบคุมเวลาการอภิปรายของฝ่ายค้านให้อยู่ในกรอบ และไม่อภิปรายเกินที่แปรญัตติไว้ อย่างไรก็ตามขอยืนยันว่ารัฐบาลและเสียงส่วนใหญ่จะเปิดโอกาสให้ฝ่ายค้าน และ 40 ส.ว.อภิปรายอย่างเต็มที่ แต่ขออย่าตีรวนยื้อเวลาในการอภิปรายในประเด็นดังกล่าวอย่างที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้แจ้งมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่อนุมัติงบกลางฉุกเฉินจำนวนเงิน 5,628 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือกลุ่มเกษตรชาวสวนยาง ผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) แล้ว ยืนยันว่ารัฐบาลจริงใจแก้ไขปัญหาให้ชาวสวนยางพารา โดยไม่เลือกปฏิบัติ ขณะเดียวกันที่ประชุมพรรคก็มีความกังวลการที่กลุ่มผู้ชุมนุมปิดถนน จะส่งผลกระทบต่อการขนส่งพืชผลทางการเกษตรชนิดอื่น โดยจะรวบรวมรายละเอียดและเสียงสะท้อนของประชาชนให้นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องนำไปดำเนินการแก้ไขต่อไป
นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่อว่า ตนรู้สึกไม่สบายใจกรณีที่ นายชุมพล จุลใส ส.ส.ชุมพร พรรคประชาธิปัตย์ นำผู้ชุมนุมชาวสวนยางไปบุกศาลากลางจังหวัดชุมพร และข่มขู่ข้าราชการให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งมองว่าพฤติกรรมดังกล่าวอาจเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 266(1) รวมถึงส่อผิดกฎหมายอาญา และผิดจริยธรรมของการเป็น ส.ส.ด้วย ทั้งนี้ยังพบในอดีต นายชุมพล ยังเคยมีพฤติกรรมในลักษณะข่มขู่จากการพกปืนอูซี่ เพื่อคุ้มกัน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ในรัฐสภา เมื่อวันที่ 7 เม.ย. 2553 มาแล้ว ซึ่งตนเคยแจ้งความกองปราบให้ดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้แล้วเช่นกัน โดยหลังจากนี้จะรวบรวมข้อมูลหลักฐานและยื่นถอดถอนและตรวจสอบคุณสมบัติของนายชุมพลต่อไป ทั้งนี้การกระทำของนายชุมพลเป็นการกระทำที่สวนทางและเหมือนเป็นการตบหน้านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ลงพื้นที่ไปเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุมชาวสวนยาง ทั้งนี้ขอเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ และผู้ใหญ่ในพรรคดูแลพฤติกรรมของสมาชิกพรรคด้วย
ส่วนกรณีที่ระบุว่ารัฐบาลไม่จริงใจในการเดินหน้าเวทีปฏิรูปการเมือง นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า เป็นการให้ข่าวที่สอดคล้องกับนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานวิปฝ่ายค้าน ที่ตั้งธงว่าไม่เข้าร่วมเวทีปฏิรูปดังกล่าวหากไม่ถอนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งตนเห็นว่าเวทีปฏิรูปควรเอาผู้ที่มีความเห็นที่แตกต่างมาพูดคุยกัน แต่การไม่เข้าร่วมแบบนี้ เปรียบได้เหมือนกับตัวถ่วงประเทศ และไม่อยากหาทางออกให้ประเทศนี้ร่วมกัน โดยอยากเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ นายจุรินทร์ และนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ทบทวนบทบาทอีกครั้ง ซึ่งเชื่อว่าการเดินสายของนายบรรหาร ศิลปอาชา ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ในฐานะผู้ประสานงานปฏิรูปประเทศไทย จะเชิญ นายชวน เข้าร่วมในวันที่ 15 กันยายนนี้ เชื่อว่าจะเป็นอีกความหวังในการสร้างความปรองดองของคนไทย
