พรรคภูมิใจไทยส่งหนังสือถึงนายทะเบียนพรรคการเมือง ชี้แจงกรณีเช่าพื้นที่หน้าด่านเก็บเงินค่าผ่านทางด่วนแจกใบปลิวเลือกตั้งแล้วไม่ได้ระบุในรายการค่าใช้จ่ายหาเสียงเลือกตั้ง ระบุกรรมการบริหารพรรคไม่มีส่วนรู้เห็น ฟันอาญาอดีตสมาชิกพรรคที่ถูกอัปเปหิเพราะทุจริต ก่อนพบแจกแผ่นพับช่องทางด่วนโดยพลการ เชื่อตกเป็นเหยื่อ
วันนี้ (2 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคภูมิใจไทยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ได้ทำหนังสือถึงนายทะเบียนพรรคการเมือง เพื่อขอให้ดำเนินคดีอาญาต่อนายธนชาติ แสงประดับ ธรรมโชติ โดยหนังสือดังกล่าวระบุว่า ภายหลังจากที่ นายทะเบียนพรรคการเมืองได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง กรณีนายทรงกรด ไชยแก้ว ร้องเรียนต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่าในการเลือกตั้ง ส.ส.ปี 2554 พรรคภูมิใจไทยได้เช่าพื้นที่บริเวณด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษ ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) แจกแผ่นพับแนะนำนโยบายพรรค แต่ไม่นำค่าใช้จ่ายมารวมไว้เป็นค่าใช้จ่ายในการหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งขัดต่อ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว. พ.ศ. 2550 มาตรา 52 และไม่แจ้งไว้ในรายงานการดำเนินกิจการประจำปีของพรรค ซึ่งขัดต่อ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2550 มาตรา 42
หนังสือยังระบุว่า เนื่องจากเว็บไซต์ “พระนครสาส์น” วันที่ 24 ส.ค. 2556 ได้นำรายงานความเห็นของคณะอนุกรรมการฯ ซึ่งเสนอต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองมาเผยแพร่ต่อสาธารณะชน และน่าเชื่อว่าเป็นรายงานที่มีผู้ลอบนำมาเปิดเผยโดยหวังผลทางการเมือง โดยให้น้ำหนักต่อคำให้การของนายธนชาติ แสงประดับ ธรรมโชติ ซึ่งเป็นสมาชิกที่ถูกอัปเปหิออกจากพรรคเพราะมีพฤติกรรมทุจริตเป็นอย่างมาก โดยเชื่อว่านายธนชาติ รับบริจาคเงินค่าใช้จ่ายในการแจกแผ่นพับจากบุคคลภายในพรรค ซึ่งไม่ปรากฏชื่อว่าเป็นผู้ใด เป็นเหตุให้คณะอนุกรรมการฯวินิจฉัยว่าการกระทำของนายธนชาติ ฝ่าฝืน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2550 มาตรา 65 ซึ่งอาจเป็นเหตุให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ยุบพรรคภูมิใจไทยตาม มาตรา 94
ทั้งนี้ หนังสือยังระบุต่อว่า พรรคได้มอบหมายให้คณะทำงานด้านกฎหมายและนิติบัญญัติของพรรค ตรวจสอบข้อเท็จจริง ได้ข้อยุติว่า คณะกรรมการบริหารของพรรคและผู้มีตำแหน่งในพรรคทุกคน (ในห้วงเวลาที่มีการแจกแผ่นพับแนะนำนโยบายพรรคตามที่นายทรงกรด กล่าวหา) ไม่มีผู้ใดรู้เห็นเกี่ยวข้องกับการกระทำดังกล่าว โดยนายธนชาติ ได้ขอเบิกแผ่นพับแนะนำนโยบายพรรคไปโดยแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ว่านำไปแจกที่จังหวัดภาคใต้และใช้อาสาสมัครเป็นผู้แจก ซึ่งไม่มีค่าใช้จ่าย แต่นายธนชาติกลับนำแผ่นพับไปแจกที่บริเวณด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษ โดยอาจเป็นไปได้ว่านายธนชาติขอรับบริจาคเงินค่าใช้จ่ายจากบุคคลภายนอกจำนวนเกินกว่าค่าใช้จ่ายจริง แล้วได้ประโยชน์จากเงินส่วนที่เหลือ โดยที่บุคคลภายนอกผู้บริจาคเงินอาจหลงเชื่อว่านายธนชาติ เป็นบุคคลสำคัญของพรรค จึงหวังที่จะพึ่งพาในโอกาสข้างหน้าต่อไป อันเป็นพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเป็นปกติวิสัยในแวดวงการเมืองไทย
“พรรคขอกราบเรียนว่า ในการเลือกตั้ง ส.ส.เมื่อปี 2554 ฐานคะแนนเสียงของพรรคส่วนใหญ่อยู่ในต่างจังหวัด พรรคจึงไม่มีนโยบายในการแจกแผ่นพับแนะนำนโยบายพรรคใน กทม. โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษของ กทพ. ซึ่งผู้ใช้ทางพิเศษเกือบทั้งหมดเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งอยู่ใน กทม.และปริมณฑล จึงไม่มีความคุ้มค่าอย่างใดในการนำแผ่นพับไปแจกจำนวนมาก แม้ว่าจะไม่มีค่าใช้จ่ายในการแจกก็ตาม อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายในการแจก แต่หากเป็นกรณีที่มีความคุ้มค่า พรรคก็มีเงินค่าใช้จ่ายส่วนนี้ในการดำเนินการได้อยู่แล้วโดยชอบด้วยกฎหมายและระเบียบของ กกต.” นายอนุทินระบุในหนังสือดังกล่าว
นอกจากนี้ หนังสือดังกล่าวระบุด้วยว่า หากนายทะเบียนพรรคการเมืองรับฟังเป็นยุติและเชื่อว่านายธนชาติ รับบริจาคเงินค่าใช้จ่ายดังกล่าวมาจากบุคคลซึ่งไม่ปรากฏชื่อผู้บริจาคจริง ไม่ว่าจะเป็นบุคคลภายในหรือภายนอกพรรคก็ตาม พรรคมีความประสงค์ขอให้ กกต. ดำเนินคดีกับนายธนชาติ ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 114 และมาตราอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เรื่องนี้มีความชัดเจน ปราศจากความเคลือบแคลงสงสัยใดๆ อันก่อให้เกิดผลดีต่อการเมืองของไทยโดยรวม โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคภูมิใจไทยซึ่งตกเป็นเหยื่อของสถานการณ์