xs
xsm
sm
md
lg

“ประยุทธ์” เผย “ในหลวง” มีพระพลานามัยแข็งแรง เสด็จฯ หาดทรายใหญ่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ภาพจากแฟ้ม)
ผบ.ทบ.เผยข่าวดี “ในหลวง” มีพระพลานามัยแข็งแรง เสด็จฯ หาดทรายใหญ่ วอนเลิกทะเลาะให้หมด อ้างไทยจะเข้าอาเซียน เรื่องโผทหารไม่เกินเดือน ก.ย.แล้วเสร็จ เหน็บเด็กเส้นน่าภูมิใจตรงไหน เตือนต้องคุม “กระท่อม” ให้ดี หากคิดดึงออกจากบัญชียาเสพติด อย่าตื่นเต้นโจรจ้องปักธงมาเลย์ปลอมป่วนใต้ อ้างในกองทัพมีธงหลายสิบประเทศไม่เห็นเดือดร้อน

เมื่อเวลา 13.30 น. ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลการประกวดภาพยนตร์โฆษณาโครงการปลูกจิตสำนึกรู้คุณแผ่นดิน ปีที่ 2 ภายใต้แนวคิดนิยมไทย เพื่อเป็นการรณรงค์ให้คนไทยได้ตระหนักรู้หน้าที่ และความรับผิดชอบในการสร้างวัฒนธรรมอันดีของสังคมไทย และปลูกจิตสำนึกรู้คุณแผ่นดิน ยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สิ่งใดที่เกิดความขัดแย้งควรจะเรียนรู้ และอยู่ด้วยกันอย่างสงบสันติให้ได้ ซึ่งประเทศไทยผ่านมา 5 ยุคจนถึงทุกวันนี้เราไม่อาจทะเลาะกันได้อีกแล้ว เพราะอีก 2 ปีประเทศไทยกำลังเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ดังนั้นวันนี้เราต้องร่วมกันให้ได้ ป้องกันแผ่นดินให้ได้ ไม่เช่นนั้นต่างชาติจะเข้ามายึดมั่น เขาอาจจะไม่ได้มาแบ่งแยกดินแดน แต่เขาจะเข้ามาเอาทรัพยากรที่เรามีอยู่ไปใช้ เขาจะมาครอบครองวัฒนธรรม เศรษฐกิจทั้งหมด

“ภริยาผมเป็นอาจารย์มาเล่าให้ฟังว่า มีเด็กไทยไปเรียนต่างประเทศ เขาให้นักศึกษาต่างชาติเขียนประวัติศาสตร์ประเทศตัวเอง ซึ่งน่าอายที่คนไทยเขียนประวัติศาสตร์ประเทศตัวเองไม่ได้ เพราะไม่สนใจ หรือลืมไปแล้ว เมื่อพวกเราไม่รู้อดีตก็ไม่รู้ปัจจุบัน ก็ไม่รู้ว่าอนาคตจะทำอย่างไรต่อไป สิ่งใดที่เป็นความบาดหมาง ขัดแย้ง ต้องเรียนรู้และใช้เป็นบทเรียนในการที่จะอยู่ร่วมกันให้ได้ การรักษาชาติไม่ใช่การต่อสู้ด้วยอาวุธยุทโธปกรณ์แต่ต้องสร้างความเข้มแข็งให้กับจิตสำนึกของคนในชาติ ในประเทศของเราจนมีคนจนมากกว่า 30% ในสังคมก็มีความเห็นแตกต่างกันมาก คนเหล่านี้ง่ายต่อการชักจูงไปในทางที่ไม่ถูกต้อง คนไทยทุกคนต้องรู้จักตื่นตัว และคิดให้มากกว่าเดิม ผมไม่สบายใจที่คนไทยไม่ชอบอ่านหนังสือ ไม่ชอบคิดซับซ้อน หรือทำตามขั้นตอนเพราะวุ่นวาย ทั้งที่คนไทยควรคิดให้มากกว่าเดิม วันนี้ต้องเลิกทะเลาะให้หมด และต้องสร้างจิตสำนึก เพื่อป้องกันภัยคุกคามรูปแบบใหม่ อย่าให้เขาดูถูกว่าคนไทยไม่คิดอะไรซับซ้อน เราคนไทยต้องรู้จักตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ว่า ประเทศไทยมีเสาหลัก คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ไม่ว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือจะมีการพัฒนาระบอบประชาธิปไตยไปในรูปแบบไหนก็ขาดเสาใดเสาหนึ่งไปไม่ได้ ซึ่งความเป็นไทยถือเป็นเอกลักษณ์ที่ต้องรักษาไว้เพราะต่างชาติอยากเห็นสิ่งเหล่านี้ เราไม่ควรไปลอกวัฒนธรรมของเขามา ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับสั่งว่าให้คนไทยสนใจภาษาไทยเพราะเป็นสิ่งที่งดงาม ควรจะรักษาไว้ อยากให้คนไทยทุกคนรู้จักการให้อภัย เคารพกฎหมาย และสร้างความคุ้มกันที่ดีให้กับบ้านเมืองของเรา

“ทุกคนในชาติน่าจะมีความสุขขึ้นที่เห็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มีพระพลานามัยแข็งแรงขึ้นมากหลังจากเสด็จพระราชดำเนินไปประทับที่วังไกลกังวล และวันนี้พระองค์ท่านก็เสด็จออกมาข้างนอกไปที่หาดทรายใหญ่ เพื่อเสวยพระกระยาหาร เแสดงให้เห็นว่าพระองค์ท่านทรงแข็งแรงขึ้นมาก ถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีของพวกเราและแผ่นดินไทย ท่านไม่สามารถปกป้องตัวเองได้ นอกจากพวกเราทุกคนช่วยกันถวายพระพระชัยมงคล พระองค์ท่านต้องการแค่นั้น และไม่เคยทำผิดทำนองคลองธรรม พระองค์ท่านอยู่แผ่นดินนี้มาเกิน 60 ปีแล้ว พระองค์ท่านทรงรู้ดีว่า จะทรงทำพระองค์อย่างไร ท่านเป็นพระประมุข เป็นพระมหากษัตริย์ของคนไทยทุกพวก ทุกสี ทุกหมู่เหล่า พวกเรากันเองอย่าไปแยกท่าน อย่านำท่านไปทำให้เสียหาย” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ผู้บัญชาการทหารบกยังให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมคณะกรรมการปรับย้ายนายทหารชั้นนายพล เพื่อหารือเกี่ยวกับการจัดทำบัญชีโยกย้ายนายทหารประจำปีว่า อย่าไปกังวล เพราะในท้ายที่สุดจะออกมาจนได้ ขอให้ดูว่าตรงกับที่สื่อเขียนหรือไม่ ขอว่าอย่าไปเดาหรือทำนาย อย่าไปฟังเสียงนกเสียงกา หรือไปเชียร์คนนั้นคนนี้เป็นเรื่องเป็นราว เดี๋ยวเขาไม่ได้แล้วจะมาโกรธตน เพราะไม่ตั้งเขาตามที่สื่อเขียน ซึ่งการจัดทำบัญชีรายชื่อใช้เวลาไม่เกินเดือน ก.ย. บัญชีรายชื่อโยกย้ายจะเสร็จเรียบร้อย เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯต่อไป ส่วนการวิ่งเต้นหรือขอความช่วยเหลือที่สื่อถามอยู่เสมอ ถ้าเราไม่ทำอะไรด้วยตัวเราเอง แล้วความภาคภูมิใจจะเกิดขึ้นได้อย่างไร เมื่อความภาคภูมิใจไม่เกิด สมอง ความคิดก็ไม่แล่น ทำให้คิดอะไรไม่ออกที่จะทำประโยชน์ให้แผ่นดิน ท่านต้องช่วยตัวเอง อย่าโทษฟ้าดิน หากไม่ช่วยเหลือตัวเอง ต้องโทษตัวเอง ทั้งนี้เมื่อผลออกมาเป็นอย่างไรทุกคนกต้องยอมรับตามระเบียบข้อบังคับของกระทรวงกลาโหม และแต่ละเหล่าทัพ และผู้ใต้บังคับบัญชาต้องให้ความเคารพผู้บังคับบัญชา

“หน้าที่ของผู้บังคับบัญชา คือ ตอบแทนผู้ใต้บังคับบัญชา และลงโทษผู้ใต้บังคับบัญชาที่ทำไม่ดี รวมถึงการนำพากองทัพขับเคลื่อนไปข้างหน้าให้ทันต่อการสถานการณ์ปัจจุบันที่ค่อนข้างมีอันตรายพอสมควร และดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาให้มีความเป็นอยู่ที่ดี โดยไม่ทุจริต อีกทั้งการรักษายุทโธปกรณ์ของกองทัพบกที่มีมูลค่าหลายแสนล้านบาท ซึ่งเราใช้มานานหลายปี แต่เมื่อหลายประเทศมาเห็นก็ยังปลื้มใจว่า ประเทศไทยรักษาไว้ได้ดีมาก แต่เมื่อถึงเวลาคงต้องมีการปรับเปลี่ยน ซึ่งรัฐบาลเข้าใจดี ไม่มีใครอยากซื้อของทุกวัน เพราะซื้อทุกครั้งปวดหัวทุกครั้ง เนื่องจากมีการแข่งขัน ประกวดราคา ไม่ใช่ซื้อง่ายๆ จำคำพูดไว้ว่า ผมจะไม่ซื้ออะไรที่เป็นภาระให้กับกองทัพบก การจัดซื้อต้องโปร่งใส และมีประสิทธิภาพ บางคนอาจจะสงสัยว่า ทหารทำอะไรกันอยู่ จะคอยแต่จะซื้ออาวุธ หรือคอยปรับย้ายหรืออย่างไร ยืนยันว่า กองทัพบกทำงานอยู่ตลอด เพื่อประเทศชาติ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้บังคับบัญชาต้องคิด ผมคิดจนปวดหัวอยู่แล้ว แต่เจอบางคำถามกลับปวดหัวกว่า เดิม แต่ไม่เป็นไรเพราะเรารักกัน ทนกันได้ก็ทนกันอีก 1 ปี แต่ถ้าทนไม่ได้ อยากเปลี่ยนคนก็บอก ขอให้ไปเลือกมาผมจะตั้งให้” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ส่วนกรณีที่กระทรวงยุติธรรมเสนอให้มีการพิจารณาแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติด ด้วยการดึงใบกระท่อมออกจากบัญชียาเสพติด พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า อยู่ในขั้นตอนการหารือและมีการเปรียบเทียบหลายประเทศมีทั้งยกเลิกและขึ้นทะเบียน ตนคงไม่ละเมิดแนวคิดของท่าน แต่ที่ตนทำ คือ การสร้างจิตสำนึกของคนไทย ไม่ว่าจะยาอะไร หรือใบอะไร หากไม่ไปเสพก็จะดี เรียกว่าลดความต้องการ สิ่งสำคัญคนไทยต้องควบคุมตนเองให้ได้ ใบกระท่อมต้องอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาทางการแพทย์ กฎหมาย คนไทยส่วนใหญ่จะรับได้หรือไม่ได้ต้องไปว่ากัน หากอาศัยเสียงส่วนใหญ่ในการทำอะไรต่างๆ เราคงฝืนมติไม่ได้ ต้องกลับมาหารือกันให้ดีและหาข้อยุติ แต่สิ่งที่เป็นห่วง หากใบกระท่อมอย่างเดียวคงไม่รุนแรงมากนักตามผลวิจัยทางการแพทย์ แต่หากมีการขาย ต้ม ร่วมกับอย่างอื่นจะทำให้หาวัสดุการผลิตได้ง่ายขึ้น ดังนั้น เป็นสิ่งที่เจ้าหน้าที่ต้องระมัดระวัง วันนี้เราดูแลใบกระท่อมในพื้นที่ภาคใต้อยู่แล้ว ซึ่งมีเป็นจำนวนมากพอสมควร หากจะให้มีได้ก็ต้องทำให้ชัดเจน อะไรจะควบคุม ควบคุมกันอย่างไร ไม่เช่นนั้น จะแก้ปัญหาอะไรไม่ได้ ตนไม่ได้ขัดแย้งอะไรทั้งสิ้น ยอมรับในความคิดเห็นของทุกคน

กรณีที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบถุงบรรจุผืนผ้าที่มีการดัดแปลงให้คล้ายธงชาติของประเทศมาเลเซียที่ ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส โดยจะนำไปติดทั่วพื้นที่ในวันชาติของประเทศมาเลเซียในวันที่ 31 สิงหาคมนี้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า อย่าไปกังวลว่าเขาจะนำธงชาติมาปักหรือทำหล่น หากมีการทำหล่นก็เก็บไปคืนเขา เราจะไปเหยียบย่ำธงชาติเขาไม่ได้ ต้องให้เกียรติประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งนี้ต้องมีคนไม่หวังดีทำ ตนจึงให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน. 4 สน.) เข้มงวดในเรื่องนี้ และให้ พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษก กอ.รมน. ทำความเข้าใจว่า อย่าวิตกในทุกเรื่อง ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่เจตนาจะทิ้งธงไว้หรือกำลังขนย้ายแล้วเกรงว่า เจ้าหน้าที่จะจับกุมเลยทิ้งไว้ก่อน

“ไม่ว่าจะปักธงกี่ร้อยผืนกี่พันผืน แผ่นดินผืนนี้ไม่มีใครยอมให้ประเทศไทยแบ่งแยก โดยเฉพาะประชาชนคนไทย เจ้าหน้าที่พลเรือน ตำรวจ ทหารทุกคนต้องรักษาตรงนี้ไว้ยิ่งชีวิต ดังนั้น ไม่ต้องกลัวต่อให้มีร้อยเท่าของธงก็ไม่ต้องกลัว อย่าไปตื่นเต้นทุกเรื่อง อย่างใบไม้ไหวแล้วตื่นเต้นตกใจ คนไทยอย่าทำเป็นคนขี้ตกใจ สื่อก็อย่าทำให้เขาตื่นตระหนกหรือไปขยายให้เขา เพราะสิ่งที่เขาทำ ต้องการให้เราขยายให้เขา หากเราไปหลงลืมตรงนี้ ไม่รู้ยุทธศาสตร์ก็เป็นเครื่องมือโดยไม่รู้ตัว ภายใน บก.ทบ.มีธงตั้งหลายสิบประเทศ ผมไม่เห็นตื่นเต้นเลย” พล.อ.ประยุทธ์ระบุ


กำลังโหลดความคิดเห็น