“ยะใส” ฉะ รบ.ป้ายสีม็อบยาง สลายไปไม่จบ ชี้ประชานิยมขาลงต้องใช้กึ๋นแทน

ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน ฉะรัฐบาลเล่นการเมืองใส่ร้ายม็อบยาง จี้เร่งเจรจา เตือนใช้ความรุนแรงไม่จบ ชี้อุ้มแต่ข้าว ชาวสวนมองลำเอียง ระบุประชานิยมกำลังขาลง หมดยุคใช้เงิน ต้องใช้กึ๋นแก้ปัญหา ม็อบยางเป็นบทพิสูจน์การปฏิรูปและปรองดองของรัฐบาล

วันนี้ (28 ส.ค.) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน ระบุถึงมาตรการในการแก้ปัญหาการชุมนุมของเกษตรกรชาวสวนยางในขณะนี้ว่า รัฐบาลใช้แนวทางการเมืองแก้ปัญหา มากกว่าจะใช้ความเดือดร้อนจริงของเกษตรกรเป็นตัวตั้ง เช่น การจัดฉากเจรจากับกลุ่มเกษตรกรชาวสวนที่ใกล้ชิดคนในรัฐบาลแล้วอ้างว่าตกลงกันได้แล้ว ในขณะเดียวกันก็กล่าวร้ายป้ายสีผู้ที่ยังชุมนุมอยู่ว่าเป็นม็อบการเมือง หรือคนนอกพื้นที่ และยังพยายามแบ่งแยกปกครองด้วยการตระเตรียมชาวบ้านอีกกลุ่มออกมาคัดค้านการชุมนุมของประชาชนอีกกลุ่ม ทำให้สถานการณ์มีความตรึงเครียดมากขึ้น

นายสุริยะใสเผยต่อว่า การปิดถนนแม้สร้างผลกระทบในวงกว้าง แต่การใช้กำลังเพื่อเข้าไปสลายจะไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ เพราะปัญหาราคายางตกต่ำมาต่อเนื่องตลอด 2 ปี และชาวสวนก็เรียกร้องต่อรัฐบาลมาโดยตลอด แต่มาตรการเยียวยาไม่มีประสิทธิภาพ ซ้ำร้ายการเลือกปฏิบัติของรัฐบาลต่อการอุ้มราคาข้าวหรือชาวนาด้วยการเดินหน้าแทรกแซงกลไกตลาด จนทำให้ขาดทุนยับเยินและเกิดการทุจริตมากมาย แต่รัฐบาลก็ดันทุรังไม่ทบทวนใดๆ เป็นเหตุให้ชาวสวนยางรู้สึกว่ารัฐบาลลำเอียง หรือกลายเป็นเกษตกรชั้นสอง

ผู้ประสานานกลุ่มกรีนเผยอีกว่า กรณีม็อบสวนยางจะเป็นบทพิสูน์ว่ารัฐบาลมีความจริงใจต่อการปฏิรูปและการปรองดองหรือไม่ เพราะถ้าปัญหาปากท้องประชาชนไม่ได้รับการแก้ไขอย่างตรงไปตรงมา การปฏิรูปและการปรองดองก็เป็นแค่ราคาคุยเท่านั้น นอกจากนี้อยากเตือนรัฐบาลว่าปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรกำลังวิกฤตทั้งระบบ หมดยุคใช้เงิน ต้องใช้กึ๋นในการแก้ปัญหา ต้องทบทวนนโยบายประชานิยมที่กำลังสร้างปัญหาอย่างรุนแรงในขณะนี้ และการใช้เงินหว่านโดยไม่สามารถแก้ปัญหาเกษตรกรแบบยั่งยืนได้