นายกฯ และ รมว.กห.ยันเวทีปฏิรูปไม่เงียบ ไม่เสียเปล่า เชื่อคุยต่อเนื่่อง จ่อลงพื้นที่ถามประชาชน ขอใช้เวลาพิสูจน์ปาหี่ อย่าเพิ่งด่วนสรุป บอกคุยแล้วก็ดีขึ้น ชม “บรรหาร” กรุณาให้เกียรติโซ่ข้อกลาง หวังประชาธิปัตย์-พันธมิตรฯ ส่งตัวแทนมา ไม่พูดแกนนำยุติบทบาท บอกเคารพการตัดสินใจ ไม่เล่าผลอวยพร “ป๋าเปรม”
วันนี้ (26 ส.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงการประชุมเวทีปฏิรูปการเมืองที่มีหลายคนกังวล การหารือเมื่อวันที่ 25 ส.ค. จะเงียบหายไป ว่า ไม่เงียบ เพราะเรามีขั้นตอนต่างๆ อย่างแรกข้อศึกษาที่สถาบันต่างๆ ได้มีการศึกษาไว้ ในเบื้องต้นก็จะนำมาศึกษาก่อนว่าอันไหนที่ทำได้ ก็เอาดูจะได้ไม่เสียเปล่า ส่วนแผนที่จะพูดคุยกันในแต่ละเรื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเมือง เศรษฐกิจและสังคม ก็คงจะมีในส่วนที่เร่งด่วนและทำในระยะยาว ก็เชื่อว่าจะมีเวทีนี้ในการพูดคุยอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามขอให้สบายใจว่า เวทีนี้เป็นเวทีในการพูดคุยกันเพื่อรับฟังปัญหา อะไรที่สามารถจะสรุปได้ และส่งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องดำเนินการได้ก็ทำไป อะไรที่สรุปไม่ได้หรือยังมีข้อคิดเห็นที่ไม่ตรงกัน ก็จะมีกระบวนการการพูดคุยกัน อย่างที่มีการพูดคุยกันในเวทีปฏิรูปการเมือง รวมถึงการใช้กลไกของการมีส่วนร่วมของพี่น้องประชาชนลงไปในพื้นที่ เพื่อสอบถามความคิดเห็น
ผู้สื่อข่าวถามว่า ฝ่ายตรงข้ามยังมองว่าเป็นเวทีปาหี่อยู่ดี น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า คงต้องใช้เวลาในการพิสูจน์ จะมาบอกว่าวันเดียวแล้วเป็นอย่างนั้นก็ขอความกรุณาว่าอย่าเพิ่งด่วนสรุปเราเลย ก็ต้องเรียนว่าเป็นสิ่งที่ยากจริงๆ ถ้าตั้งใจในการทำงานร่วมกัน ตนเชื่อว่าเราจะสามารถขับเคลื่อนประเทศได้ ถ้าเราไม่ได้ทำตรงนี้ปัญหาต่างๆ ก็จะวนอยู่อย่างนี้ ก็ทำให้เรามองข้างหน้าไม่ได้ ตรงนี้ก็เป็นเวทีที่จะมองหาทางออกข้างหน้า
เมื่อถามว่า จากที่คุยกันบนเวที พอที่จะเห็นทางออกหรือแนวทางที่จะเดินไปข้างหน้าของประเทศหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ก็ดีขึ้น เราจะบอกว่า ทางออกทั้งหมดเลยก็ไม่ใช่ เห็นแนวทางที่เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี และเวทีเมื่อวันที่ 25 ส.ค.ก็เป็นเวทีที่ทุกคนได้พูดออกมาด้วยบรรยากาศที่สร้างสรรค์และเป็นกันเอง อันนี้ก็จะทำให้บรรยากาศในเรื่องของการพูดคุยกันดีขึ้น และก็ได้บอกปัญหาต่างๆ เพราะแต่ละท่านมาด้วยบทบาทที่มีประสบการณ์ในแต่ละเรื่อง ซึ่งเราได้มีการสะท้อนปัญหาต่างๆ เพื่อจะคิดถึงข้างหน้าว่า เราจะหาทางออกอย่างไร แต่จะหาทางออกอย่างก็จะเริ่มไปด้วยกัน คงต้องใช้เวลา แต่แน่นอนอะไรที่ทำได้เป็นรูปธรรมก็จะทำ ซึ่งนายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ได้กรุณาให้เกียรติเป็นผู้ผลักดันการเชื่อมโยงนี้ โดยเฉพาะการมีส่วนร่วมต่างๆ ซึ่งท่านก็มีประสบการณ์เรื่องสภาปฏิรูปมาแล้ว
เมื่อถามว่า ยังมีความพยายามที่จะเชิญพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมอยู่หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า มีค่ะ ก็ยังอยากเรียนเชิญ เพราะตนไม่อยากเห็นการที่เราพูดกันไป แล้วไม่ได้รับฟังความคิดเห็นของฝ่ายค้าน ถ้าไม่เห็นเวทีอย่างนี้ ก็อยากให้ทางพรรคประชาธิปัตย์ส่งตัวแทนมาพูดกับเรา
เมื่อถามว่า การที่แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ประกาศยุติบทบาท จะถือว่าเป็นผลดีต่อสิ่งที่รัฐบาลดำเนินการอย่างไร น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ด้วยเจตนารมณ์ก็อยากที่จะเรียนเชิญกลุ่ม พธม.มา เพราะกลุ่ม พธม.ก็เป็นกลุ่มหนึ่งที่มีความเห็นและมุมมองที่ต่างจากรัฐบาล เราก็อยากที่จะฟังและทำเข้าใจความคิดเห็นตรงนี้ เพราะกลุ่มนี้ก็มีความใกล้ชิดพี่น้องประชาชนอยู่ ฉะนั้นถ้าเรานำปัญหาต่างๆ เข้ามาพูดคุยก็จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ก็ถือโอกาสนี้เรียนเชิญมาเวทีอยู่ดี
เมื่อถามว่า มองอย่างไรกับการยุติบทบาทของแกนนำ พธม.นายกฯ กล่าวว่า ไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ แต่ก็เคารพในการตัดสินใจของแกนนำที่ได้ประกาศออกมา
เมื่อถามว่า ที่เข้าอวยพร พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ เนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 94 ปี เมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้ขอคำแนะนำเรื่องการสร้างความปรองดองหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ตนไปกราบอวยพรเนื่องในวันเกิดท่าน และเป็นการพูดจาเรื่องทั่วไปไม่มีอะไร และขออนุญาตไม่เล่ารายละเอียด ทั้งนี้เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการเชิญ พล.อ.เปรม เข้าร่วมเวทีปฏิรูปการเมืองหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวแต่เพียงว่า ขออนุญาตไม่เล่ารายละเอียดได้ไหมค่ะ