xs
xsm
sm
md
lg

ม็อบยาง-ปาล์ม ดีเดย์ลุย สารพัดม็อบรุมถล่มรัฐบาลจนเดี้ยง!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

การชุมนุมปิดถนนของเกษตรกรชาวสวนยางพาราในพื้นที่อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช และพื้นที่ใกล้เคียง ด้วยการปิดแยกควนหนองหงส์ อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อกดดันให้รัฐบาลหันมาแก้ไขดูแลความเดือดร้อนของชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน จากปัญหายางพาราและปาล์มตกต่ำลงอย่างต่อเนื่อง และยังไม่มีแนวโน้มกระเตื้องขึ้นเลย

อย่างไรก็ดี ฝ่ายรัฐบาลไม่ยอมเจรจา แต่สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราชเข้าสลายการชุมนุมเมื่อวันศุกร์ที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา จนเกิดการปะทะกันอย่างรุนแรง ได้รับบาดเจ็บกันทั้งสองฝ่ายไปนับสิบราย ทำให้บรรยากาศในพื้นที่เกิดความตึงเครียดขึ้นมาทันที เพราะภาพที่ปราฏออกมานั้น ได้เห็นกำลังเจ้าหน้าที่ปราบจลาจลมากมาย และมีการทุบตีผู้ชุมนุมอย่างรุนแรง จนทำให้เกิดการตอบโต้กลับมาอย่างดุเดือดไม่แพ้กัน ทั้งที่จะว่าไปแล้วกลุ่มเกษตรกรดังกล่าวที่ออกมาชุมนุมปิดถนน แม้ว่าในบางมุมอาจมองว่าเป็นการละเมิดสิทธิ ทำผิดกฎหมาย

แต่เมื่อพิจารณาในด้านของความเดือดร้อนของชาวบ้านกลุ่มนี้ เป็นเรื่องปากท้อง อีกทั้งลักษณะของการชุมนุมก็เป็นการไปตามธรรมชาติ ต่างคนต่างมา ต้องการเรียกร้องกดดันให้รัฐบาลลงมาเหลียวแลแก้ปัญหาให้พวกเขาบ้าง หลังจากก่อนหน้านี้ได้เรียกร้องไปให้รัฐบาลช่วยแก้ปัญหามาแล้วอย่างต่อเนื่อง แต่กลับได้รับการเฉยเมยตลอดเวลา

เวลานี้ชาวสวนยางและปาล์มน้ำมันทั่วประเทศต่างได้รับความเดือดร้อนจากราคาผลผลิตตกต่ำอย่างต่อเนื่องจาก เช่น ยางแผ่นจากราคากิโลกรัมละ 100 กว่าบาท ดิ่งลงมาเรื่อยจนปัจจุบันเหลือแค่กิโลกรัมละ 60 กว่าบาทเท่านั้น ส่วนราคาปาล์มจากเดิม กิโลกรัมละ 8 บาทกว่า เดี๋ยวนี้ราคาเหลือแค่กิโลกรัมละ 2 บาทกว่าเท่านั้น แม้ว่าที่ผ่านมาจะมีการเคลื่อนไหวเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไม่เคยแก้ปัญหาอย่างจริงจัง กลับกลายเป็นว่ามีการรับปากช่วยเหลือแบบ รัฐบาล “ขายผ้าเอาหน้ารอด” ไปวันๆ ขณะเดียวกัน เงินอุดหนุนที่รัฐบาลส่งลงมาช่วยเหลือตามตัวเลขระบุว่า ไม่ต่ำกว่า 15,000 ล้านบาท ก็ละลายหายไปหมดแล้ว แต่กลับไปไม่ถึงมือเกษตรกรอย่างทั่วถึง

ดังนั้น หากบอกว่าการออกมาชุมนุมของชาวสวนยางเที่ยวนี้ถือว่า “เหลืออด” จริงๆ ขณะเดียวกันอีกด้านหนึ่งยังเป็นการสะท้อนให้เห็นถึง “ความล้มเหลว” ของรัฐบาลในการแก้ปัญหาได้อย่างชัดเจนอีกกรณีหนึ่ง

นาทีนี้ชาวบ้านเขาคงไม่ฟังข้ออ้างของรัฐบาล ตั้งแต่นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และรองนายกฯ และรมว.เกษตรและสหกรณ์ ยุคล ลิ้มแหลมทอง ว่า สาเหตุที่ราคายางและปาล์มตกต่ำแบบนี้ เป็นเพราะกลไกตลาด หรือตลาดโลก หล่นฮวบลงมาเหลือแค่ 60 กว่าบาท เพราะถ้าอ้างกันแบบนี้ ก็ไม่มีต้องมีรัฐบาลให้เปลืองงบประมาณหรอก แล้วทีนายกฯ เที่ยวเดินสายไปประเทศโน้น ประเทศนี้ เปลืองงบประมาณไปมหาศาล ทำไมไม่ไปหารือลงนามเรื่องการค้า ส่งเสริมการส่งออกสินค้าเกษตร หรือหาวิธีการอะไรก็ได้ ที่มันเข้าท่ากว่าที่เป็นอยู่ไม่ใช่หาเรื่อง “หนีสภา” อย่างที่เขาเยาะเย้ยถากถาง แต่ขณะเดียวกันในทางตรงกันข้าม ถ้าราคายางและปาล์มน้ำมันราคาดีพุ่งกระฉูด ป่านนี้คงคุยฟุ้งว่านี่คือ “ผลงานเจ๋งแบบหลุดโลก” ของคนในครอบครัวชินวัตร จัดให้หรือเปล่า

วันก่อน รองนายกฯ ด้านความมั่นคง พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก พูดแบบไม่คิดออกมาทันควัน หลังจากชาวสวนยางออกมาประท้วงกดดันรัฐบาลให้มาเหลียวแลด้วยการปิดถนน ว่าเป็น “ม็อบการเมือง” ซึ่งมันก็ใช่ แต่มันเป็นการผลมาจากการเมืองที่ห่วยแตก ฝีมือที่ห่วยแตกของรัฐบาล เป็นความล้มเหลวของ “ทักษิณ ชินวัตร” ที่อยู่เบื้องหลังรัฐบาลนี้ทุกเรื่อง ไงล่ะ

สังเกตหรือไม่ว่า ถ้าปล่อยให้ ทักษิณ ชินวัตร หรือรัฐบาลบริหารกันอย่างเต็มที่สักพัก ในช่วงแรกที่ “รับช่วง” มาจากรัฐบาลก่อน เศรษฐกิจก็จะเติบโตมีความหวัง แต่พอไปสักระยะ มีแต่ทรุดลงๆ เหมือนอย่างที่รัฐบาลชุดนี้กำลังเป็นอยู่ ตอนแรกเศรษฐขยายตัวเติบโตได้ดี แต่พอเข้าสู่ปีที่ 2 ปีที่ 3 ทุกอย่างก็เริ่มชะลอ ก่อนจะ “ถดถอย”

แต่พวกที่รวยเอาๆ รวมทั้งมีอำนาจแบบเบ็ดเสร็จเรื่อยๆ ก็เป็นคนในครอบครัวชินวัตรเท่านั้น เคยกล่าวหาค่อนแคะคนอื่นว่าเป็น “อำมาตย์” เวลานี้กลายเป็นว่า พวกเขายิ่งกว่า “ซูเปอร์อำมาตย์” โคตรอภิสิทธิชน

พูดถึงเรื่องม็อบที่เกิดจากความล้มเหลวของรัฐบาล แน่นอนว่า เวลานี้คงไม่ใช่มีแค่ชาวสวนยาง ปาล์มน้ำมัน เท่านั้น ยังมีอีกหลายเรื่อง ทั้งปัญหาชาวนา ที่เวลานี้รัฐบาลเริ่ม “จนมุม” เพราะ “ถังแตก” เงินหมุนไม่ทัน หลังจากเคยหาเสียงว่าจะ “รับซื้อทุกเมล็ด” แต่มาวันนี้กลับอ้างว่าต้อง “รักษาวินัยการคลัง” ต้องขอลดราคาจำนำและมีเงื่อนไข มีโควตาไม่เหมือนเดิม

เวลานี้เริ่มยึกยัก ลดราคาจาก 15,000 บาทต่อตัน เหลือ 13,000 บาท ให้เลือกว่า จะจำนำได้ปีละครั้ง ทั้งที่ตอนหาเสียงไม่เห็นพูดแบบนี้ มาวันนี้เปลี่ยนไป นั่นก็หมายความว่า “เริ่มมีปัญหา” เพราะไม่เช่นนั้นคนพวกนี้ไม่ยอมเปลี่ยนหรอก เพราะรู้ว่าต้องถูกชาวนาที่เป็นฐานเสียงใหญ่โวยแน่ และเชื่อว่าอีกไม่นาน ราวก่อนเดือนตุลาคมที่เป็นฤดูกาลเก็บเกี่ยวใหม่ออกมา จะมีการเคลื่อนไหวบางอย่างแน่

หรือก่อนหน้านี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่งมีเกษตรกรปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในภาคเหนือตอนบน ได้ออกมาประท้วงเรื่องราคาตกต่ำ และได่ยื่นหนังสือให้นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ช่วยเหลือผ่านทางผู้ว่าราชการจังหวัดไปแล้ว พร้อมทั้งขีดเส้นให้รีบดำเนินการโดยด่วน ไม่เช่นนั้นจะออกมาปิดถนนกันอีก

ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นทุกเรื่อง ล้วนสะท้อนให้เห็นถึงความล้มเหลวห่วยแตกของรัฐบาล ว่าไม่สามารถบริหารแก้ปัญหาทั้งในภาวะวิกฤตหรือภาวะปกติได้เลย นี่ว่ากันเฉพาะสินค้าเกษตรหลักๆ มีปัญหาด้านราคาทุกประเภท และเมื่อสินค้าขายไม่ได้ราคา ก็ไม่มีรายได้ มีผลกระทบต่อการจับจ่าย การบริโภคภายในมีปัญหา ขณะที่ส่งออกหดตัว แค่นี้ก็พอหลบตาได้ทันทีว่าเศรษฐกิจของไทย ต้องมีปัญหาแน่นอน นี่ว่ากันเฉพาะสินค้าเกษตรเท่านั้น ยังมีปัญหาการเมืองที่เอาแต่ได้ เห็นแก่ตัว วันๆคิดแต่ว่าจะทำอย่างไรให้คนในครอบครัวตัวเองได้ประโยชน์อย่างไร ทั้งเรื่องนิรโทษ แก้ไขรัฐธรรมนูญ หวังกินรวบทุกอย่าง ล้วนแต่สะสมความไม่พอใจให้กับชาวบ้านมากขึ้นทุกวัน

เอาแค่เรื่องปัญหาสินค้าเกษตรที่เป็นอยู่เวลานี้ ก็ถือว่าวิกฤติหนักหน่วงอยู่แล้ว และรับรองว่าไม่ใช่มีแค่ชาวสวนยาง สวนปาล์มเท่านั้น ที่ดีเดย์ลุย วันที่ 3 กันยายนนี้ ยังมีอีกหลายม็อบ ที่กำลังซอยเท้า เตรียมถล่มซ้ำตามมาอีก ก็ได้แต่ภาวนาให้รัฐบาลอยู่ไปตลอดรอดฝั่งก็แล้วกัน!!
กำลังโหลดความคิดเห็น