ส.ส.เพื่อแม้ว เพิ่งนึกได้ แถลงจวกพฤติกรรม ปชป.ในสภาเมื่อ 2 วันก่อน เย้ยใช้แนวทาง 1 พรรค 2 ระบบในสภาตีรวนทุกประเด็น และขู่ ปธ.-จนท.-ส.ส.รัฐฯ บี้ “มาร์ค-ชวน” เตือนอย่าปากว่าตาขยิบ อ้าง ผบ.ทบ.ยังอยากให้สภานำชาติก้าวหน้า เล็งยื่นญัตติกันเหตุแปรญัตติขัดหลักการ ทำเสียเวลา
วันนี้ (22 ส.ค.) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ และน.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย น.ส.วิสาระตี เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย และ น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยร่วมกันแถลงข่าวถึงกรณีเหตุการณ์วุ่นวายในระหว่างการประชุมร่วมรัฐสภาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญฯ ที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับสมาชิกวุฒิสภา
โดยนายจิรายุกล่าวว่า ตนขอถามไปยังพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะผู้หลักผู้ใหญ่ของพรรค เช่น นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ที่เคยกล่าวเอาไว้ว่า ประเทศไทยต้องเคารพระบบรัฐสภา แต่เหตุใดเมื่อสองวันก่อน ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ หลายคนจึงสร้างความวุ่นวายในสภา ทั้งชกต่อย ป่วนการทำงานของประธานรัฐสภา ส่งเสียงกรีดร้องโหยหวนไปทั้งสภา เป็นต้น
นายจิรายุกล่าวต่อว่า วันนี้ตนไม่แน่ใจว่าพรรคประชาธิปัตย์ได้ยึดแนวทางการทำงานใหม่หรือไม่ เพราะตนเห็นว่า ขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์ ทำการเมืองแบบ 1 พรรค 2 ระบบ ก็คือ ทางหนึ่ง ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ระบุว่าจะทำงานในสภา แต่กลับมีการตีรวนทุกประเด็นโดยไม่สนใจระเบียบใดๆ ทั้งสิ้น และอีกทางหนึ่งก็คือ ใช้ระบบพิเศษ คือการข่มขู่คุกคาม ทั้งประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ เจ้าหน้าที่ หรือแม้แต่ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ดังนั้น ตนขอร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายชวน ต้องออกมาส่งเสียงตักเตือนลูกพรรคบ้าง เพราะคนนอกอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ยังเรียกร้องให้รัฐสภา ทำงานเพื่อประชาชนและนำพาประเทศก้าวไปข้างหน้า แต่วันนี้กลับไม่มีคำตักเตือนใดๆ จากผู้ใหญ่ในพรรคประชาธิปัตย์ จะทำตัวปากว่าตาขยิบไม่ได้ เพราะวันนี้ประเทศเดินหน้าไปมากแล้ว ซึ่งถ้าหากปล่อยให้เหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้น ประเทศก็คงถอยหลังอีกรอบ นอกจากนี้ ตนก็จะมีการยื่นข้อญัตติข้อบังคับการประชุมใหม่ เพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่มีผู้แปรญัตติขัดหลักการเพื่อไม่ให้เสียเวลาในการพิจารณากฎหมายฉบับอื่นๆ ด้วย
ทางด้าน 3 ส.ส.หญิงพรรคเพื่อไทย แถลงไปในทำนองเดียวกันว่า เหตุการณ์เมื่อ 2 วันที่ผ่านมาทำให้ภาพลักษณ์ของรัฐสภาเสียหายมากในสายตาของประชาชน ดังนั้นจึงขอเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาทุกคน ให้ความร่วมมือซึ่งกันและกัน โดยขอให้อภิปรายภายในประเด็น และให้นำเหตุการณ์ที่ผ่านมาเป็นบทเรียนด้วย