ปูกรรเชียงทัวร์นอกถี่ หนีสภา-ดีลธุรกิจพี่ชาย

รายงานการเมือง

โดดงาน-หนีสภา!!! เหมือนจะเป็นงานเด่น-งานหลัก ที่มี “ผลงาน” เป็นรูปธรรมมากที่สุด ของ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม สมฉายา "ปูกรรเชียง" ที่สุด

ขนาดอภิปรายร่าง พ.ร.บ.รายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2557 ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญในการบริหารงานของรัฐบาล “ปูแดง” ยังหดหัวเข้ากระดอง ไม่ได้สนใจใยดีที่จะชี้แจงให้ประชาชนได้รับรู้และเข้าใจ

ทั้งที่ต้องเป็นคนที่จะนำเงินภาษีของประชาชนกว่า 2.5 ล้านล้านบาทไปจับจ่ายใช้สอย

“ยิ่งลักษณ์” ทำได้แค่กล่าวชี้แจงความจำเป็นของ พ.ร.บ.งบประมาณ เท่านั้น ที่เหลือก็แค่ทำตัวเป็น “อีแอบ” หลบๆ ซ่อนๆ เข้าสภาเพื่อมาลงชื่อเข้าประชุม แล้วก็โยนให้ทางกรรมาธิการเป็นคนรับหน้าแทน อ้างว่าเป็นเรื่องวาระ 2-3 ไม่เกี่ยวกับรัฐบาลไปซะอย่างนั้น

ว่างหน่อยก็จะเข้ามานั่งในห้องทำงานของนายกฯ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้บรรดา “ลิ่วล้อ” ที่ออกโรง "สู้เพื่อปู ทำเพื่อแม้ว" ถ่ายรูปแช๊ะๆนำไปประดับบารมี อวดลูกอวดหลานได้

นอกจากนี้ "คุณหนูปู" ยังมีทีมงานมืออาชีพ คอยช่วยให้รอดพ้นเคราะห์จากการชำแหละของ “ขุนพลฝีปากกล้า” จากพรรคประชาธิปัตย์ คอยจัดหมาย-วางวาระงาน ให้ทับซ้อนกับวาระของสภาตลอด

ทีมงานมืออาชีพ ก็ไม่ใช่ใคร เป็น “แก๊งไอติม” ที่ “เฉลิม อยู่บำรุง” รมว.แรงงาน เคยตั้งสมญานามไว้ คาดเดาได้ไม่อยากว่าใครบ้าง หัวหน้าทีม นำโดย “สุรนันท์ เวชชาชีวะ” เลขาธิการนายกรัฐมนตรี

ข่าวลึกๆแต่ไม่ลับใครก็รู้กันดีว่า “แก๊งไอติม” มักจะประชุมสุมหัวกัน เพื่อประเมินว่าจะมี “วาระร้อน” ในสภากันเกือบทุกสัปดาห์ แล้วก็จัดหมายงานให้ "ยิ่งลักษณ์" หลบฉากทันที

ตามยุทธศาสตร์ของพรรคเพื่อไทย ที่ไม่อยากให้ “ยิ่งลักษณ์” พูดในสภามากเกินความจำเป็น เพราะรู้ดีถึงศักยภาพความสามารถของ "นายหญิง" ดี ว่าพูดทีไรก็เหมือน “มีด” ที่กลับมาทิ่มแทงตัวเองทุกครั้วไป

เพราะบางครั้งอาจจะมีเผลอพลั้งพูดผิด-พูดเกิน-พูดเข้าตัว ยิ่งเล่ห์เหลี่ยมการเมืองของ “ยิ่งลักษณ์” ยังอ่อนพรรษา หากปล่อยให้เข้าไปเผชิญกับ ส.ส.ประชาธิปัตย์ ที่เตรียมลับมีดรอกรีดไว้แล้ว อาจจะถึงขั้น “ซวย” กันยกแผงได้

ดังนั้นเมื่อ “สภา” เปิด หน้าที่อย่างเดียวของ “ปูแดง” คือหดหัวเข้า “กระดอง”

วิธีจัดหมายงานของ “แก๊งไอติม” นอกจากจะจัดให้หลบหนี-หลีกเลี่ยง อยู่ภายในประเทศแล้ว บางครั้งยังมีการอ่านเกมไกลมองข้ามช็อตจัดวาระเดินทางไป “เมืองนอก” เพื่อหนีสภากันเลยทีเดียว

ล่าสุด “ยิ่งลักษณ์” เดินทางไปยังสาธารณรัฐทาจิกิสถาน ระหว่างวันที่ 19 - 20 ส.ค. และสาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน ระหว่างวันที่ 20 - 21 ส.ค. ช่างประจวบเหมาะกับจังหวะที่สภา นัดถกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรื่องที่มา ส.ว.

งานนี้ “ปูแดง” เบี้ยวตามเคย พลิ้วหลบฉากไปได้อีกตามสูตร

ตามคิวที่ฝ่ายค้านพรรคประชาธิตย์ เดินเกมหนักเข้าใส่พุ่งเป้าตรงไปยัง “ยิ่งลักษณ์” แฉให้เห็นกันไปเลยว่า ไปดูงาน “ต่างประเทศ” แล้ว จำนวน 45 ครั้ง 47 ประเทศ ใช้งบประมาณถึง 370 ล้านบาท ในรอบ 2 ปีที่ขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศ

จำนวนตัวเลขถือว่าสูงมาก หากเทียบกับ นายกฯคนอื่นๆ เพราะที่ผ่านมา หากมีหมายที่พอให้ “ตัวแทน” ไปได้ ก็จะให้ไป แต่รัฐบาลชุดนี้แล้ว “ยิ่งลักษณ์” ขอเหมา ราวกับต้องการไมล์สะสมเป็นของตัวเอง จึงไม่มีที่ว่างสำหรับ “ตัวแทน”

แม้ “สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล” รมว.ต่างประเทศ จะชี้แจงว่าการเดินทางไปต่างประเทศของ “ยิ่งลักษณ์” ไปเยือนตามคำเชิญของ “ผู้นำต่างประเทศ” ไม่ได้ไปเที่ยว ไปเพื่อแสวงหาโอกาสในการลงทุน การที่นักท่องเที่ยวมาเที่ยวไทย

คำแก้ตัวของ “อ้ายปึ้ง” แถบจะฟังไม่ขึ้น เพราะหากไล่ดูแล้ว การเจรจาพูดคุยใน “เศรษฐกิจ-ธุรกิจ” กับต่างประเทศใน “รัฐบาลปูแดง” ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย

ข้อสังเกตที่ชัดเจนอย่างหนึ่ง หาก “ยิ่งลักษณ์” เดินทางไปต่างประเทศเพื่อเจรจาต่อรองด้าน “เศรษฐกิจ-ธุรกิจ” จริง คำถามคือเหตุใดยอดการส่งออกพืชผลทางการเกษตรของไทย จึงอยู่ในสภาวะดึงตัวลง

โดยตัวเลขล่าสุดของ “สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ" การส่งออกของไทยไตรมาส 2 ติดลบ ภาพรวมการส่งออกในครึ่งปีแรกขยายตัวแค่ 1 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าน้อยมากๆ สำหรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

ที่สำคัญถ้า “ยิ่งลักษณ์” เดินทางไปต่างประเทศ เพื่อการลงทุนจริง ทำไมรัฐบาลจึงขาย “ข้าว” ไม่ได้ จนเสียแชมป์ให้กับ “เวียดนาม”

ตัวเลขการส่งออกเหล่านี้เป็น “หลักฐาน” ยืนยันได้อย่างดีว่า “รัฐบาลปูแดง” ไม่ได้สนใจแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ไม่ได้สนใจที่จะทำให้ประเทศไทยเดินไปข้างหน้า

ถ้ารัฐบาลจะเอาเรื่องการเดินทางไปต่างประเทศ มาคุยโวโอ้อวดว่า “โลก” เปิดรับ “ประเทศไทย” มากขึ้น หลังไม่ยอมรับการรัฐประหาร ปี 2549 ก็ต้องตอบให้ได้ด้วยว่า เปิดรับแล้ว “ประเทศไทย” ได้อะไร

เพราะผลประโยชน์ของประเทศคือ “หัวใจ” หลัก ในการเดินทางไปต่างประเทศของนายกฯ

หนำซ้ำการเดินทางไปต่างประเทศ รูปภาพการพูดคุยต่อรองทางเศรษฐกิจแถบจะไม่มี จะมีก็แค่เพียงการแต่งตัวที่ดูสวยงานเฉิดฉาย เอาไปอวดกับ “ฝรั่ง” ได้ว่าเมืองไทยมี “นายกฯ” พอดูดี แล้วก็เอาไว้ "โพสต์รูป-เช็คอิน" เรียกเรตติ้งผ่านโซเชีี่ยลเน็ตเวิร์ค

อีกทั้งหากลองมองดูทิศทางการเดินเกมต่างประเทศของพี่ชาย “ทักษิณ ชินวัตร” กับ “ยิ่งลักษณ์” แล้ว อาจจะมีผลประโยชน์ทับซ้อน

เพราะแทบทุกครั้ว ก่อนที่ “ยิ่งลักษณ์” จะเดินทางไปประเทศไหน จะมีหน่วยล่วงหน้าอย่าง “ทักษิณ” ไปเคลียร์ทางเอาไว้ก่อน

ตัวอย่างชัดเจนทั้งที่บรูไน พม่า ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ที่เคยเป็นข่าวมาแล้ว หรืออย่างการไปเยือนอินโดนีเซียของ "ยิ่งลักษณ์" ก็มีรายงานว่า เกี่ยวข้องกับการที่ “ทักษิณ” ดีลติดต่อซื้อเหมืองถ่านหินเอาไว้

จึงมีคนตั้งข้อสังเกตว่า “ทักษิณ” เดินสายเปิดหน้าดีลธุรกิจ เพื่อให้ “ยิ่งลักษณ์” ไปสแตมป์ตรารับรองให้ภายหลัง

หลังจากนี้ต้องจับตาว่า “ยิ่งลักษณ์” จะเดินทางเยือนต่างประเทศ อีกมากมายเหมือนเดิมหรือไม่ ยิ่งเดินทางมากเท่าไร ก็ยิ่งต้องตรวจสอบมากเท่านั้น

ทั้งหมดสะท้อนให้เห็นว่า “ยิ่งลักษณ์” ไม่ได้เอาจริงเอาจังกับการแก้ปัญหาปากท้อง หรือความเดือดร้อนของประชาชน มีเพียง "วาระการเมือง" ที่ตั้งธงไว้เท่านั้น เพียงแต่จะไม่นำตัวเองลงไปข้องเกี่ยว ปล่อยให้เป็นหน้าที่ "ลิ่วล้อ" แทน โดยเฉพาะการวุ่นวายปลดคดีความให้กับ “พี่ชาย”

ส่วนตัวก็จับเครืื่องไปทัวร์นอก ใช้ตำแหน่งผูืนำผระเทศบังหน้า ดีลผลประโยชน์ของครอบครัว

เผลอๆหากนับดูตัวเลขเดินทางไปเมืองนอก ของ “นายกฯยิ่งลักษณ์” น่าจะมากกว่าการลุกขึ้นทำหน้าที่ชี้แจงต่อสภาด้วยซ้ำ