ASTVผู้จัดการ - สมาคมนักข่าวนักหนังหนังสือพิมพ์-สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ออกแถลงการณ์ร่วม ประณามคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงถล่มและผูกระเบิดไว้รั้วหน้าบ้าน “ภัทระ คำพิทักษ์” บก.บห.โพสต์ทูเดย์ ชี้คุกคามสื่อมวลชนชัดเจน จี้รัฐบาลออกมาตรการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพสื่อมวลชน ร้องตำรวจเร่งจับกุมคนร้าย
จากกรณีที่วานนี้ (17 ส.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 5.00 น. ได้เกิดเหตุคนร้ายยิงใช้อาวุธยิงใส่บริเวณบ้านพักของนายภัทระ คำพิทักษ์ บรรณาธิการบริหาร นสพ.โพสต์ทูเดย์ อ.เมือง จ.นนทบุรี โดยไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ แต่รถยนต์ของนายภัทระยี่ห้อฟอร์ด รุ่นเอสเคป ถูกยิง รอยกระสุนทะลุจากประตูบ้านที่เป็นสเตนเลสเข้ามายังประตูท้ายรถ และเข้ามายังหน้ารถ จนกระจกแตกเสียหาย อีกทั้งคนร้ายยังได้ทำการข่มขู่ด้วยการแขวนระเบิดลูกเกลี้ยงเท่ามะนาว หรือ vc10 ไว้ที่หน้าบ้าน วานนี้ สมาคมนักข่าวนักหนังหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ได้ออกแถลงการณ์ร่วม ประณามการกระทำดังกล่าวของคนร้ายมีใจความดังนี้
แถลงการณ์ร่วมองค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน
เรื่อง ขอประณามกรณีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงถล่มบ้านและผูกวัตถุคล้ายระเบิดแขวนไว้รั้วหน้าบ้าน นายภัทระ คำพิทักษ์ บรรณาธิการบริหาร หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
จากกรณีมีคนร้ายไม่ทราบจำนวนกระทำการอุกอาจใช้อาวุธปืนยิงถล่ม และผูกวัตถุลักษณะคล้ายระเบิดลูกเกลี้ยง มีโลหะห่อหุ้ม ไม่มีสารระเบิด ไว้ที่รั้วหน้าบ้านของบ้านเลขที่ 38 ซอยทานสัมฤทธิ์ 32/5 9 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี บ้านของนายภัทระ คำพิทักษ์ บรรณาธิการบริหารหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ และกรรมการสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณเช้ามืดวันที่ 17 สิงหาคม 2556 ที่ผ่านมา
สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย มีความเห็นว่า เป็นการเป็นกระทำที่มุ่งข่มขู่ คุกคามโดยตรงต่อ นายภัทระ คำพิทักษ์ ในฐานะบรรณาธิการบริหารหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ และเป็นผู้ร่วมจัดรายการคลื่นวิทยุเอฟเอ็ม 101 ซึ่งได้ทำหน้าที่ของสื่อมวลชน ตามสิทธิเสรีภาพตามที่กฎหมายรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ เพื่อนำข้อมูล ข้อเท็จจริงและความจริงเสนอต่อสาธารณะชน
องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนเห็นว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ว่าฝ่ายใดจะเป็นผู้กระทำก็ตาม เป็นการกระทำที่อุกอาจ ใช้ความรุนแรงเป็นการข่มขู่ คุกคามสิทธิเสรีภาพในการปฏิบัติหน้าที่สื่อมวลชนโดยรวมอย่างไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ดังนั้นสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ขอประณามการกระทำทีใช้ความรุนแรงในครั้งนี้
1. ขอเรียกร้องให้รัฐบาลมีมาตรการปกป้องคุ้มครองการใช้สิทธิเสรีภาพสื่อมวลชน เพราะการคุกคามเสรีภาพของสื่อมวลชนเท่ากับเป็นการคุกคามเสรีภาพในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารข้อเท็จจริงของประชาชน และยังส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยในสายตานานาชาติ
2. ขอเรียกร้องต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เร่งติดตามจับกุมคนร้ายมาลงโทษตามกฎหมายโดยเร็ว เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างในการคุกคามสิทธิเสรีภาพสื่อมวลชน และเมื่อคดีมีความคืบหน้าขอให้แถลงผลความคืบหน้าในคดีให้สาธารณชนทราบ เพื่อสร้างความมั่นใจต่อความปลอดภัยแก่ประชาชน
3. หากผู้ใดที่ได้รับผลกระทบจากการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน กรณีเห็นว่าสื่อมวลชนใช้สิทธิเสรีภาพเกินขอบเขต สามารถฟ้องร้องได้ตามกฎหมายหรือใช้กลไกควบคุมจริยธรรมขององค์กรวิชาชีพสื่อผ่านสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ หรือสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย แต่ต้องไม่ใช้ความรุนแรงคุกคามการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน
สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ขอให้สื่อมวลชนทุกแขนงทำหน้าที่นำเสนอข่าวสารโดยยึดมั่นในกรอบจริยธรรมแห่งวิชาชีพ ด้วยข้อมูล ข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง รอบด้าน ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซื่อสัตย์ในวิชาชีพ เพื่อประโยชน์และสิทธิในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชนอย่างมั่นคงต่อไป
สมาคมนักข่าวนักหนังหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย
สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย
17 สิงหาคม 2556
สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย
17 สิงหาคม 2556