การ์ดกองทัพโค่นแม้ว แบนปลอกแขนนักข่าว “บช.น.” ปูด “ตำรวจ-เสื้อแดง” ใช้แทรกซึม

หัวหน้าการ์ดกองทัพโค่นระบอบทักษิณ เผยจัดตั้ง “กองกำลังพิทักษ์ชาติ” ดูแลม็อบ “ลุงปรีชา” รับผิดชอบ กำลังพล 750 คนพร้อมรับสถานการณ์ เผยมีตำรวจ-เสื้อแดงแทรกซึม ฉวยโอกาสใช้ปลอกแขน บช.น.แต่ถูกจับได้ ออกมาตรการใช้เฉพาะปลอกแขนของ 2 สมาคมนักข่าวฯ เท่านั้น ยกเลิกการใช้ปลอกแขน บช.น. ถ้าไม่มีใช้บัตรนักข่าวแทน

วันนี้ (6 ส.ค.) ที่สวนลุมพินีสถาน เมื่อเวลา 13.00 น. บรรยากาศในการชุมนุมของกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) ในช่วงบ่ายเนื่องจากมีอากาศที่ร้อนจัด ทำให้ค่อนข้างเงียบเหงา โดยไม่มีการปราศรัยบนเวที มีเพียงการเปิดเพลงเพื่อปลุกใจกลุ่มผู้ชุมนุมเท่านั้น ส่วนผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ก็แยกย้ายหลบแดดพักผ่อนโดยรอบบริเวณสวนลุมพินี

โดยนายสุทิน ธราทิน หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ เปิดเผยถึงการรักษาความปลอดภัย ตามคำแถลงการณ์ยกระดับการชุมนุมเป็นระดับเข้มข้นว่า ขณะนี้จัดกำลังรักษาความปลอดภัยไว้ 5 กองร้อย หรือประมาณ 750 คน โดยใช้วิธีรับสมัคร หรือการ์ดอาสาทั้งหมด ซึ่งกลุ่มรักษาความปลอดภัยของกองทัพประชาชนฯ จะใช้ชื่อเป็นทางการว่า “กองกำลังพิทักษ์ชาติ” อยู่ในความรับผิดชอบของ พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ 1 ใน 7 แกนนำกองทัพประชาชนฯ เป็นผู้รับผิดชอบการทำงาน

ทั้งนี้ การรักษาความปลอดภัยได้แบ่งออกเป็น 2 ผลัด รักษาความปลอดภัยรอบพื้นที่ชุมนุม ตลอด 24 ชั่วโมง การรับสมัครจะลงทะเบียนฐานข้อมูล ประวัติ และสัมภาษณ์ มีการอบรม ปฐมนิเทศ เพื่อให้เข้าใจอุดมการณ์ ความวิกฤตหรือสถานการณ์เฉพาะหน้าที่อาจเกิดขึ้นได้ รวมทั้งวินัย ซึ่งกองกำลังพิทักษ์ชาติแต่ละกลุ่มจะแยกย้ายประจำแต่ละจุด เฉลี่ยจุดจะแบ่งเฉลี่ยแยกกันละ 10-20 คน ขึ้นอยู่กับความสำคัญของพื้นที่ ซึ่งมี 4 รูปแบบ หากเปรียบเป็นไข่ ได้แก่ พื้นที่รอบนอก พื้นที่เปลือกไข่ พื้นที่ไข่ขาว และไข่แดงซึ่งสำคัญที่สุด

ส่วนการปฏิบัติงานได้กำชับให้ยึดแนวทาง 3 เรื่อง คือ อยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย รัฐธรรมนูญการชุมนุมโดยสงบ สันติ และการนำพามวลชนให้ปลอดภัยมากที่สุด หากมีการเคลื่อนขบวน โดยการประเมินสถานการณ์ล่าสุด ในช่วงการชุมนุมตั้งแต่วันที่ 4 ส.ค.ถึงปัจจุบัน พบว่าขณะนี้มีกลุ่มคนแทรกซึมมาทางผู้สื่อข่าว โดยใช้ปลอกแขนสื่อมวลชนที่ทำโดยกองบัญชาการตำรวจนครบาล หรือ บช.น. โดยพบว่าเป็นสายสืบ 1 คน และคนเสื้อแดง 1 คน เมื่อการ์ดจับได้ ก็ขอความร่วมมือให้ออกนอกพื้นที่ชุมนุม

ทั้งนี้ กระบวนการตรวจสอบการแทรกซึมผ่านสื่อ ได้ขอความร่วมมือสื่อมวลชนแสดงตัว 4 รูปแบบ คือ 1. หากไม่มีปลอกแขนสีเขียว ของสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ให้ใช้บัตรพนักงานของสำนักข่าวเพียงอย่างเดียว 2. ใส่ปลอกแขนสีเขียวตองอ่อน ที่ออกโดยสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย มีโลโก้ 2 องค์กรประทับตรา และ 3. ปลอกแขนสีเขียวแก่ชุดเก่า ที่ออกโดยสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ให้แขวนบัตรพนักงานร่วมด้วย และ 4. ขอให้ยกเลิกการใช้ปลอกแขนสื่อฯ ที่ออกให้โดย บช.น. มีคำว่า “บช.น.” พิมพ์อยู่ด้วย เนื่องจากอาจสร้างความเข้าใจผิด และเป็นช่องทางที่ทำให้เกิดการแทรกซึมจากบุคคลอื่นได้ง่าย แต่หากจำเป็นต้องใช้ก็ขอให้แสดงคู่กับบัตรที่สังกัดองค์กรสื่อฯ

ส่วนสถานการณ์ขณะนี้ นายสุทินประเมินว่า หากมีการเคลื่อนขบวนไปรัฐสภา หรือดาวกระจายไปที่อื่นในวันพรุ่งนี้ ก็มีความเป็นห่วงเช่นกันกรณีหากเกิดเหตุรุนแรง เพราะฝ่ายรัฐมีอำนาจ กำลังคน และอาวุธ ขณะเดียวกันก็ยอมรับว่า แม้วางกำลังนับร้อยคนในพื้นที่ชุมนุม ก็ยังมีจุดอ่อนและความเสี่ยงอยู่ แต่จะพยายามดูและรักษาความปลอดภัยให้มากที่สุด ส่วนอารมณ์ของมวลชนยอมรับว่าอาจควบคุมยากในบางคน แต่ขอให้ผู้ชุมนุมเชื่อฟังแกนนำเท่านั้น โดยหากเกิดเหตุอะไร เราจะใช้การสื่อสารผ่านเวทีรถขยายเสียง โทรโข่ง และขอให้ผู้ชุมนุม ฟังและปฏิบัติตามกรอบที่แกนนำกำหนดเพื่อให้การเคลื่อนขบวนหรือการชุมนุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย