xs
xsm
sm
md
lg

“วราเทพ” ปัดปาหี่ปฏิรูป เชื่อหลังถกนิรโทษฝ่ายค้านท่าทีเปลี่ยน แต่รับไม่หวังงานสมบูรณ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (แฟ้มภาพ)
รมต.สำนักนายกฯ และ รมช.เกษตรฯ เผยวางคนคุยปฏิรูปไว้เกือบร้อย มีคนตอบรับเพียบ รอสภาผ่านนิรโทษก่อนฝ่ายค้านคงมีท่าทีเปลี่ยนไป แย้มอาจคุยกันก่อนไม่รอ ยันทำไม่หวังให้สมบูรณ์ ระบุชวนองคมนตรีร่วมด้วย บอกไม่อยากให้คิดเรื่องปาหี่ วอนลดทิฐิ

วันนี้ (8 ส.ค.) ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 13.00 น.นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะที่ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี ให้เป็นผู้เชิญกลุ่มบุคคลต่างๆ เข้าร่วมในเวทีสภาปฏิรูปการเมือง ว่า รายชื่อของกลุ่มบุคคลต่างๆ ที่วางไว้มีประมาณ 50-100 คน แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการตอบรับเข้ามาด้วย โดยขณะนี้มีผู้ตอบรับอย่างเป็นทางการและไม่ต้องการให้เปิดเผยอีกหลายท่าน ส่วนฝ่ายค้านและกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) นั้น ได้มีการเชิญไปแล้ว แต่ยังไม่ได้ตอบรับมา

ผู้สื่อข่าวถามว่า ฝ่ายค้าน ทั้ง นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ หรือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค พูดชัดเจนว่าจะไม่เข้าร่วมเวทีปฏิรูปการเมือง นายวราเทพ กล่าวว่า ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้ รอเวลาให้สภาพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ให้จบก่อน หลังจากนั้นเขาอาจจะมีท่าทีที่เปลี่ยนแปลงได้ หลังจากกรรมาธิการในสภา เวทีนี้ก็ทำคู่ขนานกันไป และตนเชื่อมั่นว่าหลังจากพ.ร.บ.นิโทษกรรมที่พิจารณาอยู่ขณะนี้ เป็นอย่างไร ก็จะกลับมาดูกันอีกครั้ง ทั้งนี้รูปแบบจะเป็นไปตามความประสงค์ของผู้ร่วมหารือ รัฐบาลจะไม่เข้าไปชี้นำหรือมีเงื่อนไข

เมื่อถามว่า กลุ่มที่ปฏิเสธเข้าร่วมเวทีนี้จะมีความพยายามตื้ออีกรอบให้เข้าร่วมหรือไม่ นายวราเทพ กล่าวว่า คนที่เชิญมาร่วมก็มีจำนวนที่พอประมาณ ก็อาจจะมีการเริ่มต้นหารือกันไปก่อน และหลังจากนั้นก็ค่อยเพิ่มเติมเขามา เมื่อถามว่า หากฝ่ายที่เป็นคู่ขัดแย้งไม่มาร่วมจะทำให้เวทีนี้สมบูรณ์หรือไม่ นายวราเทพ กล่าวว่า การทำเรื่องนี้ไม่ได้คาดหวังว่าจะสมบูรณ์เลย เพราะครั้งแรกก็คือว่าเป็นการมารวมตัวและแสดงความคิดเห็นโดยอิสระ หากจะมีอะไรเกิดขึ้นก็ให้เป็นไปโดยตามธรรมชาติ

เมื่อถามว่า อดีตนายกฯ บางท่านเป็นประธานองคมนตรี ถือว่าเป็นที่ปรึกษาพระมหากษัตริย์ จะไปดึงมาเข้าร่วมเหมาะสมแล้วหรือไม่ นายวราเทพ กล่าวว่า ก็จะต้องพิจารณาด้วยความรอบคอบ เพราะการกำหนดชื่อในเบื้องต้น ก็เอาคนที่เป็นอดีตนายกฯ อดีตประธานรัฐสภา บังเอิญว่าบางท่านมีตำแหน่งที่เป็นประธานองคมนตรี องคมนตรีก็คงต้องดูกันอีกครั้ง อย่างไรก็ตามการทาบทามเชิญยังดำเนินการอยู่ยังไม่จบสิ้น โดยการเชิญใช้การติดต่อประสานภายในแบบไม่เป็นทางการ หลังจากตอบรับแล้วจึงจะทำเรื่องอย่างเป็นทางการต่อไป และขณะนี้ก็ติดต่อไปเกือบหมดแล้ว แต่การตอบรับกลับมายังไม่ครบ

“ผู้ที่เข้าร่วมที่มีจำนวน 50-100 คนนั้น เพราะเรานับจำนวนคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในแต่ละฝ่าย เช่น กลุ่ม พธม.อาจจะไม่มาเพียงคนเดียว เพราะหากน้อยกว่านี้ก็จะไม่ครบ ถ้ามากไปก็จะทำให้การประชุมเป็นเรื่องลำบาก ส่วนองค์กรอิสระก็อยู่ในแนวทางเช่นกัน แต่องค์กรอิสระอาจมีสถานะหรือจุดยืนที่จะเข้าร่วมไม่เหมือนคนอื่น เพราะองค์กรอิสระมีสถานะทางกฎหมาย ซึ่งต้องดูว่าจะเข้ามาในตอนต้นหรือเข้ามาเป็นส่วนประกอบหลังจากเรามีแนวทางแล้ว และไม่อยากให้คิดว่าการทำเรื่องนี้เป็นเรื่องปาหี่ เพราะถ้าทุกคนมองว่าทำอะไรแล้วมีเงื่อนไขที่หวังผลทางการเมือง หรือเป็นการทำไม่จริงจัง บ้านเมืองก็เดินไปไม่ได้ ดังนั้นต้องเปิดโอกาส ซึ่งเราก็จะพยามทุกวิถีทาง เหมือนที่นายกฯ บอกว่าจะสำเร็จหรือไม่ ไม่ใช่ประเด็น แต่จะต้องลองทำให้เห็นว่าเรามีความตั้งใจที่จะแก้ปัญหาร่วมกัน หาทางออกร่วมกัน อย่างไรก็ตามเวทีนี้ยังเชื่อว่าจะเกิดขึ้นได้แน่ เพียงแต่ว่าจะไปสู่ระดับไหน ก็ต้องดูรูปร่างหน้าของคนที่จะมาร่วมก่อน” รมต.ประจำสำนักนายกฯ กล่าว

เมื่อถามว่า มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าสภาปฏิรูป จะไม่ประสบความสำเร็จเพราะมีความเห็นที่แตกต่าง นายวราเทพ กล่าวว่า ประเด็นนี้ก็รับฟัง ทุกอย่างต้องช่วยกันหาทางออก ตรงนี้คือหนึ่งในการหาทางออก ซึ่งตัวอย่างที่ชัดเจนที่สมาชิกผู้แทนราษฎรเองยังไม่ร่วมหาทางออกกันในสภา

“ส่วนใหญ่คนไทยเป็นอย่างนี้ ถ้าบ้านเมืองยังไม่เกิดวิกฤตจริง ถึงขนาดจวนตัว ทุกคนเอาทิฐิตัวเองเป็นที่ตั้ง ทำอะไรที่ตัวเองอยู่ฝ่ายตรงข้ามจะมองต่าง อยากให้ทุกฝ่ายละลงเรื่องทิฐิลงบ้าง ปล่อยวางมาคุยกันก่อน ขณะนี้ยังไม่พูดคุยกันเลย วันนี้พูดกันผ่านสื่อ เวทีใคร เวทีมัน ขอให้ลงมานั่งจับเข่าคุยกัน ทำได้หรือไม่ได้อย่างไรแล้วค่อยมาว่า น่าจะเริ่มต้นอย่างนี้มากกว่า” นายวราเทพกล่าว

เมื่อถามว่า จะมีปัจจัยอะไรที่จะมาร่วมมือได้ นายวราเทพ กล่าวว่า ความจริง ความตั้งใจ พร้อมด้วยเจตนารมณ์ที่เราบอกกับสาธารณชนไปแล้ว ว่ารัฐบาลอยากเห็นอนาคตของประเทศ และมีทางออกไม่ทิ้งปัญหาให้กับลูกหลาน หากทุกคนยึดหลักเป็นที่ตั้ง เรื่องนี้ไม่แท็คติคอะไร ไม่ต้องไปโน้มน้าว เพราะอยู่ในใจของคนไทยที่รักสงบ รักสันติ ถ้าลดในเรื่องการเป็นฝ่ายหนึ่ง ลดอาฆาตมาดร้าย การมาร่วมมือกันจะเกิดขึ้นได้ เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้มีการติดต่อไปหรือยัง เพราะเป็นอดีตนายกฯ ด้วย นายวราเทพ กล่าวว่า ยังไม่ได้ติดต่อ และไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ติดต่อ ซึ่งการพูดคุยอาจจะมีเงื่อนไขในเรื่องของความพร้อม หรือข้อจำกัดด้วย ซึ่งกรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ยังมีข้อจำกัดอยู่ในการร่วมพูดคุยกันอยู่ แต่ก็คงไม่มีข้อจำกัด ซะทีเดียว เพราะปัจจุบันสามารถติดต่ออย่างไรก็ได้


กำลังโหลดความคิดเห็น