xs
xsm
sm
md
lg

“ประชา” ง้อโจร! ปัดล้มโต๊ะอ้างแค่ชะลอ บอกเลิกคุยทำชาวใต้เสียขวัญ ป้องบีอาร์เอ็นไม่ได้ยิงอิหม่าม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี (แฟ้มภาพ)
รองนายกฯ เห็นคลิปบีอาร์เอ็นเลิกคุยแล้ว ปัดล้มโต๊ะยังเชื่ออยากเจรจา บอกแค่ชะลอจนกว่าจะตอบ 5 ข้อเสนอ รอประชุม ศปก.กปต.สัปดาห์หน้า ยันเริ่มทำแล้วบางข้อ อ้างชาวใต้เสียขวัญถ้าเลิก ป้องโจรถกรัฐไม่ได้ยิงอิหม่าม คาดออกหมายจับได้เร็วๆ นี้ เชื่อไม่ต้องมีคนกลาง ไม่ปรับแผน ระบุยังไม่โดนครอบงำ

วันนี้ (8 ส.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 09.00 น. พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ยอมรับว่า ได้รับการรายงานจากผู้ประสานงานฝ่ายไทยเรื่องข่าวที่บีอาร์เอ็นปล่อยคลิปล้มโต๊ะการเจรจากับฝ่ายไทยแล้ว และได้เห็นคลิปดังกล่าวแล้ว ซึ่งทางสันติบาลฝ่ายไทยที่ทำหน้าที่ประสานงานได้แจ้งมาว่าทางบีอาร์เอ็นยังไม่ชัดเจนในเรื่องนี้ เขายังเหมือนกันว่าการเจรจาเป็นหนทางที่ดีที่สุด จึงคิดว่าน่าจะมีการเจรจาต่อไป เพียงแต่ขอรับคำตอบ 5 ข้อที่ยังค้างกันอยู่

“ความจริงแล้วยังไม่มีการล้มโต๊ะ เพราะเขาเองก็เห็นว่าการเจรจายังมีความสำคัญอยู่ เพียงแต่ช่วงนี้เขาจะขอชะลอการพูดคุยกันไว้ก่อน จนกว่าจะได้รับคำตอบจากทางฝ่ายไทยเรา 5 ข้อที่เขาเสนอมาว่าฝ่ายไทยจะตอบเขาอย่างไร เพราะเรายังไม่มีคำตอบให้เขาเลย เขาเลยอยากรอความชัดเจนตรงนี้ก่อน ซึ่งใน 5 ข้อนั้นเท่าที่จำได้คือ 1. รัฐสยาม (รัฐไทย) ต้องให้มาเลเซียเป็นคนกลางในการเจรจา ไม่ใช่ผู้อำนวยความสะดวก 2. ต้องเป็นการพูดคุยระหว่างชาวมลายูปาตานีที่นำโดยกลุ่มบีอาร์เอ็นกับฝ่ายสยาม 3. ในระหว่างการพูดคุยจะต้องมีผู้สังเกตการณ์จากประชาคมอาเซียน โอไอซี (องค์การการประชุมอิสลาม) และเอ็นจีโอ (องค์กรพัฒนาเอกชน) 4. รัฐสยามต้องปล่อยนักโทษที่ถูกคุมขังและยกเลิกหมายจับทั้งหมดโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ และ 5. รัฐสยามจะต้องยอมรับว่ากลุ่มบีอาร์เอ็นเป็นองค์กรเพื่อการปลดปล่อยปาตานี ไม่ใช่กลุ่มแบ่งแยกดินแดน ซึ่งเรื่องนี้จะได้คำตอบชัดเจนก็ต่อเมื่อได้มีการประชุมศูนย์ปฏิบัติการคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.กปต.) ก่อน” พล.ต.อ.ประชากล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า เราจะไปยอมเจรจากับเขาทำไม เราต้องเป็นตัวของตัวเอง พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับพี่น้องทางใต้เราด้วย ถ้าเราประกาศยุติการเจรจาก็จะทำให้เสียขวัญกันหมด เมื่อถามว่า เหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในช่วงหลังนี้ เป็นฝีมือของบีอาร์เอ็นที่ต้องการตอบโต้ไทยที่ไม่ทำตามเงื่อนไข 5 ที่เขาเสนอหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า อย่างกรณีเหตุการณ์ยิงโต๊ะอิหม่าม ยะโก๊บนั้น ทางบีอาร์เอ็นก็ปฏิเสธมาแล้วว่าไม่ใช่ฝีมือเขา เป็นเรื่องของผู้ที่ไม่ต้องการให้การเจรจาประสบความสำเร็จ ซึ่งเรื่องนี้ได้มีการสืบสวนสอบสวนพยานเพื่อคลี่คลายคดีนี้ ซึ่งแนวโน้ม 90% แล้วที่จะสามารถออกหมายจับได้ 2-3 คนในเร็วๆ นี้ ซึ่งได้กำชับไปแล้วว่าการทำคดีต้องมีความละเอียด และชัดเจน

เมื่อถามว่า ในเงื่อนไข 5 ข้อนี้มีการวิเคราะห์แล้ว เราควรจะมีคำตอบให้เขาไหม และเราควรจะมีการยื่นข้อเสนออะไรไปที่เขาบ้าง พล.ต.อ.ประชากล่าวว่า คงต้องมีการหารือกันในที่ประชุมก่อน ศปก.กปต.ที่นายกฯทำหน้าที่ประธาน ก่อน เพราะนายกฯ ทราบเรื่องนี้แล้ว และเห็นว่าน่าจะมีการหารือกันในที่ประชุม ศปต.กปต.เพราะ ศปต.กปต.ถือเป็นยุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาชายแดนภาคใต้ ซึ่งก็คงเป็นสัปดาห์หน้า เพื่อหารือเรื่องเหล่านี้ให้ชัดเจน และเชื่อว่าภายหลังการประชุมกปต.จะมีข้อสรุปที่ดี แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะทำตามเงื่อนไขของบีอาร์เอ็น เพราะเราต้องดูก่อนว่าใน 5 ข้อนั้นเป็นอย่างไร และจะสามารถปฏิบัติได้มากน้อยแค่ไหน แต่ที่รู้ๆ เราก็ทำอยู่แล้วในบางข้อ

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะให้อาเซียนหรือหน่วยงานอื่นมาเป็นคนกลาง รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่น่าจะพัฒนาไปถึงขั้นนั้นเพราะขณะนี้เราก็มีมาเลเซียเป็นผู้อำนวยความสะดวกอยู่ เมื่อถามว่าความจริงแล้วมาเลเซียก็ถือว่ามีส่วนได้ส่วนเสีย ทำไมไม่เอาประเทศอินโดนีเซียหรือใครที่เป็นกลาง พล.ต.อ.ประชากล่าวว่า ถือเป็นประเด็นหนึ่งที่เราคงต้องหยิบยกขึ้นมาพิจารณากันเหมือนกัน เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้ที่เราขอให้เขาหยุดการกระทำก่อการร้ายที่ผ่านมา จนเกิดความเสียหาย เราต้องให้เขาตอบเราบ้างหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า หลังจากที่เรามีข้อสรุปที่ชัดเจนในที่ประชุม ศปก.กปต.แล้ว เราก็คงมีบางข้อที่ต้องถามเขากลับไปด้วยเช่นกันว่าทำไมต้องมีเงื่อนไขนี้ ประเด็นนี้สอบถามกันได้

เมื่อถามว่า ในส่วนของผู้ประสานงานภายในได้มีการพูดคุยกันบ้างหรือไม่ พล.ต.อ.ประชากล่าวว่า เขาก็มีการพูดคุยกันอยู่อย่างต่อเนื่อง เมื่อถามว่ามีการประเมินกันหรือไม่ว่า หากเจรจาต่อจะมีผลดี หรือผลเสียอย่างไร หรือถ้าไม่มีการเจรจาจะเป็นผลดี ผลเสียอย่างไร พล.ต.ประชากล่าวว่า ถ้าไม่มีการเจรจา ก็จะเป็นการปฏิบัติการทางด้านทหารแต่เพียงฝ่ายเดียวซึ่งไม่น่าจะถูกต้อง

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการปรับบทบาทของฝ่ายไทยหรือไม่ เพราะมีการติติงมาตลอดว่าฝ่ายเรามีท่าทีที่เป็นรอง เป็นฝ่ายตามอยู่ตลอด รองนายกฯ กล่าวว่า ตนมองว่ายังไม่น่าจะไปถึงจุดนั้น เป็นการหารือกันเพื่อหาข้อยุติร่วมกันมากกว่า เราไม่ได้อยู่ภายใต้การครอบงำของเขา หรือไม่ใช่ว่าเขาสามารถมาคอนโทรลเราได้


กำลังโหลดความคิดเห็น