xs
xsm
sm
md
lg

“ประชาธิปัตย์”จอมลีลาปาหี่ ไร้สาระ มวยล้มต้มคนดู

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

การ์ตูน แหลเพื่อพี่ หัวเรื่อง ...กูว่าแล้ว ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 1 ส.ค.2556  ทำนายตอนจบของม็อบนำโดยแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ได้อย่างแม่นยำ
รายงาน โดย ทีมข่าวการเมือง

โหมโรงกันข้ามคืน พรรคประชาธิปัตย์ปลุกระดมมวลชนแฟนคลับต่อต้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ ที่พรรคเพื่อไทยนำเข้าสู่การพิจารณาของสภา จัดหนัก จัดเต็ม

ด้วยถ้อยคำระคายหู ได้ใจฮาร์ดคอร์ไปเต็มๆ

รุ่งเช้าแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ชุดใหญ่นำโดย ชวน หลีกภัย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สุเทพ เทือกสุบรรณ บัญญัติ บรรทัดฐาน รวมพลเดินนำหน้ามวลชนเตรียมเผชิญหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตรึงกำลังล้อมรัฐสภาเหมือนไข่ในหิน

ท่ามกลางการลุ้นระทึกว่า จะมีการปะทะ เกิดความรุนแรงหรือไม่ สุดท้ายก็จบลงด้วยความละมุนละม่อม เจรจาอะลุ้มอะล่วยด้วยดี

แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ยังไม่พร้อมเล่นบทบู๊ล้างผลาญ ยอมให้มวลชนมาส่งเพียงด่านสกัด พร้อมกราบลาขอเข้าไปทำหน้าที่ในสภา ท่ามกลางความโล่งอกโล่งใจของหลายฝ่าย โดยเฉพาะรัฐบาล

สัญญาณลั่นกลองรบแผ่วลงไป ตั้งแต่ "เทพเทือก" ประกาศเชิงกั๊กว่าตอนนี้เป็นเพียงการแสดงพลังส่วนหนึ่ง เพราะร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมยังเป็นเพียงการพิจารณาในวาระที่ 1 ยังมีวาระ 2 และ 3 อีก ซึ่งต้องใช้เวลาการพิจารณาอีกสักระยะ

แต่หากผ่านสภาวาระ 3 เมื่อใด เมื่อนั้นจะถึงเวลาลุยแตกหัก

ชี้ชัดว่า 7 ส.ค.ยังไม่ใช่วันดีเดย์โค่นล้มรัฐบาล จังหวะลุยจึงยังไม่สุดซอย ประกอบกับเมื่อประเมินสถานการณ์รอบด้านแล้วเห็นชัดว่าม็อบยังไม่คึกคักเต็มที่ มากันน้อยกว่าที่คาดการณ์ ฝ่ายม็อบอพส.กองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณก็สงบนิ่งในที่ตั้ง ไม่มีแนวร่วมมาเพิ่มเติม มีแต่หดหาย ไม่กล้าเคลื่อนไปไหน แกนนำดูเหลาะแหละ ไม่ใช่ของจริง คนนินทา หมาดูถูก ว่าเป็นเพียงม็อบรับจ้าง

อะไรๆ มันก็เลยไม่คลิก แถวๆดงฮาร์ดคอร์สบถว่า "จบลงแบบมวยล้มต้มคนดู"

สถานการณ์ยังไม่สุกงอมพอ เหตุผลโค่นล้มยังไม่แจ่มชัด รัฐบาลยังไม่โดนจับได้คาหนังคาเขา จึงยังไม่มีชนวนร้อนเผาไหม้รัฐบาล พรรคประชาธิปัตย์เองท่าทีดูแปลกๆ ทำไมจึงโหมเร่งเกมสุมฟืนใส่ไฟกลางสายฝน ใจเร็วใจร้อนไปหรือไม่

แกนนำพันธมิตรที่เชี่ยวชาญการนำม็อบอย่าง "สนธิ ลิ้มทองกุล" ประเมินออกนานแล้วว่ายังไม่ใช่เวลา ม็อบปลุกลำบาก จึงแถลงจุดยืนชัดไม่ร่วมการชุมนุม

สุดท้ายพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องไปเล่นเกมตีรวนในสภาตามคาด ปล่อยม็อบแยกย้ายบ้านใครบ้านมัน ไม่มีการบริหารจัดการหลังแยกตัวไปทำหน้าที่ในสภาแล้ว ถือว่าเสียหาย

แม้จะถูกกล่าวขานว่าเป็นมืออาชีพในสภา แต่นอกสภาเป็นแค่มือสมัครเล่น นำม็อบเหมือนเด็กเล่นขายของ ถ้าจับพลัดจับผลูป่วนในสภาจนกระแสเกลียดชังรัฐบาลคุโชน จะไปรวบรวมไพร่พลอีกครั้ง ม็อบก็กลับบ้านหมดแล้ว!!

กระนั้นก็ตาม เกมการต่อสู้ในสภาของพรรคประชาธิปัตย์ เหมือนตั้งธงกันมาเล่นเกมปั่นป่วน ตีรวนตั้งแต่ต้น ผู้ชมผู้ฟังเห็นอาการชัดเจน จ้องจะขย่มเขย่าให้กฎหมายนิรโทษกรรมต้องสะดุด เลื่อนออกไป หรือสร้างภาพให้ดูเลวร้าย น่าขยะแขยง โดยพรรคประชาธิปัตย์จะเป็นดาราชี้นำประชาชน

ภาพที่ปรากฏกลายเป็นเรื่องน่าเบื่อหน่าย พรรคประชาธิปัตย์จ้องเล่นเกมมากเกินไป โหวกเหวกโวยวาย ทำสภากลายเป็นตลาดสด

ตั้งท่าขวางทุกแง่มุม ค้านปนแค้น หลักการหลุดลอย เสียรังวัดมวยมีเชิงกลายเป็นมวยวัด ไร้กระบวนท่า ค้านกันเรื่อยเปื่อยไร้จุดหมาย

ประมวลเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนตอนนี้กลายเป็นเรื่องไร้สาระ ปาหี่ หลอกต้มคนดู มันเลยปลุกระดมมวลชนไม่ขึ้น รู้ตัวดีว่าลำพังพวกตัวเองในสภาไม่มีทางต่อกรกับพรรคเพื่อไทยที่มีเสียงข้างมากได้ จึงออกมาโหมกำลังปลุกระดมนอกสภาเพื่อเพิ่มความเข้มข้นในสภา ปั่นดีกรีให้ร้อนแรง

โดยเฉพาะคำพูดของ "เทพเทือก" ลั่นคำคุยเขื่องถึงขนาดจะลาออกจาก ส.ส.มานำมวลชนนอกสภา สู้กับรัฐบาลด้วยเกมข้างถนน ฟังแล้วฮึกเหิมคึกคัก แต่ผ่านไปไม่กี่วันคืนท่าทีกลับพลิกเปลี่ยน เหมือนกลัวว่าตัวเองจะไม่มีตำแหน่งส.ส.

พลิกลำขอกลับไปสู้ในสภา ยึดเหตุผลค้านหัวชนฝา ขอให้รัฐบาลถอนร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมออกไป เหตุผลใจความในการคัดค้านไม่แจ่มชัด มีแต่การตั้งข้อสังเกตดักคอว่าอาจจะมีการสอดไส้ ตัดทอน เพิ่มเติมเนื้อหา

แต่ก็ไปปลุกระดมมวลชนกันอุตลุดวุ่นวาย เพียงแค่เห็นเป้าลางๆ ประเด็นมันเลยถูกเบี่ยง โฟกัสไม่ชัดเจน กลายเป็นเรื่องอื่นไป กลายเป็นเรื่องของการโค่นล้มรัฐบาล โค่นล้มระบอบทักษิณ ผิดหลักการค้านของพรรคประชาธิปัตย์ที่เคยค้านเป็นเหตุเป็นผล

วันนี้หลักการยังไม่มั่น มันจึงดูเลื่อนลอยเลอะเทอะ แนวร่วมมวลชนที่ส่วนใหญ่เป็นปัญญาชนก็งุนงงไขว้เขว ไม่เข้าใจท่าทีพรรคประชาธิปัตย์

ประชาชนที่มาร่วมด้วยใจรัก เฮไหนเฮนั่น ก็เฮโลสาละพาไปไหนไปด้วย เดินเท้าเข้าสู่สภาพร้อมวัดใจลุยแตกหัก แต่เมื่อเจอด่านสกัดตั้งมั่นไม่ยอมโอนอ่อน ก็ใจฝ่อ ขาสั่น ตัดสินใจสั่งมวลชนถอยฉาก ไม่กล้านำมวลชนปะทะ กลัวเสียภาพลักษณ์ หวั่นถูกครหาเล่นการเมืองข้างถนน นำม็อบมาก่อเหตุความรุนแรง

ไม่กล้าเสี่ยงทุ่มหมดหน้าตัก ตามที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ ไม่กล้าวัดใจลาออกจากส.ส.ทั้งพรรคมานำมวลชนให้รู้แล้วรู้รอด กลัวแพ้แล้วแพ้ยาว ซ้ำสภาพเนื้อตัวมอมแมม เก็บโอกาสไว้รอคอยน้ำบ่อหน้า หันกลับเข้าสู่การเมืองในสภา แล้วว่ากันในโอกาสต่อไป

แต่กระนั้นเพื่อไม่ให้เสียเชิงจึงจำเป็นต้องเล่นบทคัดค้านขึงขังให้แนบเนียน ขัดขวางทุกรูปแบบไม่ให้กฎหมายนิรโทษกรรมผ่านไปง่ายๆ วาระแรกก็ต้องโขกสับให้รัฐบาลเกิดรอยแผลเป็น ชำแหละแผลไว้รอจังหวะต่อไป อาจจะเพื่อยื่นองค์กรอิสระให้จัดการในดาบต่อไป หรือกรีดแผลไว้รอเวลาในวาระ 2 และ 3

แต่ทว่าเกมในสภาที่งัดกันมาเล่นเอาล่อเอาเถิด มีแต่เสียงก่นดา คนนินทา หมาดูถูก พรรคการเมืองที่ยิ่งใหญ่กลายสภาพเป็นเด็กอมมือ งอแงนอกสภา หาพวกมารุมตีหัวคนอื่น เมื่อไม่สำเร็จเข้ามาเล่นในเกม ก็หาเรื่องทะเลาะ หาเรื่องเซ็งบ่อน กลายเป็นการค้านแหลกลาญ ไร้หลักการ เลอะเทอะไร้สาระ

เป็นจอมลีลา ปาหี่ มวยล้มต้มคนดู ที่แม้แต่พวกตัวเองยังเอียน!!
แกนนำพรรคประชาธิปัตย์นำมวลชนเดินออกจากบริเวณใต้ทางด่วนอุรุพงษ์ในตอนเช้า
ถูกตำรวจสกัดบริเวณแยกถนนราชวิถีตัดกับถนนพระราม 5
พากันเดินเข้าสภา หลังจากบอกมวลชนกลับบ้านอาบน้ำ รอดูสถานการณ์
กำลังโหลดความคิดเห็น