“สุเทพ” ยัวะโดนกล่าวหาอยากเป็นรัฐบาล แฉกลับ “ปู” นัดพบสองต่อสอง หวังชวนร่วมรัฐบาล พร้อมเผยแผนเคลื่อนมวลชนเดินถึงวัดเบญฯ หากตำรวจไม่ยอมให้ผ่านก็หยุดแค่นั้น ให้กลับบ้านรอดูข่าวประชาธิปัตย์ทำหน้าที่ในสภา หวั่นตกหลุมพราง “คำรณวิทย์” ที่มีแผนสร้างเหตุรุนแรงเอาใจนาย ย้ำสู้ถึงวาระ 3 หรือหากประชาชนเจ็บแม้แต่คนเดียว เป่านกหวีดยาวทันที
วันที่ 7 ส.ค. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวบนเวทีผ่าความจริง ตอนหนึ่งว่า เราไม่เคยคิดล้มล้างรัฐบาล แต่ต้องการเตือนสติว่ามีหน้าที่รักษากฎหมายบ้านเมือง มีหน้าที่ปกครองดูแลประเทศตามหลักนิติธรรม ไม่ใช่ทำลายหลักนิติรัฐของประเทศ เตือนสติให้หยุด แต่ถึงวันนี้วันสุดท้ายต้องการให้โอกาสสำนึก ถอนร่างกฎหมายอัปยศออกไป ถ้ายังดื้อด้าน เราจะล้มรัฐบาล แล้วจะให้บทเรียนที่สำคัญในชีวิตกับคนพวกนี้ว่าประชาชนอย่างพวกเราล้มรัฐบาลด้วยวิธีที่ถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง เราจะระดมสมอง ปัญญา เพื่อต่อสู้ในกรอบของกฎหมาย
มีอดีตผู้พิพากษาท่านหนึ่งได้โทร.มาแนะนำตน ให้แจ้งความต่อรัฐบาลในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เพราะไม่ตามจับนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร มาดำเนินคดี เสร็จเหตุการณ์นี้ตนจะไปดำเนินการแจ้งความ แล้วเล็งไว้แล้วว่าจะแจ้งความต่อ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง เป็น ผบช.น. ที่บอกว่าชีวิตนี้พี่มันให้ ถ้า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ไม่ดำเนินคดีต่อนายกฯ ยิ่งลักษณ์ รมว.ต่างประเทศ รมว.ยุติธรรม เราก็จะดำเนินคดีต่อ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ นี่เป็นตัวอย่างความคิดเดียวที่ผู้อาวุโสโทร.มาแนะนำ แล้วเรายังมีอีกล้านความคิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ รอตั้งรับได้เลย แล้วจะได้เห็นเป็นตัวอย่างว่าประชาชนที่เคารพกฎหมายมีวิธีต่อสู้ล้มรัฐบาลด้วยวิธีถูกต้องตามกฎหมายอย่างไร ที่ไปเกณฑ์เจ้าหน้าที่มามากมาย ไม่ต้องใช้ เพราะพวกเราสู้ด้วยปัญญา สู้อย่างพลเมืองดี ขอให้รับรู้ไว้พวกเราไม่มีวันยอมแพ้ ไม่มีวันเป็นขี้ข้าพวกท่านอีกต่อไป
นายสุเทพกล่าวต่อว่า ขณะที่กล่าวหาว่าพวกตนทนเป็นฝ่ายค้านไม่ได้อยากเป็นรัฐบาล แต่ข้อแท้จริง คือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และนายทักษิณ ได้พยายามติดต่อขอให้ประชาธิปัตย์ไปร่วมรัฐบาลหลายหนแล้ว ท้าให้ฟ้องเลยถ้าไม่จริง จะได้มีพยานเผยให้เห็นว่ากี่ครั้งกี่หนที่ติดต่อให้ไปร่วม แม้เดือนนี้ก็ยังมาชวนอยู่ ถึงขนาด น.ส.ยิ่งลักษณ์ให้ผู้ใหญ่สำคัญที่สุดของบ้านเมืองมาเชิญให้ตนไปพบตัวต่อตัว ตนยังไม่ไป เพราะให้คำตอบไปแล้ว ถ้าจะเจรจากันต้องถอนกฎหมายอัปยศออกไปก่อน ตนจะไม่พูดเรื่องนี้ถ้าไม่ออกมากล่าวหาว่าประชาธิปัตย์อยากเป็นรัฐบาล ตนเลยต้องยอมเสียมารยาทออกมาพูด เพราะคนอย่างเขายังไม่มีมารยาทเลย ต่อไปนี้สู้กันทุกเม็ด มีความจริงเท่าไหร่พูดให้หมด
นายสุเทพกล่าวด้วยว่า ตนโทร.ไปเรียนนายบรรหาร แต่ไม่รับสาย จึงโทร.ไปหาคนใกล้ชิดว่าท่านอย่าไปรับสภาปฏิรูปเลย ปรองดองไม่ได้ ตนขอส่งเสียงไปยังนายบรรหารในฐานะเป็นผู้ใหญ่ที่นับถือ นอกจากจะไม่เป็นเครื่องมือให้เขาแล้ว ควรสั่งลูกพรรคพรรคชาติไทยพัฒนา ให้ไม่สนับสนุนกฎหมายนี้ และอยากเรียกร้องให้ ส.ส.พรรคเพื่อไทยที่เป็นคนดีหลายคน ขอให้ใช้สติ อย่าลงมติกฎหมายนี้ให้ผ่านสภา
นายสุเทพกล่าวอีกว่า พรุ่งนี้เมื่อเดินไปตามเส้นทางถึงถนนศรีอยุธยา แล้วเลี้ยวซ้ายถึงบริเวณวัดเบญจมบพิตรฯ จะหยุดตรงนั้น แล้วส่งตัวแทนไปขออนุญาตเจ้าหน้าที่ โดยพูดจาดีๆ ว่าพี่น้องประชาชนเดินทางมาส่งผู้แทนไปทำหน้าที่ในสภา มามือเปล่า ไม่คิดปิดล้อมรัฐสภา ไม่คิดก่อหตุร้ายใดๆทั้งสิ้น ไม่คิดฝ่าฝืนกฎหมาย ถ้าอนุญาตก็เข้าได้ แต่ถ้าไม่ก็อนุญาตก็อยู่แค่นั้น พวกตนกับพี่น้องก็ลากันตรงนั้น แล้วอย่าน้อยใจว่าพวกตนปล่อยมวลชนให้ว้าเหว่ เพราะถือว่าเสร็จภารกิจ ให้พี่น้องกลับบ้านแล้วคอยฟังข่าวพวกตนทำหน้าที่ในสภา พวกตนจะสู้เต็มพิกัด สู้ไปถึงวาระ 2 จะแปรญัตติทุกมาตรา ทุกบรรทัด หากแพ้ก็มาสู้วาระ 3 แพ้อีก เป่านกหวีดยาวเลย ทีนี้ขึ้นทั้งประเทศ
กราบขอพี่น้องพรุ่งนี้ (7 ส.ค.) เดินให้เป็นระเบียบเรียบร้อย จะมีการ์ดคอยดูแล พี่น้องเดินตรงกลาง ส.ส. เดินนำหน้า แล้วขอให้หยุดตรงไหนหยุดตรงนั้น และถ้าเจ้าหน้าที่หน้าเลือดจะทำร้ายให้นั่งลงพร้อมๆ กัน อย่าวิ่งไปชกสวนเป็นอันขาด แล้วเตรียมมือถือ กล้องให้พร้อมไว้คอยถ่ายภาพ ถ้าเจ้าหน้าที่บังอาจทำร้ายพี่น้องบาดเจ็บแม้แต่คนเดียว หมายความว่าถึงเวลาเป่านกหวีดยาว แต่เราต้องทำตัวเป็นพลเมืองดี และช่วยควบคุมพวกเรากันเอง อย่าตกหลุมพรางที่พวกเขาพยายามจะยั่วยุ เพราะมันคิดสร้างสถานการณ์ยั่วยุให้เราก่อเหตุ เราไม่ก่อ แต่ถ้ามันก่อเหตุเจอกัน ถ้าพี่น้องคนไทยไม่ปลอดภัย คนในตระกูลชินวัตรก็ไม่ปลอดภัย ครอบครัวของครม.ทุกคนก็ไม่ปลอดภัย ถ้าเหตุร้ายเกิดขึ้น ก็ให้พวกเขาทำใจได้เลย ว่าประชาชนอย่างเราไม่มีทางเลือกอีกแล้ว
นายสุเทพยังกล่าวด้วยว่า มีข่าวว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) กับ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กำลังขัดแย้งกัน เพราะถ้าตำรวจทำรุนแรง พล.ต.อ.อดุลย์ต้องรับผิดคนแรก แต่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์คิดจะสร้างวีรกรรมเอาใจนายใหญ่ เพื่อหวังลาภยศสรรเสริญในวันข้างหน้า