“บรรณวิทย์” ร่วมกองทัพโค่นแม้ว เชื่อปฏิวัติก่อนยุบสภา “ไทกร” ปูดอีกฝ่ายตั้งวอร์รูมเกาะช้าง

กองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ ลั่นระฆังประกาศระบอบทักษิณต้องพินาศ เปิดตัว “บรรณวิทย์” เสริมทีมเสนาธิการ เจ้าตัวปูดวงพนันออกราคาเชื่อปฏิวัติก่อนยุบสภา “ไทกร” แย้มแกนนำทักษิณตั้งวอร์รูมที่เกาะช้างคอยสั่งการตำรวจ เกิดเรื่องวุ่นตะเพิดผู้ชุมนุมโชว์พระบรมฉายาลักษณ์พ้นเวที อ้างผิดที่ผิดทาง ทำลายสมาธิผู้ปราศรัย อีกด้านช่อง 7 ไม่อนุญาตเอาป้ายโจมตีรัฐบาลติดรถถ่ายทอดสด เจอม็อบโวยไม่ยอมเป็นพวกเดียวกัน

วันนี้ (4 ส.ค.) ที่สวนลุมพินี พล.ร.อ.ชัย สุวรรณภาพ เสนาธิการกองทัพประชาชนโค่นล้มระบอบทักษิณ ได้กล่าวแถลงการณ์บนเวทีชุมนุมว่า การรวมตัวของประชาชนครั้งนี้เป็นการไม่ยอมรับอำนาจภายใต้ปกครองระบอบทักษิณและทุนสามานย์ เพราะระบอบดังกล่าวส่งผลกระทบต่อสังคมไทย โดยเฉพาะเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง เพราะเป็นการปกครองที่ไร้คุณธรรม ซึ่งการต่อสู้ดังกล่าวจึงอยู่ภายใต้ชื่อกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ

“ระบบนี้มีมาอยู่ช้านานฝั่งรากลึกมากว่า 12 ปี ซึ่งต้องใช้เวลาในการต่อสู้ แต่ถ้าประชาชนเข้าร่วมจำนวนมาก ภาระกิจก็สามารถเดินหน้าได้เร็ว” พล.ร.อ.ชัยระบุ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง พล.ร.อ.ชัยอ่านแถลงการณ์จบ คณะเสนาธิการกองทัพประชาชนฯ ได้ประกาศว่า ถึงเวลาลั่นระฆังการต่อสู้โค่นระบอบทักษิณ ยกที่ 1 เริ่มการต่อสู้ จากนั้น ก็ได้ลั่นระฆังเชิญให้ประชาชนเข้าร่วม พร้อมกล่าวคำว่าปฏิญาณ “กองทัพประชาชนจงเจริญ ระบอบทักษิณจงพินาศ” 3 ครั้ง ก่อนเปิดเวทีปราศรัยอย่างเป็นทางการ

นอกจากนี้ คณะเสนาธิการร่วมกองทัพประชาชนฯ ยังได้อ่านมติของคณะเสนาธิการฯ โดยเปิดตัว พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน อดีตรองปลัดกระทรวงกลาโหม เข้าหนึ่งในคณะเสนาธิการกองทัพประชาชนฯ รวมทั้งยังได้เปิดตัวกลุ่ม “V FOR THAILAND” หรือกลุ่มหน้ากากขาว ที่เข้าร่วมการชุมนุมครั้งนี้ด้วย

ขณะที่นายไทกร พลสุวรรณ เสนาธิการกองทัพประชาชน เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า ขณะนี้มีประชาชนเข้าชื่อเป็นอาสาป้องกันให้กับประชาชนที่เข้าร่วมชุมนุม กว่า 2,000 คน และอยู่ระหว่างการจัดระเบียบ โดยการชุมนุมครั้งนี้ไม่ได้ประสานเจ้าหน้าตำรวจเข้ามาดูแลความปลอดภัย เพราะมองตำรวจไม่ใช่ของประชาชนอย่างแท้จริง ทั้งนี้ หากตำรวจต้องการเข้ามาดูแลความเรียบร้อยในพื้นที่การชุมนุมก็สามารถทำได้ แต่ต้องมีการปลดอาวุธ

ด้าน พล.ร.อ.บรรณวิทย์กล่าวว่า ภายใน 7 วัน น่าจะเกิดความเปลี่ยนแปลงบ้างที่ชัดเจน ส่วนกระแสข่าวเรื่องการปฏิวัติ ในวงการพนันเชื่อว่าจะมีการปฏิวัติมากกว่าการยุบสภา

ต่อมาเวลา 16.00 น.บรรยากาศบริเวณโดยรอบสวนลุมพินี มีประชาชนกระจายจับจองพื้นที่โดยการปูเสื่อ เพื่อนับฟังการปราศรัยของแกนนำหลายๆ คนที่ สลับสับเปลี่ยนกันขึ้นเวที โดยเนื้อหาหลักๆ ในการปราศรัยก็มุ่งเน้นไปที่การบริหารงานของรัฐบาล ที่มุ่งเน้นแต่ประโยชน์ของพวกพ้อง ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พยายามจะครอบงำประชาชนด้วนลัทธิทุนนิยม

นอกจากนี้ ระหว่างเวลาที่มีการปราศรัยได้มีผู้ชุมนุมที่นั่งฟังการปราศรัยอยู่หน้าเวที ได้ลุกขึ้นนำพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มาลุกขึ้นโชว์ ทำให้ผู้ที่ดำเนินการปราศรัยในเวลานั้นบอกให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยนำตัวชายคนดังกล่าวออกจากพื้นที่เวทีไป โดยให้เหตุผลว่าเป็นการแสดงความจงรักภักดีที่ผิดที่ผิดทาง และทำลายสมาธิในการปราศรัย

ตัวแทนของกลุ่มหน้ากากขาวกล่าวบนเวทีว่า พวกเราคือเจ้าของประเทศที่ออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อบ้านเมืองในฐานะเจ้าของโดยชอบธรรม และการรวมตัวของพวกเราทุกครั้งคือ การร่วมกันแสดงออก เพราะเมื่อเราคือเจ้าของย่อมมีสิทธิปกป้องสมบัติของตัวเอง จึงขอเชิญชวนประชาชนกลุ่มหน้ากากขาวออกมาร่วมการชุมนุม เพื่อต่อต้านระบอบทักษิณในครั้งนี้

อย่างไรก็ตาม ได้มีเหตุวุ่นวายเกิดขึ้นเล็กน้อย เมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนได้พยายามจะนำป้ายข้อความโจมตีรัฐบาลไปติดไว้ที่รถถ่ายทอดสด (รถโอบี) ของสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ซึ่งทางทีมงานของช่อง 7 ได้บอกกลุ่มผู้ชุมนุมว่าไม่อนุญาตให้นำมาติด ทางกลุ่มผู้ชุมนุมจึงเกิดความไม่พอใจพร้อมระบุว่า “ช่อง 7 เขาบอกว่าเป็นกลาง แต่ไม่ยอมที่จะเป็นพวกเดียวกับเรา”

ต่อมานายไทกรแถลงข่าวถึงมาตรการการชุมนุม โดยกล่าวว่าขณะนี้ทางกลุ่มมวลชนกำลังเดินทางมายังสวนลุมพินี ซึ่งคาดว่าจะมาถึงในช่วงเย็น และจะทำให้เต็มพื้นที่บริเวณลานพระรูปรัชกาลที่ 6 ส่วนการจะเคลื่อนย้ายพื้นที่การชุมนุมในรูปแบบดาวกระจาย และจะไม่ยืดเยื้อหรือไม่นั้น จะต้องพิจารณาตามสถานการณ์ ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ แต่จะมีเพียงการขยายพื้นที่รองรับกลุ่มผู้ชุมนุม หากเดินทางมาเป็นจำนวนมากเท่านั้น

นอกจากนี้ยังเปิดเผยว่า ได้รับรายงานว่ามีการตั้งวอร์รูมของแกนนำระบอบทักษิณ ที่เกาะช้าง จ.ตราด คอยสั่งการมายังตำรวจภูธรภาค 1 กองบัญชาการตำรวจนครบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้จับตาการชุมนุมอย่างต่อเนื่องอีกด้วย

ทั้งนี้ สำหรับกรณีที่มีนายทหารระดับสูงที่ออกมาปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการชุมนุม เนื่องจากได้มีเหตุการณ์คุกคามกดดันจากรัฐบาล และได้มีการพูดคุยกับทหารท่านดังกล่าวแล้ว ไม่ได้มีความโกรธเคืองกันแต่อย่างใด