แกนนำแดงนัดโจกน้อยถกผลงานประจำปี “ธิดา” สั่งแดงอยู่ในที่ตั้ง โอ่รบแน่ถ้ากองทัพหรือองค์กรอิสระล้มรัฐ ยันนิรโทษฯ ไม่ใช่เพื่อตน “วรชัย” หนุนคำ “ปู” แต่อ้างอะไรจะเกิดก็ต้องเดินหน้า ซัด ปชป.ตีรวน ขู่ถ้ารัฐพังสงครามมาแน่ ขนสาวกนับล้านถล่ม “จตุพร” ปูดมือที่ 3 จ่อป่วนอีกแล้ว รอดูรัฐไปคุยฝ่ายอื่นยังไง “เหวง” ลั่นรบครั้งสุดท้ายเพื่อประชาธิปไตยจะได้เกิดสักที สอนพื่อไทยใช้สื่อต่อต้าน โวยเด็กพรรคฮึดฮัด
วันนี้ (3 ส.ค.) ที่วิทยาลัยเทคนิคดอนเมือง เมื่อเวลา 09.00 น. กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้จัดการประชุมแกนนำและผู้ประสานงานทั่วประเทศ มีแกนนำจำนวนมากเข้าร่วม เช่น นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธาน นปช. นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ นายก่อแก้ว พิกุลทอง นพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย นายวรชัย เหมะ ส.ส.เพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช.เข้าร่วม
นางธิดากล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เพื่อที่แกนนำส่วนกลางจะได้รับฟังสรุปผลการทำงานปี 55-56 ของแกนนำทั่วประเทศ และวิเคราะห์สถานการณ์ทางการเมืองของฝ่ายอำมาตย์กับฝ่ายประชาธิปไตย เพื่อสะดวกในการกระจายข่าวสารไปยังประชาชนในพื้นที่ระดับอำเภอ และตำบลอย่างทั่วถึง ทั้งนี้ จากการประเมินกลุ่มคนในระบอบอำมาตย์ที่ออกมาต่อต้านฝ่ายระบอบประชาธิปไตยส่วนใหญ่เป็นมวลชนของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แต่ระยะหลังจะไม่เคลื่อนมาในฐานะของกลุ่มพันธมิตรฯ โดยงานมวลชนของระบอบอำมาตย์แบ่งเป็น 2 ส่วนหลัก คือ งานมวลชนที่เกี่ยวกับหน่วยงานความมั่นคงของรัฐ ได้แก่ ม็อบแช่แข็ง ม็อบ อพส.และมวลชนจากพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี คงไม่อยากเอาดีงานทางสภาแล้ว แต่อยากเป็นแกนนำแข่งกับนายจตุพร และนายณัฐวุฒิ ซึ่งไม่มีทางเทียบกันได้ เพราะคำพูดเท็จไม่มีทางสู้คำพูดที่เป็นความจริงได้
“ขอให้แนวร่วมคนเสื้อแดงอยู่ในที่ตั้งติดตามความเคลื่อนไหว อย่าออกไปชุมนุมเพื่อเผชิญหน้าให้เกิดการปะทะ เพราะจะตกเป็นเหยื่อของกลุ่มที่ต้องการขยายผลสร้างสถานการณ์ นำไปสู่ความวุ่นวายในบ้านเมือง แต่ถ้ากองทัพหรือองค์กรอิสระที่ยังมีบทบาทสูงมากในประเทศ มีแผนที่จะโค่นล้มรัฐบาล ทำให้เกิดสุญญากาศของประเทศ กลุ่มคนเสื้อแดงจะออกมาต่อสู้จนถึงที่สุด โดยที่ไม่เห็นเหตุผลเพียงพอที่กลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณจะออกมาเคลื่อนไหว เพื่อต่อต้านการนิรโทษกรรม เพราะเป็นการทำเพื่อประชาชน ไม่ได้ทำเพื่อแกนนำ” นางธิดากล่าว
นายวรชัยกล่าวถึงกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เสนอตั้งสภาปฏิรูปการเมืองหาทางออกประเทศไทย ว่าเห็นด้วย ซึ่งนายกฯ มีความต้องการระดมความเห็นของฝ่ายที่ขัดแย้งกันในประเทศ ให้มาพูดคุยมีจุดร่วมกันว่าจะเอาอย่างไร ซึ่งเป็นแนวคิดที่ดี แต่ยังยืนยันว่าการนิรโทษกรรมจะต้องเดินหน้าต่อไป เพราะร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เป็นกฎหมายที่จะช่วยเหลือประชาชนทุกสีเสื้อที่ถูกดำเนินคดีในเรือนจำให้ออกมาได้ และเมื่อสภาเลื่อนวาระการพิจารณาร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมมาเป็นวาระแรกในวันที่ 7 ส.ค.นี้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเดินหน้าพิจารณา ที่ผ่านมาตนยังไม่เห็นว่ามีกลุ่มอื่นออกมาแสดงท่าทีคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม มีเพียงพรรคประชาธิปัตย์ที่ออกมาประกาศจุดยืนคัดค้านชัดเจน โดยนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ บอกว่าหากร่างกฎหมายดังกล่าวผ่านวาระ 3 ประเทศจะลุกเป็นไฟ ซึ่งตนอยากบอกว่าถ้าไม่เห็นด้วยแล้วไม่ใช้กลไกสภาก็ขอให้ลาออกจากการเป็น ส.ส. ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวของพรรคประชาธิปัตย์เป็นการออกมาตีรวนโดยมีเป้าหมายเพื่อต้องการล้มรัฐบาล ซึ่งตนบอกเลยว่าถ้าวันนี้รัฐบาลต้องล้มลงไม่ว่าจะรูปแบบใดที่ไม่เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตยสงครามต้องเกิดขึ้นในประเทศแน่นอน จึงอยากขอให้พรรคประชาธิปัตย์หยุดการเคลื่อนไหว
“ผมยืนยันว่าเป็นการนิรโทษกรรมให้ประชาชนเท่านั้นไม่มีอะไรแอบแฝง และจะไม่เอา พ.ร.บ.ฉบับอื่นมารวมด้วยแน่นอน จะตั้งสภาปฏิรูปก็ตั้งไปผมเห็นด้วยก็ทำควบคู่กันไปกับการนิรโทษกรรม วันนี้สภาปฏิรูปเพิ่งเป็นแนวคิดเริ่มต้นใช้เวลาอีกนาน ตอนนี้เราต้องช่วยประชาชนที่อยู่ในเรือนจำให้ออกมาเร็วที่สุด” นายวรชัยกล่าว
นายวรชัยกล่าวต่อว่า สำหรับการชุมนุมของกลุ่มกองทัพประชาชนในวันที่ 4 ส.ค. ตนเห็นว่าไม่มีเหตุผลความชอบธรรมเพียงพอ เพราะจะหยิบยกเรื่องความจงรักภักดีมาอ้าง เราก็มีความจงรักภักดีอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม หากการชุมนุมมีความรุนแรงถึงขั้นล้มรัฐบาลจนรัฐบาลเอาไม่อยู่ คนเสื้อแดง 1 ล้านคน พร้อมทันที ที่จะออกมาช่วยรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง
นายจตุพรกล่าวว่า แนวทางต่อสู้ของคนเสื้อแดงที่ผ่านมา ทำให้รู้ว่าเราควรปฏิบัติตัวอย่างไร โดยในวันที่ 4 ส.ค. ตามที่กลุ่มกองทัพประชาชนจะจัดชุมนุม คนเสื้อแดงจะไม่ออกมาเผชิญหน้าเพื่อไม่ให้เกิดการปะทะ แต่ก็จะไม่ประมาทโดยจะประเมินสถานการณ์หากเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น คนเสื้อแดงสามารถนัดหมายกันได้โดยเร็วอยู่แล้ว ทั้งนี้การบริหารจัดการต่างๆ เป็นหน้าที่ของรัฐบาล ส่วนการรักษาความปลอดภัยก็เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐที่ต้องประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะจากการข่าวพบว่ามีความพยายามให้เกิดเหตุการณ์บางอย่างจากมือที่ 3 ที่เข้ามาสร้างสถานการณ์
“เป้าหมายที่แท้จริงเขาต้องการโค่นรัฐบาล การต้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เป็นแค่ข้ออ้างอย่างหนึ่งถึงไม่มีกฎหมายฉบับนี้เขาก็เดินหน้าไล่รัฐบาล ดังนั้นขอให้คนเสื้อแดงอยู่ในที่ตั้งไม่ต้องออกมาผสมโรงให้เข้าทางฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง” นายจตุพรกล่าว
เมื่อถามว่า คนเสื้อแดงจะส่งบุคคลใดร่วมในสภาปฏิรูปการเมือง นายจตุพรกล่าวว่า เรายังไม่ได้หารือกันต้องรอดูก่อนว่ารัฐบาลจะไปเจรจากับฝ่ายอื่นที่มีปัญหาอย่างไร โดยรัฐบาลต้องพิจารณาไม่ให้เข้าทางของกระบวนการโค่นล้ม ในส่วนของคนเสื้อแดงไม่ได้มีปัญหากับรัฐบาล เราเป็นมิตรกันจึงไม่จำเป็นต้องรีบ ทั้งนี้เชื่อว่าเป็นเจตนาที่ดีของนายกรัฐมนตรี ที่เสนอให้มีสภาปฏิรูปการเมือง
นพ.เหวง กล่าวในการประชุมแกนนำและผู้ประสานงาน นปช.ทั่วประเทศ ว่าคนเสื้อแดงส่วนกลางไม่ได้นิ่งดูดาย การประชุมแกนนำและผู้ประสานงานทั่วประเทศในวันนี้ (3 ส.ค.) เป็นการลั่นกลองศึกในการต่อสู้เผชิญหน้ากับกองทัพของพวกอำมาตยาธิปไตยอย่างไม่ยอมถอยแน่นอน ที่เราเลือกวันที่ 3 ส.ค.เพราะต้องการตัดหน้ากลุ่มอำมาตย์ที่จะมาชุมนุมในวันที่ 4 ส.ค. พวกกองทัพเก๊ เสนาธิการเก๊ และสันนิบาตเก๊ ถอยวันนี้ยังทัน วันนี้เป็นเพียงการประชุมแกนนำ แต่ถ้ามีการเผชิญหน้าทางการเมือง แต่ละจังหวัดต้องระดมไม่น้อยกว่า 2 หมื่นคน ตนรู้สึกว่าการเผชิญหน้าครั้งนี้จะเป็นการรบครั้งสุดท้าย ประชาธิปไตยที่แท้จริงจะได้เกิดขึ้นเสียที และทราบว่าฝ่ายตรงข้ามมีแนวทางในการรบทำลายพวกเราอยู่ 2 แนวทาง คือ 1. สร้างเงื่อนไขให้เกิดรัฐประหาร หากล้มเหลวเขาก็จะเดินตามแนวทางที่ 2. คือใช้องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญปี 2550 มาทำลายรัฐบาลของพวกเรา อย่างไรก็ตาม วันนี้ยังไม่ต้องออกมาเคลื่อนไหวอะไร และให้ฟังแกนนำเพียง 3 คน คือ นางธิดา นายจตุพร และนายณัฐวุฒิ เท่านั้น หากจะเคลื่อนไหวขอให้เคลื่อนเป็นทัพใหญ่อย่าเคลื่อนเป็นเบี้ยหัวแตก
นพ.เหวงกล่าวยืนยันว่า วันที่ 7 ส.ค.นี้ สภาจะพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับนายวรชัย เหมะ และผ่านแน่นอน วันนี้เราต้องการคณะกรรมการสู้ศึกเพื่อต่อสู้กับกองทัพเก๊ ขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย ว่าขอให้ใช้สื่อของรัฐให้เป็นประโยชน์ในการต่อต้านคัดค้านพวกอำมาตยาธิปไตยให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด เหมือนในช่วงที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล วันนี้มีบางคนของพรรคเพื่อไทยไม่เคารพคนเสื้อแดง ทั้งนี้ ตนสงสัยว่าที่มันแตกเป็นเบี้ยหัวแตก เพราะอาจมีบางคนในพรรคเพื่อไทยไปเสี้ยมให้คนเสื้อแดงแตกกันเองหรือไม่ พรรคเพื่อไทยต้องตอบตัวเอง ถ้าไม่มีคนเสื้อแดงพรรคเพื่อไทยจะอยู่ได้แม้เพียงเดือนเดียวหรือไม่
ด้านนายนิสิตกล่าวว่า เราขอประเมินสถานการณ์สักระยะ หากจำเป็นเราจะมีการชุมนุมกันไม่น้อยกว่า 5 แสนคนที่สนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน ซึ่งขอให้แต่ละจังหวัดไปเตรียมความพร้อมไว้ ส่วนการชุมนุมของกลุ่มต่อต้านรัฐบาลหากมีผู้มาร่วมชุมนุมจำนวนมากก็คงเป็นเพราะพรรคประชาธิปัตย์เติมคนให้ วันนี้ฝ่ายตรงข้ามประเมินการชุมนุมในวันที่ 4 ส.ค. และตามด้วยวันที่ 5 ส.ค.ว่าจะชนะขาด ส่วนวันที่ 9 ส.ค. ปิดจบ ซึ่งเขาจบเราจะไม่จบ จะจบได้เขาต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ต่อขบวนการประชาธิปไตย จากนี้ต้องมีการปรับยุทธศาสตร์เพื่อให้พรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดงเดินคู่กันได้ และจากวันนี้ทุกจังหวัดจะต้องมีการตั้งวอร์รูมเพื่อประเมินสถานการณ์อย่างเข้มข้น
