จากที่ลุ้นกันจะได้เห็นพรรคประชาธิปัตย์นำประชาชนตั้งเวทีหน้ารัฐสภาเพื่อแสดงพลังคัดค้านการใช้มติเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรให้ความเห็นชอบร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ฉบับ วรชัย เหมะ และคณะส.ส.เพื่อไทยในวันที่ 7 สิงหาคม 2566
สุดท้ายก็ตามสไตล์พรรคประชาธิปัตย์ที่เก่งแต่ลีลา โชว์แต่ฟุตเวิร์ค ถึงเวลาจริงๆที่ต้องตัดสินใจแบบทีเด็ดทีขาด ก็ดึงจังหวะไปเสียอีก
การคัดค้านกฎหมายล้างผิดให้ทักษิณและเสื้อแดง รู้อยู่แล้วเต็มอกว่าเสียงส.ส.ปชป.รวมเสียงฝ่ายค้านในสภา ต่อให้ยกทั้งมือและตีน ก็แพ้เสียงข้างมากของพรรคร่วมรัฐบาล ดังนั้นแทนที่ประชาธิปัตย์จะขวางร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯให้เต็มที่ไปเลย แต่ปชป.ก็ไม่ทำ
กลับใช้วิธีขอตั้งหลักคัดค้าน 3 สเต็ป-3 ยก
ทั้งที่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการมาก่อนหน้า จากเทพเทือก-สุเทพ เทือกสุบรรณแกนนำพรรคที่พูดบนเวทีผ่าความจริงมาหลายเวทีอย่างแข็งกร้าว และขึงขัง ประกาศจะเป่านกหวีดระดมพลจากทั่วประเทศให้เข้ามากรุงเทพฯเพื่อขัดขวางการออกพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ แต่แล้วสุเทพ ก็เปลี่ยนใจกลับลำ360องศา บนเวทีผ่าความจริงของพรรคประชาธิปัตย์ที่เมื่อ 31 ก.ค. 56 โดยไม่ขอตั้งเวทีปราศรัยคัดค้านหน้ารัฐสภา แต่จะให้น้ำหนักสู้ในสภาฯเป็นหลัก
“ถ้าต่อสู้ในสภาในวาระ 3 ก็แพ้อีก ถึงวันนั้นก็จะมีเสียงเป่านกหวีดว่าเอาเลย ซึ่งผมจะไม่รอให้ใครสั่ง หากถึงวันนั้นจริงก็ไม่มีคำถามอะไรแล้ว เพราะคนพวกนี้มันระยำจริงๆ ดังนั้นตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.จนถึงการพิจารณาวาระ 2-3 เรายังไม่โค่นล้มรัฐบาล เพราะจะให้โอกาสรัฐบาล หากยอมถอยก็ถือว่าเจ๊ากัน แต่หากรัฐบาลยังดึงดันต่อไปถึงวันนั้นเราก็จะล้มรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มไหนเราก็จะเข้าร่วม”
จากคำปราศรัยดังกล่าวของสุเทพ ถอดแผนรอตั้งหลักไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ของปชป.ออกมาได้ดังนี้
เริ่มจากยกแรกก็คือ ช่วงที่สภาฯจะพิจารณาร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ 7 สิงหาคม พรรคจะส่งขุนพลระดับแกนนำพรรคทั้งหมดไปอภิปรายคัดค้านร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯในสภาฯแบบเต็มที่ ชนิดถอดเกล็ดทุกตัวอักษรทุกมาตราของร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯมาชำแหละกันให้เห็นไปว่าร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯมันเป็นร่างพ.ร.บ.ที่จะสร้างปัญหาให้กับประเทศอย่างไร
และหากโดนส.ส.เพื่อไทย ตีรวนการอภิปราย ก็ให้ตาต่อตาฟันต่อฟัน ไม่ยอมให้มีการชิงปิดอภิปรายกันได้ง่ายๆ
ดูแล้วเชื่อว่า การอภิปรายจะลากยาวไปถึงกลางดึกค่อนคืนและมีโอกาสสูงที่จะเลยไปถึง 8 สิงหาคม รู้อยู่แล้วว่า แม้ปชป.อภิปรายกันปากฉีกไปถึงรูหู เอาเหตุเอาผลข้อเท็จจริงต่างๆ มาอภิปรายคัดค้านร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯแต่ก็ยากจะต้านทานเสียงข้างมากของเพื่อไทยได้
ยังไง ปชป.ก็ต้องแพ้โหวตวาระแรกขั้นรับหลักการอยู่ดี
ก็จะไปถึงยกสองคือในชั้นกรรมาธิการฯ ที่ดูจากท่าทีของปชป.แล้ว เชื่อว่าคงส่งตัวแทนพรรคไปร่วมเป็นกรรมาธิการวิสามัญฯพิจารณาร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้แน่นอน รวมถึงจะให้ส.ส.ของพรรคที่ไม่ได้เป็นกรรมาธิการ ส่งคำขอสงวนคำแปรญัตติเพื่อขอใช้สิทธิอภิปรายร่างพ.ร.บ.นี้กันให้หนักอีกครั้งในวาระ 2
หากพบเห็นความผิดปกติ เช่นกมธ.จากซีกเพื่อไทยหางโผล่คิดซิกแซก จะมีการไปเขียนขยายความอะไรต่างๆ ในร่างพ.ร.บ.จากที่ผ่านมาวาระแรกเพื่อหวังฉวยโอกาสไปเขียนขยายความช่วยเหลือทักษิณ ชินวัตรเพื่อให้รอดพ้นคดีความต่างๆ ที่ไม่ใช่แค่คดีก่อการร้าย
อาทิคดีที่ทักษิณถูกสอบสวนและสั่งฟ้องเอาผิดจากคตส.หรือปปช.ก็จะไปเขียนว่าคดีการเมืองหลัง 19 ก.ย. 49 ควรได้รับการนิรโทษกรรมให้คดีหายไปเหมือนไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
อย่างที่ปชป.ตั้งข้อสังเกตุว่าอาจมีการใช้จังหวะในชั้นกรรมาธิการ ฯไปดึงเอาหลักการบางส่วนจากร่างพ.ร.บ.ปรองดองที่เป็นร่างพ.ร.บ.สุดซอยของเฉลิม อยู่บำรุง มาใส่ไว้ในร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ
แม้จะมีนักกฎหมายบางคนหรือส.ส.เพื่อไทยบอกว่าไม่สามารถทำได้ เพราะการไปเขียนอะไรเพิ่มในชั้นกรรมาธิการฯ มากและกว้างขึ้นเกินหลักการและเหตุผลที่ระบุไว้ในวาระแรก จะทำให้ร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวสุ่มเสี่ยงจะมีปัญหาในข้อกฎหมายทันที
ทว่าเรื่องนี้ก็ยังเป็นประเด็นถกเถียงกันอยู่ บางฝ่ายก็บอกว่าอาจทำได้ ถ้าซิกแซกกันดีๆแต่ต้องไม่เขียนขยายความมากเกินไป
เชื่อว่าถ้ากรรมาธิการจากพรรคปชป.เห็นแววไม่ดี เพื่อไทยมันเอาแน่ เพื่อช่วยทักษิณ รับรองได้กมธ.จากปชป.ต้องออกมาโวยวายแน่นอน
กระนั้น การคัดค้านในยกสองของปชป.ทั้งในชั้นกรรมาธิการและการอภิปรายและโหวตในวาระ 2 ก็เหมือนกับยกแรกคือ ต่อให้มีคนยื่นขอสงวนคำแปรญัตติดีอย่างไร มีการอภิปรายให้เหตุผลดีอย่างไร แต่สุดท้ายก็ต้องโหวตแพ้พรรคร่วมรัฐบาลที่ต้องโหวตตามใบสั่งวิปรัฐบาลอยู่ดี
เว้นแต่ว่า เพื่อไทยอาจมีถอยให้บางส่วนเสียเอง เช่นยอมเขียนในชั้นกมธ.ให้ชัดมากขึ้นว่า จะไม่ให้นิรโทษกรรมกับผู้ทำผิดคดีมาตรา 112 จากเดิมที่ร่างของวรชัยในเวลานี้ไม่ได้เขียนไว้ให้ชัดเท่าที่ควร รวมถึงอาจยอมเขียนให้ชัดมากขึ้นในชั้นกมธ.ว่า ความผิดประเภทไหนบ้างที่ไม่สมควรได้รับการนิรโทษกรรม
และกำหนดนิยามให้ชัดว่า แกนนำหรือผู้สั่งการ วัดจากอะไร มีหลักเกณฑ์อย่างไร อย่างทักษิณ แม้จะอยู่ต่างประเทศ ไม่เคยขึ้นเวทีเสื้อแดงปี 53 แต่โฟนอิน-วีดีโอลิงค์มาที่เวทีเสื้อแดงเกือบทุกคืนในช่วงแรกๆ แล้วแบบนี้ถือว่าเป็นแกนนำหรือผู้สั่งการได้หรือไม่ ใครจะชี้ขาดและชี้ขาดแล้ว ประชาชนยอมรับได้
การที่มีแนวคิดจากพรรคร่วมรัฐบาลว่าจะไปโยนให้อัยการหรือศาลเป็นผู้พิจารณาเพื่อคัดกรองตัวบุคคลที่จะได้รับการนิรโทษกรรมเพราะเป็นกลางที่สุด ก็เป็นหลักการที่ดี
แต่ก็อย่าลืมว่าก่อนหน้านี้ ทางตัวแทนศาลเองก็มีคนเคยออกมาแสดงความเห็นว่าไม่เห็นด้วยกับหลักการนี้เพราะศาลเป็นผู้ตัดสินคดี การดึงศาลไปทำหน้าที่คัดกรองหรือกำหนดว่าใครคือแกนนำ ใครบ้างที่ต้องได้รับการนิรโทษกรรมหลังกฎหมายมีผลบังคับใช้ จะเป็นการไปดึงศาลเข้ามายุ่งเกี่ยวกับคดีการเมืองโดยใช่เหตุ
ดูแล้ว หากว่าเพื่อไทย ยอมถอยให้สักก้าวหรือครึ่งก้าว ไปเขียนอะไรต่างๆให้ชัด ยอมรับข้อเสนอของปชป.ที่ไม่เห็นด้วยกับร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯบ้างในบางเรื่อง
เช่นไม่ให้นิรโทษกรรมกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้อาวุธสงครามหรือก่อเหตุใดๆ ในลักษณะการทำร้ายประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐจนบาดเจ็บเสียชีวิต ถ้าเขียนตรงนี้ให้ชัด เพื่อไทยยอมถอยให้บ้าง เพราะหากเป็นคดีอุจฉกรรจ์การจะไปนิรโทษให้ง่ายๆ คนส่วนใหญ่ที่ไม่ใช่เสื้อแดงย่อมไม่เห็นด้วยแน่นอน แต่ดูแล้ว ประเด็นนี้เพื่อไทยคงยืนยันในหลักการเดิมคือให้นิรโทษหมดไม่ว่าจะคดีเล็กคดีใหญ่ แต่ถ้าเพื่อไทยยอมถอยก็อาจทำให้การต้านของปชป.ในยกสองลดน้อยลงไประดับหนึ่ง
ปิดท้ายที่การต้านในยกสามถ้ามาถึงตรงจุดนี้ ไม่ต้องพูดพล่ามทำเพลงกันแล้ว หากประชาธิปัตย์ไม่กลืนน้ำลายตัวเอง ก่อนที่จะไปการโหวตวาระ 3 ที่เป็นกระบวนการโหวตเห็นชอบ ซึ่งก็คือการโหวตที่จะโหวตในวันเดียวกับโหวตวาระ 2 ถ้าเห็นสัญญาณว่า เพื่อไทยไม่ยอมถอยให้ในชั้นกมธ.และในการโหวตวาระ 2 ทางปชป.ก็ต้องเตรียมทำอย่างที่สุเทพพูดไว้ได้เลยว่า
“ได้เวลาล้มรัฐบาลแล้ว”
แม้จะมีเสียงบ่นตามหลังมาว่า ในความดุดันของปชป.ที่จะแปรเปลี่ยนเป้าหมายจากขวางกม.นิรโทษกรรมไปเป็นการล้มรัฐบาลปู-ยิ่งลักษณ์
ช่วงเวลาที่บอกจะเริ่มออกมาไล่รัฐบาล หลังสภาฯเห็นชอบวาระ 3 ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่อย่างน้อยก็เกือบสองเดือน มันก็เป็นการไปเปิดรูระบายหายใจให้ยิ่งลักษณ์-ทักษิณ-เพื่อไทยตั้งหลักได้ช่วงหนึ่ง
ทั้งที่ ความเป็นจริง รู้ก็รู้อยู่ ปชป.สู้ในสภาฯยังไงก็แพ้ ไม่ต้องรอนับยก 1 -2-3 ให้เสียเวลา หากถึงตอนนั้นรอให้สภาฯเห็นชอบวาระ 3 ไปแล้ว ความชอบธรรมที่จะขัดขวางการนิรโทษกรรมจะยิ่งมีน้อยกว่าด้วยซ้ำ เพราะถือว่าผ่านมาแล้ว 3 วาระ และปชป.มีส่วนร่วมด้วยทั้งสามวาระ
คนก็บ่นอุบ ปชป.ทำไม่ได้ดั่งใจ ทำไมไม่เปิดหน้าสู้กันให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย ก็ป็นเรื่องที่ต้องเข้าใจได้ พรรคนี้เขาพวกเป็นห่วงภาพลักษณ์ กลัวเสียยี่ห้อ
เราเชื่อมั่นในระบบรัฐสภา
จู่ๆ จะให้ปชป.รีบออกมาขวางพ.ร.บ.นิรโทษกรรม กลางถนนสัปดาห์หน้านี้เลย พวกปชป.ยังเขินๆกันอยู่เพราะที่ผ่านมาดีแต่หลบอยู่มุมตึกคอยหนุนอยู่เบื้องหลังแล้วก็รอเก็บเกี่ยวชัยชนะและผลประโยชน์ จนช่วงหลังคนรู้ทันมากขึ้น ไม่เอาด้วยกับปชป.แล้ว
ดังนั้น เมื่อถึงคิว ต้องออกมาเล่นเอง มันเลยไม่รู้จะทำยังไง ต้องมีเวลาเตรียมตัวเตรียมใจกันบ้าง
