ประธาน ส.ส.กทม.ประชาธิปัตย์ ย้ำไม่เอานิรโทษเวอร์ชัน “วรชัย” ซัดรัฐหักด้ามพร้าด้วยเข่าจ่อเผชิญหน้าชัด จี้นายกฯ แสดงภาวะผู้นำ ถามอยากให้ชาติกลียุคหรือ จับตาวิปรัฐสับขาหลอกพิจารณาปรองดองทันทีที่เปิดสภา จ่อชงพรรคยื่นกระทู้สดถาม “ปู” ตอบคลิปเสียงฉาว
วันนี้ (28 ก.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ประธาน ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า สาเหตุสำคัญที่พรรคออกมาคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับของนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย เพราะเนื้อหาสาระไม่แตกต่างจาก พ.ร.บ.ฉบับอื่นที่เสนอก่อนหน้านี้ ซึ่งพรรคไม่เห็นด้วยที่จะให้ผู้กระทำความผิดคดีอาญาใช้ข้ออ้างการชุมนุมทางการเมืองมาทำให้พ้นผิดจากการออกกฎหมายนิรโทษกรรม ทั้งนี้พรรคเห็นด้วยว่าบ้านเมืองต้องมีความปรองดองเกิดขึ้น จากความเห็นพ้องต้องกันของกลุ่มบุคคลต่างๆ ในสังคม ไม่ใช่หักด้ามพร้าด้วยเข่าเหมือนที่รัฐบาลพยายามดำเนินการในขณะนี้ เพราะจะก่อให้เกิดปัญหาการเผชิญหน้าขึ้น
นายองอาจ กล่าวว่า มีความชัดเจนว่าจะมีกลุ่มที่สนับสนุนรัฐบาลออกมาชุมนุมสนับสนุนรัฐบาล ขณะเดียวกันก็จะมีคนอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นกลุ่มที่ต่อต้านรัฐบาลหลายกลุ่มแสดงเจตจำนงคัดค้านการกระทำของรัฐบาล ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นกลุ่มใดก็มีโอกาสที่จะเผชิญหน้าทั้งสิ้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีหน้าที่ลดการเผชิญหน้าแสดงภาวะผู้นำเพื่อยับยั้งความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ถือเป็นเวลาที่ดีที่สุดที่จะแสดงออกว่าเป็นนายกฯ ของคนไทยทั้งประเทศไม่ใช่เป็นนายกฯ เฉพาะสีใดสีหนึ่งหรือพวกของตนเท่านั้น หากนายกฯ ทำให้การเผชิญหน้าลดลงจะเป็นสิ่งที่ดีต่อประเทศชาติ ดีกว่าปล่อยให้เกิดความรุนแรงในบ้านเมือง ซึ่งจะเป็นโอกาสในการสร้างคุณประโยชน์ให้ชาติบ้านเมือง
นายองอาจ กล่าวถึงกรณีที่วิปรัฐบาล ระบุว่าจะมีการพิจารณาร่างกฎหมายของนายวรชัย ในวันที่ 7 สิงหาคมว่า จากการติดตามข้อมูลพบว่ามีความเป็นไปได้ที่จะหยิบร่างกฎหมายนี้มาพิจารณาในวันที่ 1 สิงหาคม 2556 หลังการพิจารณากระทู้สดและกระทู้ทั่วไป จากนั้นเข้าสู่วาระกฎหมายดังนั้นรัฐบาลอาจหยิบยกขึ้นมาพิจารณาในวาระแรกของการเปิดประชุมสภาก็ได้ เพื่อให้ฝ่ายต่อต้านเตรียมตัวไม่ทัน เพราะมีการนัดชุมนุมในวันที่ 4 สิงหาคม ดังนั้นการนำร่างกฎหมายของนายวรชัย มาพิจารณาในวันที่ 1 ส.ค.จะทำให้ฝ่ายต่อต้านรวมพลังไม่พอที่จะคัดค้านรัฐบาล
“มีความเป็นไปได้ที่จะมีการสับขาหลอกนำร่างกฎหมายของนายวรชัยมาพิจารณาในวันที่ 1 ส.ค.แต่ไม่ว่าจะพิจารณาวันที่ 1 ส.ค.หรือ 7 ส.ค.ก็ยังมีเวลามากพอที่นายกรัฐมนตรีจะยับยั้งความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นได้ เพราะพฤติกรรมของคนในรัฐบาลต่างแสดงจุดยืนว่าพร้อมใช้อำนาจรัฐอย่างเต็มที่ รุนแรงต่อผู้ที่คัดค้านรัฐบาล นายกฯย่อมรับทราบเรื่องเหล่านี้และเล็งเห็นได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับบ้านเมือง พรรคอยากเห็นรัฐบาลบริหารประเทศให้ครบ 4 ปี แก้ปัญหาให้ประชาชน มากกว่าแก้ปัญหาให้พี่ตัวเองและพวกพ้อง ดังนั้นประเทศจะเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับว่านางสาวยิ่งลักษณ์ อยากเห็นบ้านเมืองเดินไปสู่กลียุคหรือให้สงบเรียบร้อย” นายองอาจ กล่าว
ประธาน ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า ในวันพุธที่ 31 ก.ค.นี้ ที่ประชุม ส.ส. พรรคจะมีการพิจารณาว่าจะยื่นกระทู้ถามสด นายกรัฐมนตรี เรื่องตรวจสอบกรณีคลิปฉาวหรือจะยื่นเป็นญัตติ เพราะคลิปดังกล่าวมีความสำคัญเนื่องจากบุคคลในบทสนทนามีความสำคัญในการบริหารประเทศ และเปิดโปงถึงเบื้องหน้าเบื้องหลังของบุคคลที่พัวพันกับรัฐบาล โดยมีเนื้อหาที่คำนึงถึงประโยชน์ตนเองและพวกพ้องมากกว่าผลประโยชน์ประเทศชาติและประชาชน ซึ่งสิ่งที่ต้องตรวจสอบมีสามประเด็นคือ 1.การวางแผนขยายอำนาจเพื่อยึดอำนาจแบบเบ็ดเสร็จ 2.ใช้บารมีอำนาจทางการเมืองสายสัมพันธ์ทางทหารเข้าไปแสวงหาประโยชน์ในประเทศเพื่อนบ้านจะเกี่ยวข้องกับการทุจริตคอร์รัปชันและการใช้อำนาจโดยมิชอบหรือไม่ และ 3.การแสวงหาความชอบธรรมให้การนิรโทษกรรม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยใช้สภากลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติเป็นเครื่องมือในการออก พระราชกำหนด โดยเชื่อว่าการตรวจสอบดังกล่าวจะเกิดประโยชน์ต่อประเทศบ้านเมือง ให้ได้ทราบข้อเท็จจริงพื่อยับยั้งความเสียหายที่จะเกิดขึ้น