xs
xsm
sm
md
lg

พท.อ้างนิรโทษกรรมไม่มีแบบสุดซอย โวยชุมนุมค้านเป็นพวกใช้กฎหมู่เหนือ กม.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด (แฟ้มภาพ)
รองโฆษก พท. ยันไม่มีนิรโทษกรรมแบบสุดซอย โต้ “แก้วสรร” บิดเบือน หวังเรียกมวลชนร่วมคัดค้าน กล้าพูดเป็นการใช้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย เหน็บ ปชป.ย่ำอยู่กับเงา ชี้คลิปฉาว กลายเป็นคลิปเย็นนำมาซักฟอกในสภาไม่ได้ พร้อมเย้ยคณะเสนาธิการร่วมกองทัพประชาชนเป็นแค่ทหารแก่ ขณะเดียวกันอ้างเฉย น้ำท่วมจันทบุรี โคราช เป็นอุทาหรณ์ สอนคนคิดล้มโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้าน

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีนายแก้วสรร อติโพธิ อดีตสมาชิกวุฒิสภา ระบุ การบรรจุร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เข้าสู่การพิจารณา หากพิจารณาจริงๆ ก็จะรวมพิจารณาทุกร่างที่มีอยู่บรรจุเข้าในวาระการประชุมด้วยกัน ซึ่งจะกลายเป็นร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแบบสุดซอยว่า วันนี้เราก็ยืนยันแล้วว่าร่าง พ.ร.บ.ที่เราเสนอคือ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับนายวรชัย เหมะไม่มี พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแบบสุดซอยสุดถนนอะไร อย่างที่นายแก้วสรรกล่าว มีแต่ความพยายามที่จะบิดเบือนข้อมูล แล้วหยิบมาจินตนาการตามอำเภอใจ

นายอนุสรณ์ กล่าวว่า การออกมาวิเคราะห์เช่นนี้ของนายแก้วสรร มีความพยายามที่จะสร้างความวุ่นวาย ทางการเมืองโดยแท้ การที่นายแก้วสรร ระบุว่า กลุ่มไทยสปริงรอดูความเลื่อนไหว เน้นคุณภาพนั้น ก็คงเป็นเพียงคำพูดแก้ตัวที่คิดว่าเท่ห์ พยายามใช้ลมปากปัดหยากไย่ เอาฝุ่นที่เกาะติดตัวให้หลุด การเปิดตัวภายใต้ชื่อ “ดอกบัวแห่งการตื่นรู้” นั้น มันหมดความงามไปตั้งแต่วันที่นายแก้วสรรและพวก ไปปล้นห้องแถลงข่าวของรัฐสภา ทำเป็นหัวโจกเรียกพรรคพวกออกมาเคลื่อนไหว อย่าใช้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมายโดยอ้างสิทธิเสรีภาพ อย่าป่าวประกาศว่าตนคือประชาธิปไตย ทั้งที่ในใจเต็มไปด้วยเผด็จการ วันนี้ดอกบัวตื่นหรือไม่ตื่นไม่รู้ แต่ที่รู้ช่วยปลุกนายแก้วสรรตื่นจากภวังค์ ลืมตาดูประเทศว่า ทุกวันนี้เขาเดินหน้ากันไปถึงไหนแล้ว

ส่วน นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตัดไฟแต่ต้นลมไม่ดันร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมนั้น รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่าพรรคประชาธิปัตย์ควรออกมาจากเงามืดได้แล้ว มัวแต่คิดว่าตัวเองเป็นรัฐบาล(เงา) เลยเห็นอะไรมืดมัวไปหมด

นายอนุสรณ์ อ้างว่า วันนี้ ประชาชนตาสว่างทั้งแผ่นดิน แต่พรรคประชาธิปัตย์ยังมัวแต่กลัวเงา พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร จนความกลัวทำให้เสื่อม คิดแต่ว่าร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม จะช่วยเหลือ พ.ต.ท. ทักษิณ อย่างไม่ลืมหูลืมตา ไม่เห็นความทุกข์ของประชาชนคนตาดำๆ ที่เป็นเหยื่อทางการเมือง ต้องโทษทางการเมือง ซึ่งทั้งหมด ล้วนมีเหตุจูงใจทางการเมืองทั้งสิ้นการนิรโทษกรรมนั้น ถือเป็นอีกทางหนึ่งที่ทำให้ความขัดแย้งนั้นลดลง แม้จะไม่สามารถทำให้ความขัดแย้งหายไปได้หมดทันที แต่วันนี้เป็นนิมิตหมายอันดี ที่จะได้เห็นการปรองดองซึ่งผู้ที่จะได้รับการนิรโทษกรรมจากร่างพ.ร.บ.ฉบับของนายวรชัย นั้น ก็คือ เหยื่อของกาปราบปราม อันมาจากการสั่งการของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เพราะฉะนั้น หากบุคคลทั้ง 2 ยังมีสามัญสำนึกของความรับผิดชอบควรให้ความเป็นธรรมกับเหยื่อทางการเมืองเหล่านี้

นายอนุสรณ์ กล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมือง หลังวันที่ 1 ส.ค. ที่จะมีการเปิดสมัยประชุมรัฐสภาสมัยสามัญทั่วไปว่า บางส่วนมีความกังวลว่าสถานการณ์การเมืองจะร้อนแรงทันทีที่เปิดสมัยประชุมฯ แต่ส่วนตัว ไม่เชื่อว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่ที่น่าจับตาก็คงจะเป็นประเด็นที่พรรคประชาธิปัตย์ เตรียมนำเรื่องคลิปหลุดมาอภิปราย ขยายประเด็นต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นประเด็นเก่า ถามว่าร้อนมั้ย ไม่ร้อน ตอนนี้เย็นชืดหมดแล้ว เพราะบุคคลที่เกี่ยวข้องชี้แจงไปหมดแล้ว

ส่วนที่คณะเสนาธิการร่วมกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ ก็มีแต่บรรดาทหารแก่ คงไม่สามารถที่จะสร้างแรงกดดันให้สถานการณ์ทางการเมืองร้อนแรงได้ นายประพันธ์ คูณมี จะออกมาเปิดตัวร่วมกับคณะฯก็ตาม ซึ่งทางหน่วยงานความมั่นคงก็ประเมินกำลังว่าพลังด้านนี้ยังมีไม่มากพอที่จะสร้างแรงกดดันได้ เพราะฉะนั้นขอแนะนำให้คณะฯกลับบ้านไปเลี้ยงหลาน เพื่อสร้างความปรองดองสมานฉันท์ภายในครอบครัว แถมจะได้อานิสงค์ในการไม่ขวางกระบวนการปรองดองที่จะเกิดขึ้นภายในประเทศได้อีกด้วย

นายอนุสรณ์ กล่าวถึงกรณีที่ นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ผู้ร้องต่อศาลปกครอง โครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท โดยออกมาระบุว่า ที่ผ่านมาได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครอง พร้อมกับที่ทางรัฐบาลยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองไป โดยขอให้ศาลวินิจฉัยคำขอท้ายฟ้องให้ครบถ้วน โดยเฉพาะการขอให้ยกเลิกหรือเพิกถอนแผนบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาททั้งหมด ว่า สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดจันทบุรีและนครราชสีมานั้น นับเป็นบทเรียนราคาแพงอีกชิ้นหนึ่งของประเทศ

ซึ่งเหตุการณ์น้ำท่วมดังกล่าวส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต และประชาชนได้รับความเดือดร้อนจำนวนมาก วันนี้หากโครงการนี้ยิ่งเดินช้ามากเท่าไหร่ ประชาชน ประเทศชาติ ก็จะยิ่งเดือดร้อนมากเท่านั้น ไม่มีเหตุผลที่ดีเลยหากโครงการนี้จะต้องล้มลง น้ำท่วมปี 54 ยังไม่เข็ด ยังจะนอนขวางลำ ไม่ให้รัฐบาลมาแก้ไข ประเทศไม่เดินหน้า ประชาชนลอยคออยู่กลางน้ำ แต่คนพวกนี้ กลับแหกปากตะโกน ไล่ไม่ให้รัฐบาลเข้ามาบริหารจัดการ ทั้งๆ ที่รัฐบาลพยายามเสนอมาตราการในการบริหารจัดการ ตนรู้สึกเสียใจที่ประเทศนี้มีสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ทั้งที่ควรจะเป็นผู้ใกล้ชิด เข้าใจธรรมชาติรวมถึงรับรู้ปัญหาภัยพิบัติต่างๆ ทำไมยังมองไม่ออกถึงวิธีการแก้ไข โครงการนี้รัฐบาลจัดมาเพื่อป้องกันภัยพิบัติทางธรรมชาติ ป้องกันประเทศ มุ่งเน้นแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำทุกรูปแบบ แต่พวกนี้ ออกมาเป็นตัวตั้งตัวตีที่จะล้มโครงการผ่านศาลปกครอง ซึ่งเหมือนเป็นผู้ที่ทำให้เขื่อนแตกเสียเอง


กำลังโหลดความคิดเห็น