ฝ่ายค้าน บี้ “ปู” ไม่ทำตามคลิปฉาว ติงมัวแต่ยิ้มปล่อย ปชช.ลำบาก ไล่ไอซีทีจับ “โอ๊ค”

“องอาจ” ชี้ คลิปฉาวเผยให้เห็นเบื้องหลัง-หน้า รบ.หวังอำนาจและเงินทอง จี้ นายกฯ เคลียร์แผนยึดกองทัพ ใช้อำนาจหาผลประโยชน์เพื่อนบ้าน ใช้ กห.ล้างผิด “พี่แม้ว” โฆษก ปชป. ตอก รบ.บริหารมั่ว ทั้งข้อมูลจัดการน้ำ บริหารจำนำข้าว แถมมั่วกล่าวหา รบ.มาร์ค หนี้ครัวเรือนสูงกว่า ซัด “ปู” นั่ง ปธ.เอาแต่ยิ้ม แก้ปัญหาไม่ได้ ปชช.ส่อรับเคราะห์ “มัลลิกา” เย้ย รมว.ไอซีที จับ “โอ๊ค” เหตุเลอะเทอะโพสต์ผังล้มข้าว

วันนี้ (13 ก.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่มีคลิปเสียงการสนทนาคล้ายเสียงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และพล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม ว่า คลิปดังกล่าวถือเป็นการเปิดโปงเบื้องหน้าเบื้องหลังที่พัวพันกับรัฐบาล ซึ่งบุคคลทั้งสองในคลิปก็ล้วนแต่มุ่งหวังแสวงหาอำนาจผลประโยชน์ โดยเฉพาะเงินทอง โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ต้องตอบสังคม ใน 3 ประเด็นคือ 1.มีการวางแผนขยายอำนาจ รวบอำนาจ ยึดอำนาจในกองทัพแบบเบ็ดเสร็จหรือไม่ 2.มีการใช้บารมี และอำนาจการเมือง เข้าไปแสวงหาผลประโยชน์ในประเทศเพื่อนบ้านหรือไม่ และ 3.แสวงหาความชอบธรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยใช้สภากลาโหมเป็นเครื่องมือ เพื่อเป็นกระดานหกนำไปสู่การออกกฎหมายนิรโทษกรรมใช่หรือไม่ และนายกฯ ต้องออกมายืนยันต่อสาธารณชนว่า จะไม่ให้เรื่องที่ปรากฏในคลิป จะไม่เกิดขึ้นในบ้านเมือง

ส่วน นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า จากการบริหารงาน 2 ปีของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พบว่ามีหลายเรื่องที่รัฐบาลบริหารแบบไร้ประสิทธิภาพ ขาดข้อมูล ข้อเท็จจริง ให้ตัวเลขที่ผิดพลาดต่อสังคม เท่ากับเป็นการบริหารที่มั่ว คือ 1.มั่วข้อมูลในโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท เช่น กรณีที่ นายสุพจน์ โตวิจักษณ์ชัยกุล เลขาธิการสำนักนโยบายและบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ (สบอช.) ระบุว่าการไม่กำหนดราคากลางเป็นความเห็นสอดคล้องกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งไม่เป็นความจริง และป.ป.ช.ก็ออกมายืนยันแล้วว่าจะต้องมีการเปิดเผยราคากลาง 2.มั่วการบริหารโครงการรับจำนำข้าว จนเกิดความเสียหายต่อประเทศ 3.มั่วตัวเลขเรื่องหนี้สินครัวเรือนว่า รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีหนี้สินภาคครัวเรือนสูงกว่ารัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทั้งๆ ที่มีหลายสถาบัน เช่น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และกระทรวงการคลัง ออกมายืนยันตรงกันว่า หนี้ครัวเรือนของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ มากกว่ารัฐบาลนายอภิสิทธิ์

“ผมอยากแนะนำไปยังนายกฯว่า ควรคัดคนที่มีคุณภาพเข้ามาทำงานให้เกิดประโยชน์กับประเทศ ไม่ใช่ออกมาตอบโต้อย่างหาสาระไม่ได้ และนายกฯ ควรมุ่งมั่นแก้ปัญหาอย่างแท้จริง ไม่ใช่นั่งยิ้มแฉ่งเป็นประธานการประชุมต่างๆ แต่กลับหาสาระไม่ได้เลย โดยเฉพาะหลังเป็นประธานการประชุมแก้ปัญหาเรื่องค่าครองชีพ นายกฯ บอกว่าสามารถคุมค่าครองชีพได้ แต่กลับปล่อยให้กระทรวงพลังงานขึ้นราคาแก๊สแอลพีจี ในวันที่ 1 ก.ย.เท่ากับว่า ในปีหน้าเราจะได้ใช้แก๊สแอลพีจี ในราคาที่เพิ่มขึ้นกิโลกรัมละ 6 บาท ซึ่งจะทำให้ตายกันทั้งประเทศ ยังไม่รวมกับที่มีการขึ้นราคาน้ำมันอยู่เรื่อยๆ อีกทั้งราคาพืชผัก ผลไม้ก็พุ่งสูงขึ้นทุกชนิด” นายชวนนท์ กล่าว

ขณะที่ น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ประกาศจะใช้ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ สกัดกั้นผู้แสดงความเห็นต่อต้านโครงการรับจำนำข้าว ในสังคมออนไลน์ว่า ตนขอเรียกร้องให้ น.อ.อนุดิษฐ์ จัดการเป็นคนแรกคือ นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีการโพสต์ถึงผังคนล้มข้าว โยงใยคนสะเปะสะปะ ถือว่าความเป็นเครือข่ายรัฐบาลในการแปรข้อมูล เท่ากับมีพฤติกรรมที่กลบเกลื่อนความจริง ใส่ร้ายป้ายสีคนอื่น กระทำผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ดังนั้นน.อ.อนุดิษฐ์ ควรตั้งสติ และแก้ปัญหาให้ตรงจุด