“องอาจ” ยัน ปชป.ค้านร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับแก๊งแดงเต็มที่ เชื่ออำพรางช่วย นช.”แม้ว-แกนนำแดง” พ้นผิดในขั้นแปรญัตติ ยังหวังกลุ่มที่ไม่ร่วมคัดค้านเอาด้วยหลังได้ฟังเหตุผล ปชป. พร้อมไล่ “นายกฯ ปู” ปราบคอร์รัปชันอย่างจริงใจ อย่าถ่มน้ำลายรดฟ้า ขณะเดียวกัน จี้รัฐปรับเกณฑ์การประมูลข้าว ชี้ 6 เหตุผลบริษัทเข้าร่วมน้อย
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่รัฐบาลผลักดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ของนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย เข้าที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันที่ 7 ส.ค.นี้ ว่า ร่างกฎหมายฉบับดังกล่าว มีผู้เข้าชื่อเสนอเป็น ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่นำโดยนายวรชัย และมีการให้เหตุผลว่าจะช่วยคนเสื้อแดงที่แสดงออกทางการเมือง พร้อมยืนยันไม่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือล้างผิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กับแกนนำเสื้อแดง แต่เมื่อพิจารณาเนื้อหาพบว่า เป็นร่างกฎหมายที่เขียนขึ้นมาอำพรางให้ พ.ต.ท.ทักษิณ และแกนนำได้ประโยชน์ เห็นได้จากเหตุผล
1. ในเนื้อหาไม่ได้มีการระบุว่าแกนนำจะไม่ได้ประโยชน์ 2. เมื่อพิจารณาในสภาฯ ได้ ก่อนที่จะพิจารณาก็เป็นไปได้ที่รัฐบาลอาจจะให้นำกฎหมายลักษณะเดียวกันอีก 5 ฉบับ เข้าพิจารณาร่วมกันครั้งเดียว แกนนำและ พ.ต.ท.ทักษิณ จะได้ประโยชน์ทันที 3. กรณีที่นำร่างกฎหมายฉบับอื่นๆ มาร่วมพิจารณาไม่ได้ รัฐบาลอาจให้พิจารณาร่างกฎหมายนายวรชัยฉบับเดียว และตั้งคณะกรรมาธิการฯ โดยให้ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่เป็นเสียงข้างมาก แก้ไขแปรญัตติขั้นตอนนี้จะใส่เนื้อหาอะไรก็ได้ เพื่อช่วย พ.ต.ท.ทักษิณและแกนนำเสื้อแดง
“หลักการและเหตุผลระบุว่าเพื่อประชาชน พ.ต.ท.ทักษิณ กับแกนนำก็เป็นประชาชน จึงถือว่ากฎหมายนี้เป็นการนิรโทษกรรมอำพราง การดำเนินการครั้งนี้เพื่อลดแรงเสียดทานจากการต่อต้านของประชาชน ทำให้ดูเหมือนว่าช่วยเหลือประชาชนและคนเสื้อแดง แต่ข้อเท็จจริงอำพรางหลายชั้นเพื่อนำไปสู่การช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ และแกนนำเสื้อแดง”
นายองอาจยืนยันว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมและกฎหมายอื่นๆ อีก 5 ฉบับที่ค้างอยู่ในสภาฯ เพราะทำลายระบบนิติรัฐนิติธรรมของประเทศรุนแรง และจะคัดค้านอย่างเต็มที่
นายองอาจกล่าวว่า การที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) มีท่าทีไม่ต่อต้านการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมดังกล่าวนั้น พรรคไม่สามารถก้าวล่วงได้ และเป็นจุดยืนแต่ละกลุ่มแสดงท่าทีความคิดเห็นได้ แต่เชื่อว่าหลังจากตนได้ชี้ให้เห็นถึงเหตุผลการช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ กับแกนนำคนเสื้อแดงแล้ว กลุ่มองค์กรต่างๆ จะเข้าใจมากขึ้นว่า ถ้าปล่อยให้เดินหน้าต่อไปจะช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ และแกนนำ
นายองอาจยังกล่าวถึงการที่ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชันไทย พบว่าภาคเอกชน 78 เปอร์เซ็นต์ จ่ายเงินพิเศษให้ข้าราชการและนักการเมืองที่ทุจริตเพื่อให้ได้สัญญาจัดซื้อจัดจ้าง และกว่า 50.8 เปอร์เซ็นต์ จ่ายเงินมากกว่า 25 เปอร์เซ็นต์ ของมูลค่าสัญญา ซึ่งผลสำรวจดังกล่าว เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เคยประกาศจะดำเนินการป้องกันปราบปรามทุจริตจริงจัง ดังนั้นรัฐบาลควรนำข้อมูลจากฝ่ายวิชาการนี้ไปศึกษาเพื่อแก้ปัญหา นายกรัฐมนตรีไม่ควรปล่อยให้ข้อมูลผ่านเลยไปโดยไม่ทำอะไรเหมือนหลายครั้งที่ผ่านมา
อีกทั้งขณะนี้ครบ 2 ปีการบริหารประเทศของรัฐบาล จึงควรใช้โอกาสนี้เอาจริงปราบคอร์รัปชั่นไม่ให้สูงถึง 35 เปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าไม่ดำเนินการอะไร จะทำให้สิ่งที่นายกรัฐมนตรีประกาศเป็นเพียงการถ่มน้ำลายรดฟ้า ไม่เกิดสาระอะไร
นายองอาจยังกล่าวถึงการที่รัฐบาลเปิดเปิดประมูลข้าวในสต๊อกของรัฐบาลโครงการรับจำนำข้าว เมื่อวันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา ล็อตแรกจำนวน 3.5 แสนตัน ปรากฏว่าช่วงเช้าถึงเวลา 14.00 น. ไม่มีบริษัทใดเข้ายื่นแสดงความจำนงขอร่วมการประมูล แต่หลังจากเวลา 14.00 น.ได้มี 5 บริษัทที่เขายื่นเอกสาร ซึ่งปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น แสดงว่าบริษัทส่งออกข้าว ไม่ให้ความสนใจในการเข้าร่วมประมูล จึงอยากให้รัฐบาลทบทวนวิธีการประมูลว่ามีปัญหา อุปสรรคอย่างไร
“ผมคิดว่ารัฐบาลควรปรับหลักเกณฑ์ให้เกิดความเชื่อมั่นว่าหลังการประมูลแล้วจะได้ข้าวที่เหมาะสม มีคุณภาพ เพราะเชื่อว่าสาเหตุที่ทำให้บริษัทส่งออกข้าวไม่กล้าเข้าร่วมประมูล คือ 1. บริษัทผู้ส่งออกข้าวไม่มั่นใจข้าวที่ประมูลได้ เพราะเป็นข้าวในโครงการรับจำนำข้าวที่ถูกเก็บไว้นานกว่า 2 ปี 2. บริษัทไม่มั่นใจว่าจะส่งออกข้าวทันตามทีโออาร์ที่รัฐบาลกำหนดไว้หรือไม่ เพราะทีโออาร์กำหนดให้ส่งออกข้าวภายใน 45 วัน และ 3. ต้องยอมรับว่าตลาดข้าวต่างประเทศขณะนี้นี้ไม่ได้อยู่ในช่วงการซื้อขายข้าวสูงสุด รัฐบาลจึงควรปรับหลักเกณฑ์ใหม่เพื่อให้บริษัทส่งออกข้าวเข้าร่วมประมูลได้”