xs
xsm
sm
md
lg

“ศรีสุวรรณ” ยื่นผู้ตรวจฯ ชงถอด ครม.ไม่แถลงผลงาน พ่วงส่งศาล รธน.วินิจฉัย พ.ร.บ.ร่วมทุน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย
นายกสมาคมพิทักษ์รัฐธรรมนูญ ยื่นผู้ตรวจการแผ่นดินสอบจริยธรรมนายกฯ และครม. ตาม ม.279 วรรค 3 ทำเฉยไม่รายงานผลการบริหารต่อสภาปีละครั้ง ส่อฝ่าฝืน รธน.ชัด พร้อมขอชง ป.ป.ช.ส่งวุฒิฯ ถอด ก่อนพ่วงอีกเรื่องชงศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย พ.ร.บ.ร่วมทุน ขัดแย้งกฎหมายหรือไม่ ด้านโฆษกผู้ตรวจฯ คาดใช้เวลาไม่นาน

วันนี้ (24 ก.ค.) ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมพิทักษ์รัฐธรรมนูญ เข้ายื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ผ่านนายรักษเกชา แฉ่ฉาย โฆษกสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินขอให้ตรวจสอบจริยธรรมของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีในฐานะผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตามรัฐธรรมนูญมาตรา 279 วรรคสาม กรณีไม่แถลงผลงานของรัฐบาลตามที่รัฐธรรมนูญมาตรา 75 บัญญัติว่า รัฐบาลต้องรายงานผลการดำเนินงานต่อรัฐสภาปีละ 1 ครั้ง ซึ่งขณะนี้รัฐบาลบริหารงานมา 2 ปีเศษแล้ว แต่กลับยังไม่มีการดำเนินการดังกล่าว แม้จะไม่กฎหมายที่กำหนดบทลงโทษโดยตรง แต่ก็มีตัวบทกฎหมายที่ให้สามารถดำดำเนินการทางอ้อมได้เพราะเป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ และผิดต่อระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยประมวลจริยธรรมผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง 2551 ข้อ 6 ประกอบข้อ 8 ข้อ 9 ซึ่งอยู่ในอำนาจที่ผู้ตรวจการแผ่นดินจะดำเนินการตรวจสอบและยื่นให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติดำเนินการส่งเรื่องให้วุฒิสภาถอดถอน เนื่องจากถือว่าเป็นการกระทำผิดจริยธรรมผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอย่างร้ายแรง

นายศรีสุวรรณกล่าวว่า นอกจากนี้ยังขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาและเสนอเรื่องพร้อมความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยว่า กรณีมาตรา 28 ของ พ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ 2556 ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 3 เม.ย. ซึ่งระบุว่าหากโครงการใดจะต้องมีการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายของแผ่น ดิน หรือต้องมีการก่อหนี้โดยการกู้ หรือคำประกันโดยกระทรวงการคลังเพื่อใช้จ่ายในการดำเนินโครงการ เมื่อคณะกรรมการให้ความเห็นชอบหลักการของโครงการแล้วให้เสนอโครงการนั้นให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติ โดยให้ถือว่าการอนุมัติของ ครม. เป็นการอนุมัติตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ ว่าเข้าข่ายขัดหรือแย้งต่อรัฐรรมนูญมาตรา 169 ที่กำหนดว่าการใช้จ่ายเงินแผ่นดินจะต้องเป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบระมาณ ซึ่งต้องมีการขออนุมัติต่อรัฐสภาหรือไม่ โดยทางสมาคมฯเห็นว่า มาตรา 28 ของ พ.ร.บ.ร่วมทุนดังกล่าวรัฐบาลตราขึ้นโดยมีเจตนาที่จะใช้งบประมาณโดยหลบเลี่ยงการตรวจสอบจากรัฐสภา เฉพาะอย่างยิ่งการใช้งบประมาณในโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้าน และโครงลงทุนด้านคมนาคม 2 ล้านล้านบาทนั้น เมื่อ ครม.อนุมัติแล้วโดยปกติจะต้องผ่านความเห็นชอบของรัฐสภา แต่เมื่อมาตรา 28 ของ พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ มีผลบังคับใช้คิดว่ารัฐบาลจะตีความว่าทั้ง 2 โครงการเข้าหลักการของ พ.ร.บ.ฉบับนี้ แล้วก็ไม่ต้องนำไปขอความเห็นชอบจากรัฐสภา

ด้านนายรักษเกชากล่าวว่า จะรีบนำเสนอทั้ง 2 ประเด็นให้ผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณา แม้ก่อนหน้านี้จะมีการยื่นเรื่องของให้ผู้ตรวจการแผ่นดินตรวจสอบกฎหมายฉบับนี้ แต่ขณะนั้นยังเป็นร่างกฎหมาย ประกอบกับ มีกับมีการร้องกันไปมาของฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ทำให้การดำเนินการตามคำร้องของผู้ตรวจฯยังไม่แล้วเสร็จ แต่ขณะนี้กฎหมายดังกล่าวเป็นพระราชบัญญัติมีผลใช้บังคับแล้ว และคำร้องมีความชัดเจน คาดว่าการดำเนินการจะใช้เวลาไม่นาน


กำลังโหลดความคิดเห็น