“คำรณวิทย์” ลมออกหู ผู้ตรวจการแผ่นดินจี้ถามจริยธรรมให้ “นช.แม้ว” ติดยศ ทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติในแวดวงสีกากี มั่นใจไม่ผิดจริยธรรม ถือเป็นการให้เกียรติคนที่เคารพประดับยศให้ วีนแตก “ผมถามแม่ผม ไม่ได้ไปถามแม่ใคร” ประชดล่วงหน้าหาก ผบ.ตร.เห็นว่าผิดจริยธรรม พร้อมไขก๊อกก่อนเกษียณราชการทันที เผยผู้ตรวการแผ่นดินมีหนังสือถึง ผบ.ตร.กว่า 2 สัปดาห์ ชี้ “อดุลย์” อ้างไม่เห็นเรื่องส่อเจตนาช่วย “แจ๊ด” หรือบกพร่องในหน้าที่ ต้องมีคำตอบใน 30 วันคาดต้นเดือนสิงหาคมรู้ผล หากช่วยกันผู้ตรวจการสามารถส่งเรื่องให้รัฐมนตรีหรือนายกรัฐมนตรี ลงดาบได้อีกทางหนึ่ง!
วันนี้ (15 ก.ค.) จากกรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นหนังสือไปยัง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และพล.ต.อ.อมรินทร์ อัครวงษ์ จเรตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้พิจารณาและดำเนินการตามอำนาจหน้าที่และประมวลจริยธรรมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่ากรณีที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชากาตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดี ตามประกาศของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ประดับยศและอวยพรตำแหน่ง ผบช.น.นั้นเหมาะสมหรือไม่ ด้วยเหตุผลที่ผู้ตรวจการฯ เห็นว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมและทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และอาจทำให้เกิดข้อครหาในกระบวนการยุติธรรมที่อาจถูกมองว่ามีความไม่เป็นกลางเกิดขึ้น
ผู้ตรวจการฯ จึงอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยจริยธรรมของผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ. 2552 มาตรา 38 ส่งเรื่องไปให้ ผบ.ตร. ในฐานะผู้บังคับบัญชา ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป โดยให้ระยะเวลา 30 วัน และชี้แจงให้ผู้ตรวจการแผ่นดินฯทราบต่อไป
ล่าสุดที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์เปิดเผยถึงเรื่องดังกล่าวว่า เรื่องนี้ก็แล้วแต่ผู้บังคับบัญชาจะพิจารณาอย่างไร แต่ส่วนตัวก็ยืนยันเหมือนเดิมว่าการที่ให้ พ.ต.ท.ทักษิณติดยศให้ก็เพราะมีความเคารพ และถือเป็นประเพณีอยู่แล้ว อย่างกรณีนายตำรวจจบมาใหม่ติดยศ ร.ต.ต.ก็ให้คนที่เคารพประดับยศให้ทั้งนั้น เพราะถือเป็นการให้เกียรติ และมองว่าไม่ได้ผิดจริยธรรมแต่อย่างใด
“ผมคุยกับแม่ผม และแม่ผมสอนเสมอเกี่ยวกับจริยธรรม ดังนั้น การให้ พ.ต.ท.ทักษิณติดยศให้ก็ไม่ได้ผิดอะไร และผมก็ถามแม่ผม ไม่ได้ไปถามแม่ใคร”
พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวอีกว่า ตั้งแต่มารับตำแหน่ง ผบช.น.ทุกคนก็รู้ดีว่าไม่เคยวิ่งเต้นมา ปฏิบัติหน้าที่ควบคุมกฎหมายอย่างดีที่สุด แต่หากผู้บังคับบัญชาเห็นว่าการไปติดยศไม่เหมาะสมก็พร้อมจะยุติการทำงานและเกษียณทันที ทุกอย่างจะได้จบ และส่วนตัวก็สบายใจหากต้องยุติจะได้ไปทำหน้าที่รักษาคนป่วยได้เต็มเวลา
“คนที่ร้องเรียนต่างๆ เรื่องนี้ ผมก็บอกได้เลยว่าไม่มีการโกรธเกลียดอะไรกัน แต่ขอให้ร้องเรียนและดำเนินการเร็วๆ หน่อย เพราะผมเหลือเวลารับราชการอีกเพียง 14 เดือนเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ผมยังไม่ได้พูดคุยกับทาง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.”
เมื่อถามว่าได้พูดคุยเรื่องนี้กับ พ.ต.ท.ทักษิณด้วยหรือไม่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวว่า ไม่ได้คุยเพราะไม่รู้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ที่ไหน อีกทั้งตนเองก็ยุ่งอยู่กับการทำคดีต่างๆ จึงไม่มีเวลา
มีรายงานจากสำนักผู้ตรวจการแผ่นดินแจ้งว่า ผู้ตรวจการแผ่นดินได้ส่งเรื่องไปให้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.เพื่อพิจารณาเกือบสองสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม การที่ พล.ต.อ.อดุลย์ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่ายังไม่เห็นเรื่อง ทั้งๆ ที่คนถูกสอบเป็นถึง พล.ต.ท. มีตำแหน่งสำคัญ ก็ทำให้มองได้ว่าจงใจช่วยเหลือซุกเรื่อง หรือไม่ก็บริหารงานบกพร่อง
อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ยังมีเวลาในการพิจารณา 30 วัน หลังได้รับเรื่อง ถ้าเห็นด้วยกับผลสอบของผู้ตรวจหรือเห็นแย้งจะต้องรายงานกลับมาให้ผู้ตรวจการทราบทันที ถ้ามีการลงโทษจะลงโทษอย่างไร ต้องมีรายงานมาด้วย แล้วจะต้องขึ้นอยู่กับความเหมาะสมกับฐานความผิดหรือไม่ ซึ่งผู้ตรวจจะรับฟังและส่งเรื่องให้ผู้ร้องกล่าวโทษรับทราบด้วยเช่นกัน ซึ่งผู้ร้องจะพอใจว่าเป็นธรรมหรือไม่ ถ้าเห็นว่าไม่เป็นธรรมเรื่องนี้จะต้องยืดเยื้อออกไปอีก ผู้ตรวจการมีอำนาจส่งเรื่องต่อไปให้รัฐมนตรีหรือนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณากำหนดบทลงโทษต่อไปได้